ในหนังสือ ศาสตร์ปริศนา (สำนักพิมพ์สารคดี พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2551) ศ.ดร.สุทัศน์ ยกส้าน ขึ้นต้นเรื่อง จุดจบของจดหมาย ว่า เมื่ออีเมลมาจดหมายก็ลาโรงผมไม่รู้ว่าใครอื่นจะยังเขียนจดหมายถึงกันหรือไม่ ถ้ายังเขียน จะมากจะน้อยแต่กับตัวเอง ที่เขียนคอลัมน์ประจำอยู่เกือบทุกวัน ก็ยังพอมีแฟนๆเขียนจดหมายมาถึงอยู่บ้างอยากจะบอกจดหมายทุกฉบับที่ส่งมา หลายฉบับเขียนด้วยลายมือ ในกระดาษฟุลสแก๊ปจะว่าเป็นของแปลกก็ได้ ผมอ่านอ่านอย่างตั้งอกตั้งใจรายสาวจันเสน ตาคลี นครสวรรค์ เจ้าประจำ เล่าทุกข์สุขในชีวิตประจำวัน วันพระทำบุญ ขี่จักรยานล้ม มีหนังสือดีๆ ที่คิดว่าดีก็ส่งมาให้อ่านช่วงนี้น่าจะห่างกันเกินไปสักหน่อย ก็เพราะหาซื้อ “ไทยรัฐ” อ่านไม่ได้ทุกวันเหลืออ่านสัปดาห์ละฉบับโลกเราเป็นเช่นนี้ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ผมเองยังไม่อยากเชื่อเลย หนังสือพิมพ์ไทยรัฐรายวัน ฉบับที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย ในตาคลี จะกลายเป็นของ “หายาก” ไปได้ก่อนที่การเขียนจดหมายจะหมดไปจากโลกจริงๆ อาจารย์สุทัศน์ ให้ความรู้ว่า มนุษย์สมัยดึกดำบรรพ์รู้จักแสดงความคิดเห็นลงบนกระดาษ ปาปิรุส ผนังถ้ำ หนังสัตว์ กระดูกสัตว์ ดินเหนียว เครื่องปั้นดินเผามีผู้ค้นพบว่า มนุษย์เขียนจดหมายถึงกันเมื่อราวๆ 4,360 ปีที่แล้ว เมื่อฟาโรห์เปปิที่ 2 แห่งอียิปต์ ทรงเขียนจดหมายถึงแม่ทัพของพระองค์เอง ชื่อฮาร์ซุส ให้นำเหล่าคนแคระที่แพ้สงครามมาเป็นทาสรับใช้ในราชสำนักพระนางคลีโอพัตราทรงจารึกคำบรรยายความรักของพระนางลงในอัญมณีให้มาร์ก แอนโทนี อ่านและในยามที่อเลกซานเดอร์มหาราชทรงจากพระราชอาณาจักร มาเซโดเนียไปทำสงครามต่างเมือง ทรงโปรดให้ทหารม้านำพระราชสาส์นของพระราชมารดามาให้พระองค์อ่านทุกวันนักอักษรศาสตร์พบว่า จดหมายมีหลายรูปแบบ บางฉบับเขียนเสร็จ แล้วจะถูกนำไปใส่ขวดแก้วลอยน้ำ บางฉบับถูกเขียนเป็นรหัส เพื่อไม่ให้คนอื่นล่วงรู้ความหมาย หรือข้อมูลที่มีในจดหมายฉบับนั้นบางฉบับเขียนด้วยหมึกไม่มีสี ผู้รับต้องนำไปลนไฟจึงจะอ่านได้บางฉบับ ก็อาจเขียนด้วยหมึกที่ทำด้วยเลือด เพื่อแสดงความจริงใจ และจริงจังของผู้เขียนกระดาษที่ใช้เขียนจดหมายก็มีพัฒนาการเรื่อยมา บางคนใช้กระดาษสีเหลืองขอบทอง กวีบางคนใช้หมึกสีม่วงเขียนลงบนกระดาษสีต่างๆ เพื่อแสดงความรู้สึกที่ต่างกันนักจิตวิทยาพบว่าจดหมายที่คนรักกันเขียนถึงกัน จะถูกอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก ตีความทุกตัวอักษร อ่านแม้แต่เครื่องหมายอัญประกาศ หรืออัศเจรีย์ ขณะที่อ่านหัวใจก็จะเต้นแรงมีเรื่องเล่าว่าการเขียนจดหมายมากๆ ก็ไม่ได้หมายความว่า คู่รักจะตกล่องปล่องชิ้นกันได้ หนุ่มไต้หวันคนหนึ่งเขียนจดหมาย 700 ฉบับ ถึงสาวคนรักตลอดเวลา 2 ปีแต่ผลลงเอย สาวคนรักกลับไปแต่งงานกับหนุ่มไปรษณีย์ที่เป็นคนส่งจดหมายแทนกับคำถามเทคโนโลยีสมัยใหม่ จะทำให้จดหมายหมดไปหรือไม่ ...คำตอบ...ในอเมริกา ตอนนี้มีเพียง 2% ที่เขียนจดหมายส่วนตัวอีก 98% ที่เหลือเป็นจดหมายธุรกิจอีกไม่นานกระบวนการชำระบิลต่างๆ จะทำผ่านธนาคารแบบออนไลน์ แต่กระนั้น สถานการณ์ก็คงไม่ถึงขนาดไม่เขียนจดหมายถึงกันเลย เพราะวันเกิดวันปีใหม่ คนหลายคนยังนิยมส่งบัตรอวยพรให้กันทางไปรษณีย์ด้วยเหตุผลการอวยพรแบบอีเมลดูห่างเหินและไม่ใกล้ชิดเหมือนที่เคยบทสรุปของ ศ.ดร.สุทัศน์ ยกส้าน ตรงใจผมมาก ทุกวันนี้ผมอ่านอีเมลของเพื่อนทุกคน...แต่ขอสงวนสิทธิ์ไม่ตอบ ก็บอกไปตรงๆ อยากคุยกันก็โทรศัพท์มาการสื่อทางอีเมลหรือไลน์ ที่ไม่มีน้ำเสียง สำเนียง ผมไม่ถือเป็นการคุยของมนุษย์ด้วยกัน.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม