ปัจจุบันมิติการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่เหมือนยุคแรกๆ ที่เน้นทำงานเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จนกระทั่งปรับเปลี่ยนมาให้การสนับสนุนเรื่องเศรษฐกิจการค้า รวมถึงการดูแลบริการคนไทยในต่างประเทศมากยิ่งขึ้นมองเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นการกระชับให้แนบแน่นยิ่งขึ้น ด้านเศรษฐกิจการค้า ช่วยเปิดตลาดให้สินค้าไทยไปแพร่หลายในประเทศต่างๆได้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ทิ้งไม่ได้คือการดูแลบริการคนไทยในต่างประเทศ เพื่อให้ได้รับบริการที่ดี และไม่สร้างปัญหาในประเทศต่างๆที่อาศัยอยู่ เนื่องจากเดี๋ยวนี้แต่ละประเทศก็ดูเช่นกันว่า แต่ละสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุล ใส่ใจดูแลคนชาติตัวเองมากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่ทิ้งให้เป็นปัญหาของประเทศเขา มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศมาถึงยุคที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รับตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ได้รับนโยบายรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีความต่อเนื่องกับนโยบายประเทศต่างๆชัดเจน จับต้องได้โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับนโยบาย “การทูตเพื่อประชาชน” และ “การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก” ที่สามารถจับต้องได้ทุกมิติ ให้เข้าถึงประชาชน ได้ผ่านโครงการและนโยบายต่างๆของรัฐบาล นโยบาย “การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก” กระทรวงการต่างประเทศจึงยกระดับการเจรจาการค้า ส่งเสริมการท่องเที่ยวและใช้ซอฟต์พาวเวอร์ให้จับต้องได้มากขึ้น และเชื่อมท้องถิ่นไทยสู่สากล นอกเหนือจากสินค้าที่ผลิตขายอยู่กลไกของนโยบายดังกล่าว จึงใช้สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ ทั้ง 93 แห่งทั่วโลก เป็นประตูสู่การเจรจาการค้า พร้อมสนับสนุนการจัดงาน “เทศกาลไทย” (Thai Festival) ที่จัดประจำทุกปีในต่างประเทศ เป็นช่องทางกระจายสินค้าไทยไปสู่ตลาดโลก และให้จัดเพิ่มมากขึ้นการทูตไทย ต้องจับต้องได้ กินได้ และมั่นใจว่าคนไทยจะได้รับบริการที่ดี จะได้ประโยชน์ ทั้งเม็ดเงินที่จะหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น เอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศส่วนการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ มี นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวง ทำหน้าที่กำกับดูแลและประสานให้หน่วยงานในประเทศ สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ในต่างประเทศ รวมทั้งหน่วยงานนอกกระทรวง นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศขณะที่ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ นับเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ทำงานเชิงรุกในการประสานการทำงาน และประชาสัมพันธ์ได้อย่างดีหันมามองด้านการบริการ คนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ มี กรมการกงสุล เป็นหน่วยงานหลักในการบริการที่มีประสิทธิภาพ และได้รับรางวัลหน่วยงานที่บริการดีเด่นทุกปี งานบริการหนังสือเดินทาง มีการพัฒนาการเก็บข้อมูล การอำนวยความสะดวกรวดเร็วกว่าประเทศอื่นๆ งานรับรองเอกสารต่างๆ งานวีซ่า และงานคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ มีการพัฒนาต่อเนื่องสำหรับการประสานงานบริการคนไทยในต่างประเทศ งานทะเบียนราษฎร์ งานต่อหนังสือ เดินทาง และรับรองเอกสารตามสถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ กรมการกงสุล ประสานงานเชิงรุกได้ต่อเนื่อง รวมทั้งบริการกงสุลสัญจรตัวเลขคนไทยในต่างประเทศที่ลงทะเบียนเป็นทางการ มีจำนวน 1.3 ล้านคน แต่ตัวเลขจริงน่าจะอยู่ประมาณ 2 ล้านคน แต่ละปีทำการค้าและส่งเงินกลับประเทศไทยนับหมื่นล้านบาท วรวุฒิ พงษ์ประภาพันธ์ อธิบดีกรมการกงสุลยุค นายวรวุฒิ พงษ์ประภาพันธ์ อธิบดีกรมการกงสุล คนปัจจุบันได้ใช้ประโยชน์จากระบบ e-Consular Service ต่างๆ ที่จัดเตรียมไว้ให้อย่างเต็มที่ รวมทั้งมุ่งมั่นรักษาคุณภาพของการปฏิบัติภารกิจด้านการกงสุลด้วยจิตบริการ และความเอาใจใส่ให้สมคำขวัญที่ว่า “การทูตเพื่อประชาชน ทุกแห่งหนเราดูแล”ในปี 2568 กรม การกงสุล มีภารกิจสำคัญคือ การก้าวสู่การทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-พาสปอร์ต ระยะที่ 3 นำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้เก็บข้อมูลบุคคลให้ละเอียดรัดกุมมากยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อให้หนังสือเดินทางไทยเชื่อมโยงกับระบบการตรวจตราของประเทศต่างๆ และเป็นที่เชื่อถือยิ่งขึ้นไปอีกส่วน “ของขวัญปีใหม่ 2568” ของ กระทรวงการต่างประเทศ ปีนี้ กรมการกงสุล ก็ยังคงเน้นเรื่องการบริการ ได้แก่1.การให้บริการหนังสือเดินทางด่วนภายในวันเดียว (ทำเช้า-รับบ่าย) โดยชำระค่าธรรมเนียม ในอัตราปกติ (ไม่ต้องจ่ายเพิ่มในอัตราเล่มด่วน) ตั้งแต่วันที่ 2-17 มกราคม 2568 (ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์) 2.การให้บริการกงสุลสัญจร “ของขวัญตลอดปี” เพื่อให้บริการหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ ในพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ รวม 12 ครั้ง ตลอดปี 2568 (เฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง) เพื่อบริการประชาชน ในพื้นที่จังหวัดที่ไม่มีสาขาสำนักงานหนังสือเดินทางตั้งอยู่3.การให้บริการนิติกรณ์เอกสารด่วน (ทำเช้า-รับบ่าย) โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมบริการด่วน (จำกัดคนละ 1 เอกสาร โดยต้องเป็นเอกสารของตนเองหรือบุคคลในครอบครัวเท่านั้น) ตั้งแต่วันที่ 6-17 มกราคม 2568 (ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์) ณ กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ สนง.สัญชาติและนิติกรณ์ ปทุมวัน ฝ่ายสัญชาติ และนิติกรณ์ สนง.หนังสือเดินทางฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ สงขลา อุบลราชธานี และพัทยา4.การบริการรถทะเบียนเคลื่อนที่ของ กทม. ณ กรมการกงสุล โดยกรมการกงสุลร่วมกับกรุงเทพมหานครเปิดให้บริการรถทะเบียนเคลื่อนที่ กทม. (Bangkok Mobile Service) ตั้งแต่วันที่ 6-10 มกราคม 2568 ณ ลานจอดรถ กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อให้บริการทำบัตรประชาชนใหม่ และคัดสำเนาเอกสารทะเบียนราษฎร์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 3 ประเภท ได้แก่ รายการทะเบียนบ้าน (ทร.14/1) สูติบัตร และมรณบัตรปีนี้เน้นบริการเชิงรุกทั้งไทยและต่างประเทศ ให้คนไทยได้รับบริการที่ดี.ทีมข่าวภูมิภาคอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม