ใน “แลหลังแดนมังกร” หนังสือชุดประวัติศาสตร์จีน เล่ม 2 ยุคจั้นกว๋อ (นานมี พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2542) เรื่องพลเรือนและทหารสมานสามัคคี ถาวร สิกขโกศล ผู้แปล เริ่มต้นว่า ชาวจีนรู้และซาบซึ้งเล่าขานต่อๆกันมากว่าสองพันปีแต่เรื่องนี้ มีที่มาจากหยกกลมมีรูตรงกลาง งามประมาณค่ามิได้ชิ้นเดียวเล่าสืบๆ กันมาในยุคชุนชิว (ก่อน พ.ศ. 227 ปีถึง พ.ศ.67) เปี้ยนเหอ ชาวแคว้นฉู่ได้หินหยก (หินมีหยกอยู่ภายใน) มาก้อนหนึ่ง เขารู้ว่าหินหยกก้อนนี้มีค่ามาก จึงนำไปถวายฉู่ลี่อ๋อง แต่คนของฉู่ลี่อ๋องเห็นว่าเป็นแค่หินธรรมดาฉู่ลี่อ๋องหาว่าเปี้ยนเหอหลอกลวง สั่งตัดเท้าซ้าย ฉู่ลี่อ๋องพิราลัย เปลี่ยนรัชกาลเป็นฉู่อู๋อ๋อง เปี้ยนเหอ ก็นำหินหยกก้อนนั้นขึ้นไปถวายอีก เจอชะตากรรมเดิม ฉู่อู๋อ๋องไม่เชื่อ สั่งตัดเท้าขวาเปลี่ยนเป็นแผ่นดินฉู่เหวินอ๋อง...มีข่าวเปี้ยนเหอกอดหินหยกร้องไห้ ฉู่เหวินอ่อง สั่งช่างหยกนำหยกก้อนนั้นมาผ่า ผลคือเจอหยกงามเลิศล้ำค่าหยกชิ้นนั้นถูกเรียกว่า เหอสื้อปี้ ตามชื่อเจ้าของผู้เคราะห์ร้ายคนแรกพ.ศ.260 หยกเปี้ยนเหอ เป็นสมบัติผลัดกันชม อยู่ในครอบครองของเจ้าหุ้ยเหวินอ๋อง แคว้นเจ้าช่วงเวลาในยุคจั้นกว๋อ (พ.ศ.67-321) แคว้นเล็กๆถูกกลืนเข้าไปรวมอยู่กับเจ็ดแคว้นใหญ่ วุ่น เจ้า หาน ฉิน ฉี ฉู่ และเอียน แต่ละแคว้นต่างก็หาโอกาสแย่งชิงความเป็นใหญ่ฉินจาวเชียงอ๋อง รู้ข่าวหยกเหอสื้อปี้ ส่งทูตมาเจรจา ขอยกเมือง 15 เมือง แลกเจ้าหุ้ยเหยินอ๋อง จะปฏิเสธก็เกรงแคว้นฉินแคว้นใหญ่หาเรื่อง แต่จะให้หยกก็กลัวว่า แคว้นฉินจะไม่ยก 15 เมืองให้จริงแต่เมื่อได้ตัว ลิ่นเซียงหยู เขาอาสาเป็นทูตนำหยกเหอสื้อปี้ ไปดูท่าทีแคว้นฉินเรื่องเป็นไปตามที่แคว้นเจ้าระแวง ฉินจาวเซียงอ๋อง เห็นหยกวิเศษประมาณค่ามิได้ ก็เรียกเหล่าขุนนางและสาวสนมกรมใน ให้มาชื่นชม แต่ตลอดเวลาเจ้าแคว้นฉินไม่ได้เอ่ยถึง เรื่องยก 15 เมืองแลกเลยแม้แต่คำเดียวลิ่นเซียงหยูเห็นท่าไม่ดีก็ต้องใช้ปฏิภาณ บอกกับฉินจาวเซียงอ๋อง“หยกชิ้นนี้ ดูภายนอกงามนัก แต่แท้จริงยังมีตำหนินิดหน่อยอยู่ภายใน ถ้าอยากรู้ข้าพเจ้าจะช่วยชี้ให้”ฉินจาวเซียงอ๋อง สั่งให้นำหยกมายื่นให้ ลิ่นเซียงหยูได้หยกมาในมือ ก็ถอยไปยืนข้างเสาหินใหญ่ ชูชิ้นหยกแล้วบอกกับอ๋องแคว้นฉินหนักแน่น“ถ้าท่านยังไม่ออกปาก ยก 15 เมืองให้ตามที่พูดกันไว้ ข้าพเจ้าจะเอาหยกชิ้นนี้ กระแทกเสาหินให้แตกหัก และข้าพเจ้าก็จะเอาศีรษะชนเสาฆ่าตัวตาย”อ๋องแคว้นฉิน เจอไม้นี้เข้าก็จนแต้ม เรียกแผนที่ขีดเส้นแบ่ง 15 เมือง แต่กระนั้นลิ่นเซียงหยู ก็ยังบอกว่า ก่อนมาอ๋องแคว้นเจ้าถือศีลกินเจห้าวัน จึงขอเวลาให้อ๋องแคว้นฉิน กินเจห้าวัน อ๋องแคว้นฉินทำตามถึงเวลาทูตแคว้นเจ้าก็แบมือเปล่าบอก แอบให้คนเอาหยกกลับแคว้นเจ้าไปแล้ว เพราะไม่เชื่อใจ ให้หยกไปแล้วแคว้นฉิน จะให้ 15 แคว้น อ๋องแคว้นฉินโกรธ สั่งจับลิ่นเซียงหยูมัดแต่ทูตแคว้นเจ้าก็จ้องหน้า พูดว่า ถ้าแคว้นฉินปล่อยตัวไป แคว้นเจ้าเป็นแคว้นเล็กกว่าคงไม่กล้าบิดพลิ้ว มอบหยกเหอสื้อปี้ให้ เรื่องหินหยก ซึ่งครั้งหนึ่งแทบไม่มีค่า แต่เมื่อต่อมามีคนรู้ค่ากลายเป็นหยกมีค่าสูงก็จบลงลิ่นเซียงหยู รอดชีวิตกลับแคว้นเจ้า และแคว้นฉิน ก็ได้หยกเหอสื้อปี้ไว้เรื่องราวของหยกเหอสื้อปี้ ชวนให้คิดถึงใครบางคน... วันนี้ ไม่ว่าจะหันไปทางไหน มีค่าในใจคนน้อยนัก ไม่ว่าจะพูดจา หรือจะทำอะไร จะถูกจับเป็นเรื่องผิดไปเสียทุกเรื่องกว่าจะพิสูจน์ได้ เนื้อในเป็นหยกงาม...จะใช้เวลานานแค่ไหน ...นึกถึงเปี้ยนเหอ ถูกตัดเท้าไปสองข้าง ตายไปหลายร้อยปี กว่าหินธรรมดาจะถูกประเมินค่าแลกเมือง 15 เมือง...แล้วก็เหนื่อยใจแทน.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม