แรงบันดาลพระทัยจากความโก้หรู และความภูมิฐานในกีฬาขี่ม้า คือเบื้องหลังที่อยู่ภายใต้การสร้างสรรค์คอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2025-2026 โดย “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ “SIRIVAN NAVARI” ทรงนำมาเป็นแนวทางการออกแบบเครื่องแต่งกายล่าสุด เพื่อตอบรับวิถีการดำเนินชีวิตของคนเมืองยุคใหม่ ทุกแง่มุมเกี่ยวกับกีฬาม้าอันฉับไวและงามสง่า ถูกนำมาหลอมรวมกับธรรมเนียมการตัดเย็บสุดประณีต และมรดกทางการสร้างสรรค์ของแบรนด์ เพื่อแสดงออกถึงบุคลิกความกล้าหาญและสง่างามในความเป็นผู้หญิง “สำหรับเรา กีฬาขี่ม้าหรือบังคับม้า คือโจทย์แห่งการท้าทาย ความเร็ว และความเฉียบขาดในการตัดสินใจ แต่ละท่วงท่าของการบังคับม้า ล้วนเต็มไปด้วยความภูมิฐาน งามสง่า นำมาซึ่งแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานออกแบบได้อย่างไม่มีวันหมด ตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงเครื่องหนัง เครื่องประดับ และอัญมณี”...“สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ดำรัสถึงความรักที่ทรงมีต่อกีฬาขี่ม้า ซึ่งอยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์คอลเลกชันล่าสุด ที่แบรนด์ “SIRIVANNAVARI” นำไปจัดแสดงสู่สายตาชาวโลก อันเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าร่วมตารางแฟชั่นวีกของมิลานอย่างเป็นทางการต่อเนื่องเป็นครั้งที่สอง “ไม่เพียงความสง่างามของม้า ความเท่ อันมีเอกลักษณ์ของเครื่องแต่งกายนักขี่ม้า, อุปกรณ์บังคับ และเครื่องประดับม้า อย่างตะขอปากม้า, เกือกม้า, อานม้า, ชุดบังเหียน หรือกระทั่งโกลน ทุกอย่างถูกรังสรรค์ และถ่ายทอดมาสู่คอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2025-2026 ด้วยความพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อยกย่องคุณค่างานฝีมือ และเสน่ห์แห่งความร่วมสมัย” แรงบันดาลใจจากท่วงท่าสง่างามของนักขี่ม้า ความแข็งแกร่งของตัวอาชา และเครื่องแต่งกายตามธรรมเนียมนิยมของกีฬาท้าความเร็ว ถูกตีความใหม่ถ่ายทอดเป็นชิ้นเด่นประจำฤดูกาล ตั้งแต่แจ็กเกตไอริส (IRIS Jacket) นิยามใหม่จากชิ้นคลาสสิกของนักขี่ม้า, คอร์เซ็ตของฤดูกาลที่แฝงกลิ่นอายแบบกอธิก โรแมนติกซิสม์ (Gothic Romanticism) โดดเด่นด้วยโครงชุดดุจเสื้อเกราะ ไปจนถึงเสื้อเคปพลิ้วไหว, เสื้อโค้ตที่มีโครงชัดเจน เพิ่มความดรามาติกด้วยปกคอที่กว้าง และปกคอตั้งสำหรับผู้หญิง บ่งบอกถึงความอ่อนโยนและความหาญกล้าที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ผ่านเนื้อผ้าคุณภาพสูง อาทิ ผ้าวูล, ผ้าไหม และผ้าฝ้ายหลากเฉด มาในโทนสีขรึมแบบเดียวกับเครื่องแบบกีฬาขี่ม้า เช่น สีออฟ-ไวท์, สีเทา, ม่วงอมน้ำตาลจนถึงดำ, แดงเข้มเบอร์กันดีถึงน้ำตาล ตลอดจนเฉดสีต่างโทนอย่างน้ำเงินกรมท่า, เขียวขี้ม้า และสีกากี ไอเท็มเด่นยังรวมถึงกางเกงขายาวดัดแปลงแพตเทิร์นจากทรงกางเกงขี่ม้า ทั้งกางเกงสะโพกพอง (Jodhpurs) และกางเกงรัดรูปประกบรัดเข่า ตลอดจนชุดหนังดันทรง และสายเอี๊ยม ถูกนำมาพลิกแพลงเป็นสายคาดรัดตัวตามตำแหน่งต่างๆอย่างมีสไตล์ เช่นเดียวกับชุดราตรีปักลายอาชาบ่งบอกถึงอำนาจ ลูกเล่นผ้าทอลายสกอต และผ้าพิมพ์ลายตาหมากรุก ร่วมกับศิลปะงานปักต่างเทคนิค รวมถึงงานปั๊มนูนลายม้า ขณะที่ต้นแบบชุดกีฬานักขี่ม้าชาย ถูกรังสรรค์สู่เสื้อผ้าบุรุษ เพื่อมอบความกลมกลืน อาศัยความสมดุลของศิลปะตัดเย็บสูทคลาสสิก กับงานออกแบบร่วมสมัย ให้ความคล่องตัว ขาดไม่ได้คือ กระเป๋าดีไซน์ใหม่ 3 สไตล์ ด้วยลูกเล่นดัดแปลงจากกระเป๋าอุปกรณ์ม้าแบบต่างๆ สู่เครื่องหนังร่วมสมัย ได้แก่ Henry Drawstring กระเป๋าเชือกรูด ทรงเข้ารูป Martingale Sac, กระเป๋าทรง saddle และ Dream Bucket กระเป๋าสะพายทรงถัง ตัดเย็บด้วยหนังกลับและหนังลูกวัว เป็นงาน Made in Italy สุดประณีต เช่นเดียวกับรองเท้า 3 ดีไซน์ใหม่ อาทิ บูตยาวขี่ม้า และรองเท้าส้นสูงเปลือยข้อ โดดเด่นด้วยส้นทรงพีระมิดอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
