ออกหมายจับ “สส.ปูอัด” ข่มขืนสาวไต้หวัน หลังผู้เสียหายนั่งดื่มที่ร้านในตัวเมืองเชียงใหม่ พบ สส.ปูอัดคุยถูกคออาสาไปส่งที่ห้องแล้วใช้กำลังข่มขืน เหยื่อเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ตำรวจประสานทางการไต้หวันส่งเรื่องถึง ตร.นำเสนอประธานรัฐสภาพิจารณา “วันนอร์” แจงยังไม่ได้รับเรื่องเร่งบรรจุเป็นวาระ สส.หญิงรุมประณามพฤติกรรมป่าเถื่อน “ปิยะบุตร” จี้ให้ลาออก ไต้หวันแจงผู้เสียหายกลับบ้านเกิดแล้ว เชื่อมั่นระบบยุติธรรมไทย ขณะที่ “สส.ปูอัด” ส่งข้อความออกมาปฏิเสธพร้อมสู้คดีจากเหตุที่ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีกับนายไชยามพวาน หรือปูอัด มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.พรรคไทยก้าวหน้า ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา ตำรวจรวบรวมหลักฐานเสนอต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาออกหมายจับแล้วนั้น ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ก.พ. พ.ต.อ.ดำเนิน กันอ่อง รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเช้าวันที่ 9 ม.ค. น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี นักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ว่า ช่วงตีสองวันที่ 9 ม.ค. ไปนั่งดื่มกินที่ร้านนั่งชิลบนถนนมูลเมือง ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ จนมึนเมาเจอกับนายไชยามพวานนั่งคุยกันถูกคอและอาสาไปส่งที่ห้องพักใกล้ร้าน เมื่อถึงห้องนายไชยามพวานใช้กำลังข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นออกไปจากห้อง ตำรวจพาผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลและรวบรวมหลักฐานกล้องวงจรปิดที่ร้านและบริเวณที่พักของผู้เสียหายเสนอศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมาพ.ต.อ.ดำเนินกล่าวอีกว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ไต้หวันให้ความสนใจและตามเรื่องตลอด ตำรวจดำเนินการตามอำนาจหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างไว้หมดแล้ว แต่ผู้ต้องหาเป็น สส. ต้องดำเนินการตามกฎหมายระบุไว้ห้ามจับ ห้ามดำเนินการ ต้องทำตามระเบียบ ทำหนังสือถึง ผบช.ภ.5 แล้วเสนอต่อให้ผบ.ตร.หรือรอง ผบ.ตร.ขออนุญาตต่อรัฐสภานำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี ขณะนี้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนแล้วพ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆอย่างรอบคอบ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายและทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ตอนนี้อยู่ระหว่างทำหนังสือไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นสส.มีเอกสิทธิ์คุ้มครองในระหว่างสมัยประชุม การสอบสวนผู้เสียหายให้การว่า ไม่รู้จักกับผู้ต้องหามาก่อนและยืนยันว่าในคืนเกิดเหตุไม่ยินยอมที่จะมีความสัมพันธ์ด้วย หลังจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวนแจ้งไปยัง สส.ที่ถูกกล่าวหาได้รับทราบแล้ว หลังจากออกหมายจับยังไม่ได้รับการติดต่อ หากต้องการจะเข้ามอบตัวในระหว่างนี้ พนักงานสอบสวนยินดีจะให้ความยุติธรรม ส่วนกรณีที่มีผู้ใกล้ชิดกับ สส.เชื่อว่าถูกจัดฉากใส่ร้าย ยืนยันว่าตำรวจดำเนินคดีภายใต้ความยุติธรรมและตามพยานหลักฐานที่ปรากฏทุกอย่างผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อนายไชยามพวานเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงตลอดทั้งวัน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ สอบถามไปยังนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้รับเรื่องคดีความมาถึงหรือยัง นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อประสานมา แต่จะตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ผู้ช่วย สส.นายไชยามพวาน ระบุว่า ตอนนี้ตัวเองอยู่ต่างประเทศยังไม่ทราบเรื่อง ขอเวลาพูดคุยกับนายไชยามพวานแล้วจะอัปเดตให้อีกครั้งผู้สื่อข่าวสอบถามเข้าไปในกลุ่มไลน์ที่นายไชยามพวานใช้สำหรับแจ้งข่าวสารกับสื่อมวลชน ทีมงานชี้แจงแทนว่า “โดนใส่ร้ายเหมือนเดิมครับ ดิสเครดิตครับ” เมื่อถามว่านายไชยามพวานจะออกมาชี้แจงด้วยตัวเองหรือไม่ ทีมงานตอบกลับมาสั้นๆว่า “แน่นอนครับ”ว่าที่ ร.ต.วัชรพล บุษมงคล หัวหน้าพรรคไทยก้าวหน้า กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่พรรคประสานเพิ่งทราบเรื่อง ต้องรอดูข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องดังกล่าวต้องให้โอกาสนายไชยามพวานก่อนเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนการเดินทางไปที่จ.เชียงใหม่ นายไชยามพวานไม่ได้แจ้งพรรคอาจไปภารกิจส่วนตัวหรือในฐานะ สส. เมื่อถามว่าพรรคจะมีมาตรการอย่างไร เพราะกระทบชื่อเสียงพรรค ว่าที่ ร.ต.วัชรพลตอบว่า อาจมีผล แต่หลังจากที่ตรวจสอบและสอบสวนจากทางตำรวจแล้วจะหารือกับกรรมการบริหารพรรคต่อไป อย่างไรก็ตามนายไชยามพวานเคยมีประวัติมาแล้ว ตอนนั้นพรรคยังให้โอกาส ตอนนี้ต้องดูรายละเอียดก่อนว่าเป็นอย่างไรน.ส.ภคมน หรือลิซ่า หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า ขอประณามพฤติกรรมที่เกิดขึ้นของผู้ถูกกล่าวหา พฤติการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดครั้งแรก แต่เกิดซ้ำๆหลายครั้งในหลายกรณี ทำให้อดีตพรรคก้าวไกลลงมติขับออกจากพรรค แต่ยังเกิดซ้ำขึ้นอีก ถือเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และไม่ใช่ประเด็นส่วนบุคคลของผู้แทนราษฎร แต่เป็นเรื่องมาตรฐานขององค์กรสภาฯ ที่ต้องรับผิดชอบต่อความรู้สึกของประชาชนด้วย ขอกดดันให้นายไชยามพวานลาออกจากการเป็น สส. และเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็วด้าน น.ส.ภัสริน รามวงศ์ สส.กทม.พรรค ปชน. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ขอประณามการกระทำของนายไชยามพวานอย่างถึงที่สุด การที่บุคคลซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้แทนราษฎรกลับเป็นผู้กระทำความผิดฐานข่มขืน เป็นเรื่องที่สะท้อนถึงปัญหาลึกซึ้งในระบบการเมืองไทย นายไชยามพวานเคยมีประวัติละเมิดวินัยพรรคอย่างร้ายแรง เคยถูกขับออกจากพรรคก้าวไกลจากพฤติกรรมคุกคามทางเพศ แต่ยังย้ายไปสังกัดพรรคไทยก้าวหน้าและดำรงตำแหน่งในสภาฯ รัฐสภาควรเป็นสถานที่ของผู้แทนประชาชน กลับกลายเป็นที่ซุกซ่อนของผู้กระทำผิดทางเพศซ้ำแล้วซ้ำเล่า การข่มขืนไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นอาชญากรรมร้ายแรงต่อศักดิ์ศรีและสิทธิมนุษยชน ดิฉันไม่อาจยอมให้ผู้ก่อเหตุลอยนวลพ้นผิด ขอให้เรื่องนี้ถูกดำเนินคดีจนถึงที่สุด คืนความยุติธรรมให้ผู้ถูกกระทำนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า นายไชยามพวานควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจาก สส. หากยังไม่ยอมลาออก ในสัปดาห์ต่อไปที่จะมีการประชุมสภาฯ ต้องเรียกร้องกดดันให้สภาฯ ต้องมีมติอนุญาตให้ส่งตัวนายไชยามพวานไปสอบสวนในฐานะเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา เจตนารมณ์ของความคุ้มกันของ สส.ตามมาตรา 125 วรรคแรก มีไว้เพื่อป้องกันมิให้อำนาจฝ่ายบริหาร (ในกรณีนี้คือ อำนาจในการตั้งข้อหา สอบสวน จับ ของพนักงานตำรวจ) กลั่นแกล้งฝ่ายนิติบัญญัติ ถ้าเป็นการกลั่นแกล้ง ถ้าเป็นคดีการเมือง ถ้าเป็นคดีหมิ่นประมาท คดีอันเกิดจากการแสดงความเห็นหรือปฏิบัติหน้าที่ สส.ควรร่วมกันยึดถือความคุ้มกันนี้ไว้ในสมัยประชุม แต่ถ้าเป็นการกระทำความผิดอาญาในฐานะส่วนตนไม่เกี่ยวกับการแสดงความเห็น หรือการปฏิบัติหน้าที่ และเป็นความผิดร้ายแรง เช่น ฆ่าคนตาย จ้างวานฆ่า ค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ ข่มขืน เห็นว่าสภาผู้แทนราษฎรควรมีมติอนุญาตให้นำตัว สส.ที่เป็นผู้ต้องหาไปดำเนินคดีขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทยเปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลคดีนี้ผ่านช่องทางต่างๆ พร้อมยืนยันหญิงไต้หวันเหยื่อในคดีนี้เดินทางกลับไต้หวันโดยสวัสดิภาพแล้ว สำนักงานมั่นใจในระบบยุติธรรมของไทย หวังว่าสื่อจะไม่เปิดเผยรายละเอียดของคดี เพื่อเคารพและปกป้องความเป็นส่วนตัวของชาวไต้หวันที่เกี่ยวข้องช่วงเย็นวันเดียวกัน ทีมงานของนายไชยามพวานส่งข้อความจากนายไชยามพวาน เพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระบุว่า “ผมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาไม่ได้ทำตามความผิดที่ถูกกล่าวหาแน่นอน ในส่วนที่ถูกกล่าวหาอย่างไรขอผมดูก่อน เพราะผมยังไม่รู้เลยว่าถูกกล่าวหาเรื่องอะไร ในประเด็นไหนบ้าง เพราะผมยังไม่รับทราบข้อกล่าวหาหรือมีโอกาสชี้แจงเลยต่อพนักงานสอบสวนและผมขอตั้งคำถามกับกระบวนการยุติธรรม ผมสงสัยมากว่าทำไมเป็นการข้ามไปออกหมายจับ แทนที่จะเป็นหมายเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาให้ผมชี้แจงกับทางเจ้าหน้าที่ก่อน เป็นการดำเนินการของตำรวจและผู้กล่าวหาฝ่ายเดียว เพราะฉะนั้นนี่คือที่สิ่งเกิดขึ้น ยืนยันผมไปรับทราบข้อกล่าวหาแน่นอน ว่ามีประเด็นไหนบ้าง และรอบนี้ผมสู้แน่นอน ผมมั่นใจว่าไม่ได้กระทำอย่างที่ถูกกล่าวหา ตั้งคำถามกับตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ 1.จากที่ผมได้กล่าวข้างต้น ผมถามว่าผมอยู่ตรงไหนของสมการในกระบวนการยุติธรรมนี้หรือไม่ อย่างไร 2.ทำไมถึงไม่ออกหมายเรียก คิดว่าผมจะหนีหรือไม่อย่างไร และผมจะหนีทำไม รอบนี้ผมไม่ยอม ผมสู้แน่นอนในกระบวนการยุติธรรรม”ประวัตินายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.พรรคไทยก้าวหน้า สร้างเรื่องอื้อฉาวครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก สมัยเป็น สส.กทม.พรรคก้าวไกลเคยถูกมติขับออกจากพรรค จากปมคุกคามทางเพศเหยื่อเป็นผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล 3 ราย เมื่อปี 2566 มีประสบการณ์การทำงานเป็นนักวิจัยผลิตภัณฑ์ UX Research แอปพลิเคชัน StartDee ให้เด็กทุกคนได้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ และยังเป็นตัวแทนกลุ่ม Resolution รณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนร่างรื้อระบอบประยุทธ์ อีกทั้งยังเป็นตัวแทนรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนหรือ ร่าง ILAW สมาชิกกลุ่ม ConLab ขับเคลื่อนให้ความรู้ประชาชนด้านรัฐธรรมนูญไทยและสากล เป็นต้นอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่