ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักที่ประมุขวุฒิสภาจะออกหน้าตอบโต้องค์กรฝ่ายบริหาร แต่ล่าสุด มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา นำทีม สว.แถลงแสดงความไม่พอใจ กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในกำกับของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เตรียม รับเรื่องที่อดีตผู้สมัคร สว.ร้องให้ตรวจสอบการได้มาซึ่ง สว.ปี 2567 ไว้เป็นคดีพิเศษโดยระบุว่าการที่ดีเอสไอเตรียมรับเรื่องของกลุ่ม สว.สำรอง ที่ขอให้สอบสวน การทุจริตเลือก สว.มองว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะการตรวจสอบการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่รับเรื่องนี้ไว้ตรวจสอบแล้ว และยืนยัน สว.ชุดนี้เข้ามาโดยถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ตามเงื่อนไขและระเบียบที่ กกต.กำหนดทั้งนี้ สว.จะตรวจสอบต่อไปหากพบว่าการดำเนินการของดีเอสไอขัด ข้อกฎหมาย หรือมีความผิดปกติเกี่ยวข้องกับบุคคลหรือหน่วยงานใด ที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อวุฒิสภาจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด เพราะการตรวจสอบเรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ กกต. หน่วยงานอื่นไม่มีอำนาจหน้าที่ ทำให้ สว.ต้องปกป้องสิทธิและศักดิ์ศรีและวุฒิสภายังได้ออกแถลงการณ์ ยืนยันที่มา สว.มาโดยสุจริต ข้อกล่าวหาเป็นเท็จให้ร้ายทำลายวุฒิสภา สว.จะดำเนินการ ปกป้องศักดิ์ศรีวุฒิสภา โดยพุ่งเป้าตรวจสอบ การทำงานของดีเอสไอ รวมทั้งร้องต่อ ป.ป.ช. ดำเนินคดีอาญากรณีที่พบว่าใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ส่อกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างองค์กรขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม แถลงโต้ทันทีว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของดีเอสไอ ถ้าพบการทำผิด ที่เป็นกระบวนการกระทบต่อสังคม เป็นผู้มีอิทธิพล ดีเอสไอก็ดำเนินการได้ เคยทำหนังสือถึง กกต.หลายครั้งว่ามีผู้มาร้องทุกข์ การเลือก สว.มีการทำโพยทุจริต แต่เพิ่งตอบมาว่าต้องสอบสวนก่อนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.แต่ดีเอสไอไม่รับเรื่องไม่ได้เพราะมีผู้มาร้องว่ามีการทำโพยฮั้วกัน มีโพยตัวเลขมาให้ดู พบว่าเป็น สว.อยู่ 138 คน สำรอง 2 คน การรับเป็นคดีพิเศษถือเป็นการพิสูจน์ว่า สว.ไม่ได้ทำผิด พร้อมให้ความยุติธรรม คณะกรรมการคดีพิเศษมี 21 คน มาจากหลายองค์กรไม่มีใครล็อบบี้ได้ และยังไม่รู้จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ แต่จะทำตรงไปตรงมาจากข้อมูลที่ รมว.ยุติธรรมระบุโพยฮั้วโยง สว.138 คน จึงไม่แปลกที่ สว.ตั้งป้อมค้านดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ แม้ปมโต้แย้งดีเอสไอมีอำนาจสอบหรือไม่ ยังต้องรอข้อสรุปที่ชัดเจน แต่ที่แน่ๆสังคมส่วนใหญ่ก็มีข้อสงสัยว่าอาจมีการฮั้วกัน จึงต้องตรวจสอบให้กระจ่างชัด เพราะถ้าฮั้วกันจริง ก็ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทำลายประชาธิปไตย มีโทษหนักทางอาญา.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม