ผมไม่แน่ใจ เด็กๆ ที่โตจนเป็นคนเดือนตุลาฯปี 2516 อย่างท่าน รมว.ภูมิธรรม ทันเห็นเรือดำน้ำสี่ลำ มัจฉานุ สินสมุทร พิรุณ พลายชุมพล ของกองทัพเรือบ้างหรือไม่?เด็กรุ่นผม ทหารเรือรุ่น ทร.09 (2509-2511) ทันเห็นเรือพลายชุมพล เรือมัจฉานุ สองลำ ตอนนั้นดำน้ำไม่ไหวแล้ว ลอยลำให้เห็นเรือสีสนิมเต็มตา อยู่หน้ากรมอู่ทหารเรือในนิทานชาวไร่ น.อ.สวัสดิ์ จันทนี เล่าเรื่องตอนถูกส่งไปเรียนวิชาทหารเรือ น่าจะเรียนวิชาเรือดำน้ำด้วย ที่ฐานทัพใกล้เมืองฮิโรชิมา เห็นควันระเบิดดอกเห็ดเหนือฮิโรชิมา เมื่อ 3 ส.ค.2488 เต็มตาทหารเรือไทยผูกพันกับทหารเรือญี่ปุ่นมานานปานนี้ ปี พ.ศ. 2494 เกิดกบฏแมนฮัตตัน ร.ล.ศรีอยุธยา ลำที่จับ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกฯ เป็นตัวประกัน ถูกทิ้งระเบิดจมกลางเจ้าพระยาไทยต้องใช้ทหารเรือญี่ปุ่นมาตั้งหลักอยู่ป้อมวิชัยประสิทธิ์ กู้ซากเรืออยู่สองปีนอกจากเห็นเรือดำน้ำที่ลอยน้ำหน้ากรมอู่แล้ว ผมไม่เคยรู้เรื่องเรือดำน้ำไทยจากที่ไหนอีกเพิ่งอ่านเจอในหนังสือปากพูดหูเพี้ยน คุณสังคีต จันทนะโพธิ เล่าว่า บ้านอยู่ปากคลองบางหลวง ตอนอายุ 7-8 ขวบ ราวปี 2475 พ่อจูงมือลงเรือข้ามฟาก ไปดูทหารเรือยิงปืนเที่ยง ที่หน้ากองเรือกล ข้างพระบรมมหาราชวังริมฝั่งน้ำหน้ากองเรือกลนี่เอง คุณสังคีตคุยด้วยความภาคภูมิใจ ได้เห็นเรือดำน้ำไทย มัจฉานุ พลายชุมพล พิรุณ สินสมุทร จอดเรียงรายกันอยู่ครบทั้งสี่ลำเรือดำน้ำรูปลักษณะเล็กเรียวเหมือนปลากระบอก หัวเรือติดใบเลื่อยแหลมคม เห็นแล้วเข้าใจ พร้อมตัดเครื่องกีดขวางใต้น้ำ ทุกอย่างที่เจอคุณสังคีตทันเห็น ตอนเรือดำน้ำแล่นออกไปฝึกภาคทะเล มีชาวบ้านแตกตื่นวิ่งมาดูกันเกรียวก็คงตื่นเต้นทั้งทหารเรือและชาวบ้าน เชื่อกันว่า เป็นเขี้ยวเล็บที่ทรงพลังและทันสมัยของกองทัพเรือระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ไทยเรามีกรณีพิพาทกับอินโดจีน เรือดำน้ำของไทยเคยแล่นไปเพ่นพ่านลองเชิงอริราชศัตรูถึงปากน้ำเมืองไซ่ง่อน เวียดนามผลงานเรือดำน้ำกองทัพเรือ...ไม่ได้มีแค่เคยไปแล่นลองเชิงในน่านน้ำต่างแดน ที่เป็นผลงานจริงๆ (เออ! หรือจะไม่จริง) ก็คือเคยต้องถูกใช้ไปช่วยให้รถรางสายถนนตก...วิ่งได้รถรางแล่นบนบก เรือดำน้ำแล่นในน้ำ จะไปช่วยกันได้ยังไง?คุณสังคีตเล่าว่า ระหว่างสงครามที่ญี่ปุ่นแวะมาขอยืมไทยเป็นทางผ่านนั้น เครื่องบินพันธมิตรบินมาทิ้งระเบิดโรงไฟฟ้าวัดเลียบเสียหายไปหลายส่วนส่วนที่เสียหาย ก็ใหญ่โตเอาการ คือไม่พอที่จะป้อนไฟฟ้าให้รถรางวิ่งทางการแก้ปัญหานี้ได้...ขอเรือดำน้ำ (น่าจะลำเดียวก็พอ...นะ) ไปจอดหน้าอู่บางกอกด๊อก ยานนาวา แล้วให้เรือดำน้ำเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าเรือดำน้ำแรงพอที่จะส่งให้รถรางวิ่งได้ตลอดสายคนไทยที่ได้รู้วีรกรรมของเรือดำน้ำ...คงพอเข้าใจหัวอกของทหารเรือไทย...ของเขาเคยมี เคยใช้ และทหารเรือประจำการเรือดำน้ำก็มีพร้อมนับแต่กบฏแมนฮัตตัน หลายหน่วยงานทหารเรือ รวมกองเรือกล ก็ถูกยุบ อาวุธยุทโธปกรณ์ที่เคยรับการสนับสนุนเต็มที่ รวมทั้งเรือดำน้ำด้วยล่ะกระมัง ก็ลดน้อยลงความจริง อดีต? ก็ผ่านไปนานเนกาเลโข...เต็มที ถึงวันนี้ แผลใจไม่ว่าจะทหารเรือทหารไหนๆ รวมทั้งคนไทยก็น่าจะหายแล้ว เราจึงควรเดินหน้าไปด้วยกัน ตัวอย่างพม่าข้างบ้าน น่าจะเป็นบทเรียนที่ชัดเจน.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม