นายกฯ “อิ๊งค์” บินลัดฟ้าถึงกรุงปักกิ่ง เยือนจีนอย่างเป็นทางการ กางโปรแกรมพบระดับผู้นำของจีน หารือ “สี จิ้นผิง-หลี่ เฉียง-จ้าวเล่อจี้” กระชับสัมพันธ์ทางการทูตครบ 50 ปี ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ แก้ปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมร่วมเปิดเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ที่ฮาร์บิน ขณะที่ “ทักษิณ” รุดรายงานตัวศาลอาญา หลังเดินทางกลับจากมาเลเซีย ป.ป.ช.แบะท่าอาจไม่เรียก “นายใหญ่” แจง คาดโทษ “บิ๊ก รพ.ตำรวจ” ปกปิดข้อมูล ผู้สมัครนายก อบจ.ค่ายส้มจี้ กกต.สอบซื้อเสียง ขอให้มีการเลือกตั้งใหม่ที่สมุทรปราการ สภาทนายยื่นมือช่วยลูกบ้านอัลไพน์ วาง 3 แนวทางช่วยเหลือเยียวยาน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะบินลัดฟ้าถึงกรุงปักกิ่ง เยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ มีกำหนดหารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และระดับผู้นำในรัฐบาลจีน ขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารายงานตัวต่อศาลอาญาหลังเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย“อิ๊งค์” ส่งมินิฮาร์ตให้สามีกับลูกๆเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 ก.พ. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะ อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง เยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 5-8 ก.พ. โดย น.ส.แพทองธารได้อุ้ม ด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ บุตรชาย ขณะที่นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี อุ้ม ด.ญ.ธิธาร สุขสวัสดิ์ บุตรสาว เดินมาส่งถึงประตูทางออก โดย น.ส.แพทองธารทำมือเป็นสัญลักษณ์มินิฮาร์ตส่งให้คนในครอบครัว ก่อนจะหันไปสอบถามนายอนุทิน ถึงการสั่งตัดไฟฟ้า 5 จุดไปยังฝั่งเมียนมาว่าเรียบร้อยดีหรือไม่ นายอนุทินตอบรับว่า “เรียบร้อยดี”บินเยือนจีนจับเข่าหารือ “สี จิ้นผิง”นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯมีกำหนดการสำคัญ ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 6 ก.พ. เข้าพบหารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกมิติ จากนั้นจะเดินทางไปวางพวงมาลาที่อนุสาวรีย์วีรชน จัตุรัสเทียนอันเหมิน และช่วงบ่ายวันเดียวกันเข้าร่วมพิธีตรวจแถวสวนสนามภายในศาลามหาประชาชน เข้าพบปะหารือกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ ส่วนกำหนดการวันที่ 7 ก.พ. ช่วงเช้า นายกฯพร้อมคณะจะออกเดินทางจากกรุงปักกิ่งไปยังนครฮาร์บิน เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 โดยจะร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวัน ที่รัฐบาลจีนจัดขึ้นเพื่อต้อนรับผู้นำแต่ละประเทศ มีนายสี จิ้นผิง เป็นเจ้าภาพกระชับสัมพันธ์การทูตยาวนาน 50 ปีต่อมาเวลา 17.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปักกิ่ง เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) น.ส.แพทองธารพร้อมคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง มีนางฮว่า ชุนหยิง (H.E. Mrs. Hua Chunying) รมช.การต่างประเทศสาธารณรัฐ ประชาชนจีน นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย รวมทั้งเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ให้การต้อนรับ มีเด็กชายชาวจีนมอบช่อดอกไม้ให้กับนายกฯด้วย น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ระหว่างอยู่บนเครื่องว่า จะได้พบกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน และบุคคลที่มีบทบาทสำคัญของจีนทั้งนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติฯ และนายหลี่ เฉียง นายกฯจีน เคยพบกับนายกฯของจีนมา 2-3 ครั้งแล้ว ถือว่ามีความคุ้นเคย ประกอบกับไทยและจีนมีความสัมพันธ์ทางการทูตมายาวนาน 50 ปี มีเรื่องประสานทำงานร่วมกันหลายเรื่อง ทั้งซอฟต์พาวเวอร์ ด้านการค้าการลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมของอนาคตในระยะยาว และการเปลี่ยนผ่านจากระบบอนาล็อกมาเป็นดิจิทัลลุยแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า เรื่องปัญหาความปลอดภัย อาชญากรรมข้ามชาติ เคยออกคลิปใช้เอไอแปลงเป็นภาษาจีน เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาไทย บอกว่าเราพร้อมดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะตอกย้ำเรื่องความปลอดภัยในประเทศไทย ส่วนที่มีข่าวลือต่างๆในโลกโซเชียลมีเดีย ต้องไปขอความร่วมมือกับทางจีนว่า เมื่อพบเห็นขอให้ช่วยดำเนินการให้ด้วย และเรื่องที่เป็นปัญหาทั้งไทยและจีน คือปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้องการความร่วมมือซึ่งกันและกัน ร่วมกับอาเซียน อาจมีการแนะนำเทคโนโลยีกันในการจัดการกับปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมออนไลน์ นอกจากนี้ ยังมีการลงนามความตกลงระหว่างไทย-จีน อย่างน้อย 14 ฉบับ สานต่อโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1-2 เชื่อมโยงไทย-ลาว และจีน รวมถึงสานต่อโครงการแลนด์บริดจ์ ที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯเคยทำไว้ ทั้งนี้ จะมีโอกาสพบกับสมาคมธุรกิจไทย-จีน และภาคเอกชน 2-3 ราย และจะพูดคุยถึงขั้นตอนดำเนินการรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่จากจีนมายังประเทศไทย จะหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนบ้านพักนักกีฬาไทยระหว่างการแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 ที่เมืองฮาร์บิน ไปให้กำลังใจด้วยตัวเอง“ทักษิณ” รุดรายงานตัวศาลอาญาที่ศาลอาญาเมื่อเวลา 08.30 น. วันเดียวกัน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีหมายเลขดำ อ 1860/2567 ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง เดินทางมารายงานตัวต่อศาลอาญา ภายหลังเดินทางกลับจากไปประชุมที่มาเลเซีย พร้อมกับนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นไปตามปกติ ไม่ได้เเน่นหนาเหมือนช่วงวันนัดไต่สวนขอออกนอกประเทศ นายทักษิณเดินขึ้นทางประตูหน้าทางเข้าศาลอาญา เข้าไปเซ็นชื่อรายงานตัวใช้เวลาประมาณ 15 นาที รับเงินที่วางไว้เป็นหลักประกันจำนวน 5 ล้านบาท และเดินทางกลับได้ทันที“ก่อแก้ว” ขอคนเสื้อแดงเลิกยึดติดด้านนายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เข้าใจความรู้สึกคนเสื้อแดง แต่เราต้องเตือนตัวเองให้ก้าวข้ามอารมณ์ และความรู้สึกเชิงลบ เพื่อรักษาเป้าหมายที่เราร่วมกันต่อสู้มาตลอด 18 ปี นั่นคือเพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงและเป็นประชาธิปไตยกินได้ พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองใหญ่ มีความหลากหลายทั้งในมุมมองและบุคลากร แต่สิ่งหนึ่งที่ยังมั่นใจคือผู้ใหญ่ในพรรค โดยเฉพาะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และครอบครัว รวมถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้เกียรติและยืนหยัดเคียงข้างคนเสื้อแดงมาตลอด โดยเฉพาะ น.ส.แพทองธารท่านคือคนเสื้อแดง ส่วนสมาชิกบางคนที่อาจแสดงออกไม่เหมาะสมหรือไม่ให้เกียรติเรา เชื่อว่าพวกเราสามารถแยกแยะได้ว่าใครที่ควรให้ความสำคัญและใครที่ไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจ ปีนี้พรรคเพื่อไทยจะผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญครั้งสำคัญ ด้วยการให้ประชาชนเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แม้เส้นทางจะมีอุปสรรค แต่เชื่อมั่นว่าพรรคจะสู้จนสุดกำลัง และเดินหน้าผลักดันการแก้ไขกฎหมายสำคัญ เช่น กฎหมายทวงคืนความยุติธรรมได้การสนับสนุนจาก สส.พรรคเพื่อไทยกว่า 100 คน รวมถึงแก้ไขกฎหมายจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม เป้าหมายที่คนเสื้อแดงเรียกร้องมาตลอด เป็นเครื่องยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยยังมีจุดยืนเดียวกันป.ป.ช.อาจไม่เรียก “ทักษิณ” ชี้แจงนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนเจ้าหน้าที่รัฐที่ช่วยเหลือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้ได้รับการรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจว่าอยู่ระหว่างไต่สวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล และเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง มีการเชิญ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย มาให้ข้อเท็จจริงเพราะเป็นพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปประกอบหลักฐานอื่นว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ป.ป.ช.มีหน้าที่ต้องทำตามหน้าที่อาจใช้เวลาสักนิดในการรวบรวมพยานหลักฐาน เมื่อถามว่าต้องเชิญนายทักษิณมาให้ถ้อยคำหรือไม่ นายสาโรจน์ตอบว่า ไม่จำเป็นเสมอไปหากมีพยานหลักฐานอื่นที่ชัดเจน หรือต่อให้ไม่มีพยานหลักฐานอะไร ก็ไม่ มีเหตุไปเชิญ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการไต่สวนขู่คาดโทษ รพ.ตำรวจปกปิดข้อมูลผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจาก รพ.ตำรวจ ในการขอเอกสารหรือเวชระเบียนหรือไม่ นายสาโรจน์ตอบว่า ป.ป.ช.เคยขอไปในชั้นตรวจสอบ แต่ยังไม่ได้มาในชั้นไต่สวนขอไปอีกครั้ง แต่ไม่ทราบว่าได้มาแล้วหรือยัง อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการส่งข้อมูลมาให้ก็อาจต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนการนำข้อมูลผู้ป่วยมาอ้าง เพื่อไม่ส่งเอกสารมาให้ ป.ป.ช. คณะไต่สวนตรวจสอบอยู่ ต้องดูหลักกฎหมายว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เมื่อถามว่าจะขอข้อมูลจากแพทยสภาหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้โรงพยาบาลตำรวจเคยส่งข้อมูลไปให้แพทยสภา นายสาโรจน์ตอบว่า อะไรที่เป็นพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ในการพิจารณา สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ทั้งหมด ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เมื่อถามว่าหากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ รพ.ตำรวจ ยังโยนกันไปมาต้องพิจารณาโทษร่วมด้วยหรือไม่นายสาโรจน์ตอบว่า ต้องดูว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ตามข่าวคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้โรงพยาบาลตำรวจ เขามีข้อขัดข้องกันหรือไม่ไม่ทราบ ต้องดูต่อไปไม่เกินสิ้นปีรู้ผลคดี 44 สส.ก้าวไกลนายสาโรจน์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนคดีผิดจริยธรรมร้ายแรง 44 อดีต สส.พรรคก้าวไกล กรณีเข้าชื่อแก้ไขกฎหมายประมวลกฎหมายมาตรา 112 ว่า เป็นหน้าที่คณะกรรมการไต่สวนจะรวบรวมพยานหลักฐาน ว่ามีข้อเท็จจริงเพียงพอแจ้งข้อกล่าวหาได้หรือไม่ หากมีหลักฐานเพียงพอก็แจ้งข้อกล่าวหา แต่หากพบว่าไม่มีความผิดจะสรุปสำนวนว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล เสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา จะมี สส.คนใดถูกแจ้งข้อกล่าวหาบ้าง ไม่สามารถยืนยันได้ เป็นรายละเอียดในสำนวน คาดว่าใช้เวลาไม่นานจะสรุปได้ว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาได้หรือไม่ เพราะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานค่อนข้างครบถ้วนแล้ว หากไต่สวนครบถ้วน มีพยานหลักฐานชัดเจน น่าจะพิจารณาได้ภายใน 1-2 เดือน แต่คงยังไม่ถึงขั้นชี้มูลความผิด เพราะตามขั้นตอนต้องแจ้งข้อกล่าวหาก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาได้ชี้แจง จากนั้นจึงสรุปสำนวนว่าคำชี้แจงฟังขึ้นหรือไม่ คาดว่าอาจชัดเจนภายในปีนี้ ถ้าไม่มีข้อเท็จจริงที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติมมากผู้สมัครค่ายส้มจี้ กกต.สอบซื้อเสียงวันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนพดล สมยานนทนากุล ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรปราการ พรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมนายจักรพันธุ์ จินตนาพากานนท์ ผู้สมัครนายกอบจ.นครนายก พรรค ปชน. เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. โดยนายจักรพันธ์ยื่นคำร้องขอให้ กกต.สั่งนับคะแนนใหม่ เพราะมีความผิดปกติในเขตเลือกตั้งที่ 1 อ.องครักษ์ มีผู้มาใช้สิทธิ 6,449 คน แต่กลับเป็นบัตรเสียกว่า 1,096 ใบ คะแนน ระหว่างตนกับผู้ชนะห่างกันเพียง 900 กว่าคะแนน แต่กลับมีบัตรเสียกว่า 5,800 ใบนายนพดลกล่าวว่า ที่ต้องมายื่นร้องต่อ กกต.กลางโดยตรงวันนี้ เป็นเรื่องของการทุจริตซื้อเสียง ชาวสมุทรปราการส่งข้อมูลและพยานหลักฐานมาให้กับพรรค ต้องการให้ กกต.ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร หากเห็นว่ามีผลทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม ขอให้ประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ใน จ.สมุทรปราการ และอีกหลายจังหวัดที่ทางพรรคจะทยอยยื่นหลักฐานเข้ามา หลักฐานที่เรานำมายื่นต่อ กกต.ในวันนี้ เป็นเรื่องการซื้อเสียง 3 กรณี มีทั้งพยานบุคคลที่พร้อมให้ถ้อยคำ คลิปวิดีโอที่ประชาชนได้บันทึกไว้ระหว่างการซื้อเสียง แชตไลน์ที่หัวคะแนนทักหาผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เกิดขึ้นในหลายอำเภอ เบื้องต้นพบว่ามีการซื้อเสียงหัวละ 200 บาท มั่นใจว่า กกต.จะพิจารณาแน่นอน ส่วนกรณีอื่นอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และจะทยอยนำมายื่นต่อ กกต.ต่อไปลูกบ้านอัลไพน์ร้องสภาทนายช่วยช่วงสายที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายวิระ แก้วสายทิพย์ ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านหมู่บ้านราชธานี ที่ได้รับผลกระทบจากการเพิกถอนที่ดินในพื้นที่โฉนดใกล้เคียงกับที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ เป็นที่ธรณีสงฆ์ เข้ายื่นหนังสือถึงนายกสภาทนายความ ขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย มีนายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ และนายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ รับหนังสือร้องเรียน นายวิระกล่าวว่า อยากให้สภาทนายความช่วยเหลือทางกฎหมายเรียกร้องจากภาครัฐ ชดเชย เยียวยา หรือควรดำเนินการ ฟ้องหน่วยงาน เพราะชาวบ้านซื้อบ้านมาถูกต้อง กรมที่ดินออกโฉนดให้ อยากให้ชัดเจนว่าพวกเราควรดำเนินการฟ้องใคร หลายคนกังวลมาก เพราะยังมีภาระผูกพันผ่อนชำระธนาคารวาง 3 แนวทางช่วยเหลือเยียวยานายวิเชียรกล่าวว่า สภาทนายความจะตั้งคณะทำงานมาคอยให้คำแนะนำด้านกฎหมายยืนยันสภาทนายความจะไม่ทิ้งชาวบ้านที่มีปัญหาไว้ข้างหลัง มีแนวทางแก้ปัญหาอยู่ 3 ทาง คือ 1.ให้วัดเข้ามาดำเนินการให้ผู้ถือครองที่ดินปัจจุบัน จัดทำเรื่องการเช่า ต้องได้รับความเห็นชอบจากองค์การศาสนา 2.ดูตาม พ.ร.บ.อิงสิทธิ์ที่สามารถจัดให้มีทรัพย์อิงสิทธิ์ได้ และ 3.วัดต้องดำเนินการเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการ เสนอต่อรัฐบาลให้ตราพ.ร.บ.โอนทรัพย์ของวัดให้บุคคลที่ได้ที่ดินมาอย่างสุจริต ต้องเป็นนโยบายของฝ่ายรัฐบาล หากไม่สามารถหาทางออกได้ ต้องฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าบุคคลจากภาครัฐ ให้มีการเยียวยาคืนแก่ผู้เสียหายอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่