ตำรวจไซเบอร์ค้น 5 จุดในกรุงเทพฯและ จ.สมุทรสาคร รวบ 2 ผู้ต้องหาหนุ่มจีนและแฟนสาวไทย เปิดร้านขายรองเท้าบังหน้าที่เยาวราช ธุรกิจไม่สู้ดีแต่กลับใช้ชีวิตหรูหรา ตุ๋นเหยื่อลงทุนคริปโตหวังผลกำไรสูง มีผู้เสียหายรวม 28 คดี สูญเงินกว่า 30 ล้านบาท ผลการตรวจค้นยึดทรัพย์สินรถหรู สินค้าแบรนด์เนมมูลค่า 20 ล้านบาทตำรวจรวบ 2 ผู้ต้องหาแก๊งตุ๋นลงทุนคริปโตรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.ตอท. พ.ต.อ.สุวัฒน์ แก้วเกิด รอง ผบก.ตอท. ร่วมแถลงผลปฏิบัติการ “EXIT SCAM” รวบขบวนการหลอกลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาทพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ของตำรวจว่า ถูกคนร้ายหลอกให้โอนเงินเพื่อลงทุนในเงินคริปโตมีบุคคลใช้ภาพโปรไฟล์หน้าตาดีติดต่อมาผ่านช่องทางออนไลน์และชักชวนให้ลงทุนผ่านเว็บไซต์ “neccorpo.site” อ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนที่สูง คนร้ายพูดหว่านล้อมชักจูงผู้เสียหายด้วยการให้ผลกำไรที่สูงเกินจริงในการลงทุนช่วงแรก แต่หลังจากนั้นเมื่อผู้เสียหายลงทุนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆไม่สามารถถอนเงินได้ สูญเงินไปกว่า 2 ล้านบาทตำรวจชุดสืบสวน บก.ตอท.สืบหาเบาะแสจนพบบุคคลที่เป็นตัวการสำคัญที่เป็นผู้รับผลประโยชน์และผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิดรวม 2 รายชื่อนายหลิน โซว อายุ 34 ปี ชาวจีน และ น.ส.นริศรา จังหวัดเขต อายุ 21 ปี ชาวกรุงเทพฯ แฟนสาว รวบรวมพยานหลักฐานขอนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พบว่าทั้ง 2 คนมีความเชื่อมโยงกับคดีหลอกลวงทางออนไลน์อื่นๆ ในลักษณะแผนประทุษกรรมจากเว็บไซต์เดียวกันอีก 28 คดี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาทนอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว ฝ่ายหญิงมีอาชีพเปิดร้านขายสินค้าประเภทรองเท้า ย่านเยาวราช กรุงเทพฯ ส่วนฝ่ายชายชาวจีนมีภรรยาและครอบครัวอยู่แล้ว มาพบรักกับหญิงชาวไทยรายนี้ กระทั่งให้ฝ่ายหญิงเปิดบัญชีคริปโตให้ชายชาวจีนใช้และร่วมกันเปิดร้านขายรองเท้า ตรวจสอบพบว่าผลประกอบการร้านรองเท้าไม่ค่อยดีนัก แต่ทั้งคู่ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ขับรถหรู ใช้สินค้าแบรนด์เนม และสะสมตุ๊กตาแบร์บริคมีราคาแพงต่อมาวันที่ 22 ก.พ. ตำรวจชุดสืบสวนเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ 4 จุด และพื้นที่ จ.สมุทรสาครอีก 1 จุด จุดที่ 1-2 เข้าค้นห้องพักในคอนโดหรู ย่านเขตยานนาวา จุดที่ 3 ค้นห้องพักในคอนโด ย่านเขตคลองสาน จุดที่ 4 ค้นร้านขายรองเท้าย่านเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ และจุดที่ 5 ค้นบ้านพักหลังหนึ่งใน ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร จับกุมนายหลิน โซว และ น.ส.นริศรา ผู้ต้องหาที่ห้องพักคอนโดหรู ย่านยานนาวา พร้อมตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตุ๊กตาแบร์บริค 30 ตัว โทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง รถ BMW รุ่น X-1 รถโตโยต้าอัลพาร์ด 1 คัน สัญญาปล่อยเช่าคอนโด 1 ฉบับ โฉนดคอนโด 1 ฉบับ หนังสือพาสปอร์ต 6 เล่ม ตู้เซฟนิรภัย 1 ตู้ และสินค้าแบรนด์เนมจำนวนหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท แจ้งข้อหาในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ“สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนั้นมีพฤติการณ์เป็นกลุ่มผู้บริหารจัดการเงินของแก๊งสแกมเมอร์เชื่อว่าเป็นผู้ฟอกเงินในขบวนการดังกล่าว รวมทั้งยังพบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหามีข้อมูลสลิปโอนเงินกว่า 5,000 รายการ ภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปีมียอดการโอนแต่ละครั้งตั้งแต่ 1- 5 แสนบาท คาดว่าขบวนการดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนหมื่นล้านบาทต่อปี ขณะนี้ตำรวจอยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผลว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องในเครือข่ายนี้อีกหรือไม่ คดีนี้มีลักษณะแผนประทุษกรรมเป็น Hybrid Scam เพื่อทักผ่านโซเชียลมีเดียหลอกลวงผู้เสียหายให้มีความสัมพันธ์และหลงเชื่อ ก่อนชักชวนลงทุนผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บลงทุนปลอมที่คนร้ายสร้างขึ้นมา โดยผู้ต้องหาทั้งสองนี้เชื่อว่า เป็นหนึ่งในขบวนการ ของเว็บไซต์ดังกล่าวอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ดังกล่าวถึง 28 คดีแล้ว ยังพบเส้นเงินหลายเส้นที่เชื่อมโยงกับเว็บดังกล่าว” พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่