การรบกับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังไม่จบอย่าเห็นว่า ถูกปิดกั้นทุกช่องทางแล้ว จะยอมศิโรราบง่ายๆ?ถึงจะไม่กร่างใหญ่โตมโหฬารเหมือนแต่ก่อน เพราะกำลังคน สัญญาณอินเตอร์เน็ต ไฟฟ้า น้ำมัน ถูกปิดกั้น แต่ยังมีลูกเล่นแบบอื่นส่งมาล่อหลอกเหยื่อทางออนไลน์อยู่เนืองๆ ส่วนใหญ่จะเอารางวัลมาล่อให้กดเข้าลิงก์ดวงดีเข้าไม่ถึงบัญชีธนาคารก็แล้วไป แต่ถ้าซวยเข้าถึงบัญชีธนาคารเมื่อไหร่ก็เรียบร้อยโรงเรียนคอลเซ็นเตอร์ หน่วยงานรัฐหลายแห่งถึงออกมาเตือนอยู่เนืองๆว่า อย่าไปหลงเชื่อเรื่องแบบนี้ความจริงอยากจะบอกด้วยว่า ในโลกออนไลน์มันมีเรื่องหลอกลวงเต็มไปหมด ไม่มากก็น้อย?หมายความว่า บางเรื่องเต็มไปด้วยความเป็นจริงเกือบทั้งดุ้น แต่มีบางจุดที่เล่นแร่แปรธาตุบิดข้อความคำพูดเพียงเล็กน้อย ทำให้ความหมายผิดเพี้ยนไปกลายเป็นคนละเรื่อง!มาถึงเรื่อง พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับใหม่) ที่เพิ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาสดๆร้อนๆ หลังตีปี๊บกันมาสักพักประเด็นที่คนสนใจคือ ธนาคารและบริษัทเครือข่ายโทรศัพท์อินเตอร์เน็ตต้องมีความรับผิดชอบความเสียหายของชาวบ้านด้วยหรือไม่? พ.ร.ก.ฉบับนี้ กำหนดให้สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ หรือผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องร่วมรับผิดในความเสียหายศาลจะเป็นผู้พิจารณากำหนดค่าเสียหายที่ต้องรับผิด ขณะที่ภาระการพิสูจน์ความเสียหายเพื่อไม่ต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดจากการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นของหน่วยงานเอกชนนั้นๆข้อนี้แหละที่ชาวบ้านเฮแต่ขอเตือนล่วงหน้า ถ้าความเสียหายเกิดมาจากความบกพร่องหรือการกระทำของตัวเอง รับรองไม่มีใครเค้ายอมจ่ายง่ายๆนะครับเพราะฉะนั้นชาวบ้านอย่างเราๆต้องระวังตัวเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือคนร่วมรับผิดชอบ?สหบาทคลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม