หนุ่มหัวร้อนลูกชายเจ้าของร้านขายผ้าย่านสุขุมวิท ขับเก๋งเฉี่ยวชนคู่กรณีหนุ่มไรเดอร์ฟู้ดแพนด้าแต่ไม่ยอมลงมาเจรจา ซ้ำพยายามขับรถหนี จนหนุ่มไรเดอร์ชะตาขาดขี่รถ จยย.ตามไปดักหน้า พร้อมทุบกระจกด้านคนขับทำหนุ่มเก๋งเปิดประตูลงมาชกจนคว่ำก่อนกระทืบซ้ำ หนุ่มไรเดอร์รู้สู้ไม่ได้ขี่รถ จยย.หนีไปแค่ 100 เมตร คู่กรณีตามมาทัน ขับชนจนไรเดอร์ชะตาขาดร่างกระเด็นฟาดเสาเหล็กวงจรปิด กทม. อย่างแรงจนกระดูกหักตัวงอดับสยอง ขณะที่หนุ่มซิกข์ถูกจับในที่เกิดเหตุแต่ไม่ยอมให้การเหตุหนุ่มซิกข์หัวร้อนขับเก๋งไล่ชนไรเดอร์ดับสยองกลางกรุง เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 21 ม.ค. ร.ต.ท.จรินทร์ รัตนสุวรรณชัย รอง สว. (สอบสวน) สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุรถเก๋งไล่ชนคนขี่รถ จยย.เสียชีวิต หน้าโครงการก่อสร้างเท็นท์ อเวนิว ถนนสุขุมวิท ระหว่างซอยสุขุมวิท 8 กับซอยสุขุมวิท 10 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯและอาสาฯมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่เกิดเหตุบนฟุตปาทข้างเสาเหล็กติดตั้งกล้องวงจรปิด กทม. พบศพนายฤทธิศักดิ์ ประคุปตานนท์ อายุ 49 ปี นอนหงายจมกองเลือดในชุดเสื้อยืดฟู้ดแพนด้าแขนยาวสีชมพู กางเกงยีนส์ ใกล้กันพบกล่องเก็บพัสดุของฟู้ดแพนด้าและหมวกกันน็อกของคนตาย ห่างไป 10 เมตร บนถนนชิดขอบฟุตปาทพบรถ จยย.ฮอนด้า อีวีเดลิเวอรี่ สีน้ำเงินขาว ทะเบียน 7ขฌ906 กรุงเทพมหานคร ล้มตะแคงสภาพด้านซ้ายพังยับ ถัดไปพบรถโตโยต้า รุ่นอัลติส สีทอง ทะเบียน วล6538 สภาพกระจกมองข้างด้านขวาหัก กันชนหน้ามีรอยเฉี่ยวชน ส่วนคนขับทราบชื่อนายเสรี เศรษฐีนามวงศ์ อายุ 31 ปี ลูกชายเจ้าของร้านขายผ้านิวบางกอก ตั้งอยู่ปากซอยสุขุมวิท 7/1 ถูกตำรวจจราจร สน.ลุมพินี จับกุมไว้ได้ในที่เกิดเหตุ นำตัวไปควบคุมที่ สน.ลุมพินีจากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายเสรีขับรถเก๋งคันก่อเหตุมาจากแยกอโศก มุ่งหน้าแยก เพลินจิตเฉี่ยวชนกับ จยย.นายฤทธิศักดิ์แล้วไม่ลงมาเจรจาค่าเสียหาย แต่ได้ขับรถออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้นายฤทธิศักดิ์ขี่รถ จยย.ตามมาจนถึงหน้าร้านสยาม 2 นวดเพื่อสุขภาพ นายฤทธิศักดิ์ขี่ จยย.จอดขวางหน้ารถนายเสรีในช่องทางขวาสุด แล้วลงมาจากรถ จยย.ยืนขวางหน้ารถ เรียกให้นายเสรีลงมาเจรจาเรื่องค่าเสียหาย แต่นายเสรีพยายามขับรถเดินหน้าเพื่อชนนายฤทธิศักดิ์แล้วเบี่ยงรถไปทางเลนกลางเพื่อหลบหนีนายฤทธิศักดิ์เห็นดังกล่าวจึงใช้มือทุบกระจกด้านคนขับ 2-3 ครั้ง พร้อมขึ้นรถ จยย.เพื่อจะขี่ตาม แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรนายเสรีเปิดประตูลงมาชกหน้านายฤทธิศักดิ์จนล้มลงพื้นพร้อมรถ จยย. ก่อนกระทืบซ้ำจนนายฤทธิศักดิ์สู้ไม่ได้ขี่ จยย.พยายามหลบหนี แต่นายเสรียังไม่หายแค้นขับรถตามไปอีกประมาณ 100 เมตร จนถึงที่เกิดเหตุนายฤทธิศักดิ์ขี่รถอยู่เลนซ้าย นายเสรีได้ขับรถปาดจากเลนขวาพุ่งเข้าชนรถ จยย.จนร่างนายฤทธิศักดิ์กระเด็นไปฟาดเสาเหล็กกล้องวงจรปิด กทม.อย่างแรงจนร่างหักงอเสียชีวิตทันทีต่อมานางสายใจ ตามบุญ อายุ 40 ปี พร้อมด้วย ด.ญ.แอน (นามสมมติ) ภรรยาและบุตรสาวนายฤทธิศักดิ์ทราบเรื่องเดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นสภาพศพทั้งคู่ถึงกับร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ก่อนนางสายใจเป็นลมทรุดลงกับพื้น เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นจนได้สติ สอบสวนได้ความว่า ผู้ตายเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว โดยมีลูกด้วยกัน 4 คนคนโตเป็นผู้หญิงอายุ 18 ปี เรียนอยู่ ม.6 โรงเรียนสายน้ำผึ้ง คนรองเป็นผู้หญิงอายุ 15 ปี เรียนอยู่ ม.2 อยู่โรงเรียนเดียวกัน ลูกสาวคนที่ 3 ไม่ได้เรียนหนังสือ ส่วนคนเล็กเป็นผู้ชายอายุ 8 ขวบ เรียนอยู่ ป.2 โรงเรียนสายน้ำทิพย์ อยากถามคนขับรถเก๋งว่า จิตใจทำด้วยอะไร ถึงทำได้ขนาดนี้ อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา และขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปเย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยว่า เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดีนายเสรี 2 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น” โดย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ได้กำชับสั่งการให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดกับผู้ที่กระทำความผิด เบื้องต้นได้ตรวจหาแอลกอฮอล์และสารเสพติดในร่างกายแล้วไม่พบ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำประจักษ์พยาน 2 ปาก สอบปากคำแม่ผู้เสียชีวิต 1 ปาก พร้อมยึดรถคันก่อเหตุไว้เป็นของกลางในคดี รวบรวมพยานหลักฐานกล้องวงจรปิด CCTV บริเวณที่เกิดเหตุทั้งหมดอย่างรอบคอบและรัดกุมเพื่อดำเนินคดีต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่