กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รายงานสถานการณ์สายพันธุ์โควิด-19 ภาพรวมทั่วโลกจากฐานข้อมูลกลาง GISAID (14 ต.ค.-10 พ.ย.67) สายพันธุ์ KP.3.1.1 พบมากที่สุดในสัดส่วน 45.6% มีอัตราการพบลดลงเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ 45ส่วนสายพันธุ์ XEC พบเพิ่มขึ้นในสัดส่วน 28.4% สายพันธุ์ JN.1 พบสัดส่วน 13.1% ขณะที่สายพันธุ์ KP.3, KP.2, JN.1.18, สายพันธุ์ Recombinant และ LB.1 มีแนวโน้มลดลง คิดเป็น 7.7%, 1.5%, 1.3%, 1.2% และ 1% ตามลำดับ“ประเทศไทย” ขณะนี้สายพันธุ์โอมิครอน “JN.1” เป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุด จำนวนทั้งหมด 1,480 ราย คิดเป็นสัดส่วนสะสม 66.23% ของสายพันธุ์ทั้งหมดที่พบในประเทศไทย ขณะที่ทั่วโลกพบจำนวน 426,852 ราย จาก 131 ประเทศ (อ้างอิงฐานข้อมูล CoV-spectrum ณ วันที่ 1 มกราคม-7 มกราคม 2568) ย้ำว่า...การเฝ้าระวังติดตามสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศ จะช่วยส่งเสริมความพร้อมทางห้องปฏิบัติการในการรับมือในอนาคต โดยประเทศไทยเผยแพร่ข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมสะสมในฐานข้อมูลกลาง GISAID จำนวน 47,369 ราย นับตั้งแต่เริ่มสถานการณ์ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทยวิเคราะห์การระบาดของไทย...หากจำกันได้รายงานรายสัปดาห์ครั้งสุดท้ายที่เห็นกันคือ ช่วง 15-21 ธันวาคม 2567 มีจำนวนผู้ป่วยนอนโรงพยาบาล 867 ราย หลังจากนั้น..ไม่มีข้อมูลในช่วงท้ายปีให้ทราบกันจนกระทั่งปัจจุบัน ดูจะมีการปรับระบบการแสดงข้อมูลในเว็บไซต์ ในหมวดรายงานสถานการณ์โรคสำหรับประชาชน ซึ่งมีการนำเสนอข้อมูลตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นมาทั้งนี้ แบ่งสัปดาห์แรกของปี โดยตัดแค่ช่วง 1-4 มกราคม และไม่ได้รวม 29-31 ธันวาคม 2567 ไว้ ในขณะที่สัปดาห์ที่ 2 นั้นก็รายงานลักษณะรายสัปดาห์ ซึ่งตัวเลขก็จะสะท้อนถึงวันปัจจุบันในแต่ละช่วงเวลาระบบรายงานมีลักษณะการรายงานตัวเลขที่อาจเรียลไทม์มากขึ้น เพราะตัวเลขเปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลาของวัน แต่ตัวเลขรายสัปดาห์ก่อนหน้าก็มีการปรับเปลี่ยนเช่นกัน...อย่างไรก็ตาม ลองวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ของไทยกัน ตามข้อมูลที่เห็นเมื่อเช้ามืดของวันที่ 8 มกราคม 2567 พบว่าวันที่ 1-4 มกราคม 2568 ระยะเวลาเพียง 4 วัน มี 1,393 ราย ซึ่งถือว่ามากกว่ารายงานรายสัปดาห์ในช่วงวันที่ 15-21 ธันวาคม 2567 ถึง 1.6 เท่าแต่หากประเมินว่า ช่วง 29-31 ธันวาคม 2567 ซึ่งอยู่ในสัปดาห์เดียวกันกับ 1-4 มกราคม 2568 มีอัตราการป่วยเช่นเดียวกันก็จะพบว่า...ตัวเลขต่อสัปดาห์จะอยู่ที่ 2,438 ราย หรือ...มากขึ้น 2.8 เท่าทั้งนี้ หากดูตัวเลข 1-7 มกราคม 2568 ซึ่งนับเป็นสัปดาห์แรกของปีใหม่นี้ โดยยึดตัวเลขตอนเช้าตรู่ของวันที่ 8 มกราคม 2568 จะพบว่า จำนวนมีถึง 2,389 ราย ซึ่งมากกว่าปลายปีก่อน 2.75 เท่าในชีวิตจริง ประเมินว่าจะมีคนที่ติดเชื้อทั้งที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย และไม่ได้ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลมากกว่าตัวเลขที่เห็น คาดว่า...แต่ละวันจะมีคนติดเชื้อราว 17,415-24,187 รายรศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ โพสต์ข้อมูลข้างต้นนี้ไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)” พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า สถานการณ์ของเราสอดคล้องกับสถานการณ์ทั่วโลกที่มีการระบาดมากขึ้นทั้งโควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ HMPV และโรคทางเดินหายใจอื่นๆ“การป้องกันตัวระหว่างใช้ชีวิตประจำวันจึงมีความสำคัญ ทั้งเรื่องการเลี่ยงที่แออัด ไม่คลุกคลีใกล้ชิดผู้ที่ป่วยมีอาการ มี symptom awareness...การรับรู้ถึงอาการ รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล รวมถึงการใส่หน้ากากป้องกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งเรื่องโรคติดเชื้อทางเดินหายใจต่างๆ และฝุ่น PM 2.5 ที่หนักหนาสาหัสมาก”“โควิด-19” นั้น ไม่ติดย่อมดีกว่า เพราะมีปัญหาเรื่อง “ลองโควิด” ในระยะยาวได้ ผลการศึกษาใน essential workers ที่นิวยอร์ก เผยแพร่ในวารสารการแพทย์ The Lancet ฉบับกุมภาพันธ์ 2025 ระบุ ความเสี่ยงของการเกิดปัญหา “ลองโควิด”...ติดเชื้อซ้ำ เสี่ยงป่วยเพิ่มขึ้นมีอาการยิ่งรุนแรง ยิ่งเสี่ยง ไม่ได้รับวัคซีน เสี่ยงกว่าเคยได้รับวัคซีนตอกย้ำ...ข้อมูลผู้ติดเชื้อ “โควิด-19” เช้าวันที่ 7 มกราคม 2568 รวม 6 วันแรกของปีนี้ ผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลไปแล้ว 1,967 ราย กทม.นำโด่ง ตามด้วย...ชลบุรี เชียงใหม่ สงขลา กลุ่มสูงอายุและวัยทำงานป่วยกันมาก ในขณะที่เด็กเล็กต่ำกว่า 5 ปีก็เช่นกันจำนวนป่วยรายสัปดาห์หากเทียบกับปลายปีก่อนถือว่าสูงขึ้นมาก ข้อมูลสุดท้ายที่นำเสนอในเว็บไซต์คือ 15-21 ธันวาคม 2567 จำนวน 867 รายรศ.นพ.ธีระ บอกอีกว่า ไม่มีเหตุผลใดที่ทั่วโลกขึ้น แล้วเราจะลง หากลักษณะการใช้ชีวิตโดยรวมไม่ต่างกัน จะต่างกันก็ต่อเมื่อระบบรายงานข้อมูลที่มีกระบวนการดำเนินงานต่างจากเค้า ดังนั้น...จึงควรพิจารณาสถานการณ์รอบตัว ข้อมูลที่ต่างๆ ประกอบควบคู่ไปด้วยเสมออดีต Chief Scientist ขององค์การอนามัยโลก Dr.Soumya ก็ออกมาเตือนประชาชนในแนวเดียวกับที่ได้บอกไป ย้ำอีกครั้ง... “จงมีสติ ไม่หลงต่อกิเลสความงมงายกับข่าวลือบ๊องๆ”ทั้งเรื่อง HMPV ไปจนถึงการปั่นข่าวลวงให้กลัววัคซีน สรรพคุณสิ่งเสพติด กัญชา กระท่อม อาหารเสริม สมุนไพรผีบอกและบริการล้างพิษทั้งหลาย สิ่งที่เราทำได้มีดังนี้...โควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ Human Metapneumovirus (HMPV) หรือเชื้อโรคทางเดินหายใจอื่นๆ...ใช้หลักการในการป้องกันแบบเดียวกัน“ใส่หน้ากาก ระวังที่แออัด รักษาความสะอาด มี symptom awareness...การรับรู้ถึงอาการ โรคใดมีวัคซีนก็ไปรับให้ครบตามกำหนด หากมีพฤติกรรมข้างต้นอยู่แล้ว ความเสี่ยงย่อมลดลง ความใส่ใจสุขภาพเป็นหัวใจสำคัญ...” รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ กล่าวทิ้งท้าย.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม