ผมเขียนทิ้งท้ายคอลัมน์เมื่อวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม ฝากเป็นข้อพิจารณา สำหรับท่าน สส. ซึ่งมีหน้าที่ในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แทนอดีตนายกฯเศรษฐา ทวีสิน หลายข้อ..แต่หลักๆดูเหมือนจะมีอยู่ 2 ข้อข้อแรก ผมอยากเห็นการเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาติดขัดยืดเยื้อ เพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลใหม่มาบริหารบ้านเมืองโดยเร็วที่สุดข้อสอง ขอให้ท่าน สส.ช่วยเลือกผู้ที่เหมาะสมที่สุดในรายชื่อแคนดิเดตนายกฯทั้ง 7 ท่านที่ยังมีสิทธิ ณ นาทีนี้ ตามกติกาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผลปรากฏว่า ท่าน สส.ท่านสามารถเลือกได้อย่างเร็วที่สุด เพราะในวันศุกร์ที่ 16 ส.ค.นั่นเอง สภาผู้แทนราษฎรก็ลงมติเลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มาเป็นนายกฯ คนที่ 31 ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 319 เสียง ไม่เห็นชอบ 145 เสียง เกินกึ่งหนึ่งของจำนวน สส.ที่มีอยู่อย่างท่วมท้นซึ่งเมื่อได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแล้ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อายุ 37 ปี 11 เดือนเศษๆ (จะครบ 38 ปีในวันที่ 21 สิงหาคมนี้) ก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย เป็นนายกฯหญิงคนที่ 2 ของไทย และเป็นนายกฯอายุน้อยที่สุดเท่าที่ประเทศไทยของเรามีนายกรัฐมนตรีเป็นต้นมาถามผมว่ารู้สึกอย่างไรบ้างกับประเด็นที่ฝากท่าน สส.ไว้กับสิ่งที่ท่าน สส.ได้ตัดสินใจดำเนินการในที่สุด?ข้อแรกเลยคงต้องขอบคุณท่าน สส.ทุกท่านที่ตัดสินใจเลือกนายกฯใหม่อย่างรวดเร็วทันใจ สามารถนำชื่อทูลเกล้าฯได้ภายใน 2 วันเท่านั้น หลังจากอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งแต่สำหรับข้อสองที่ฝากไว้ให้ท่านช่วยเลือกแคนดิเดตที่เหมาะสมที่สุดนั้น...คงต้องเรียนอย่างตรงไปตรงมาว่าผมรู้สึกไม่สบายใจ, กังวลใจ และห่วงใยอย่างยิ่งสำหรับอนาคตของประเทศเหตุเพราะผมไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าหวยจะมาออกที่คุณแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งผมวางอันดับไว้เกือบท้ายสุดในรายชื่อ “แคนดิเดต” ทั้ง 6 ท่านที่มีสิทธิในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลผมยังนึกว่าหากพรรคเพื่อไทยยังประสงค์ที่จะเป็นแกนนำต่อไป และก็ควรจะเป็นอย่างยิ่งเพราะมีคะแนนเสียงสูงสุดในบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้ คงจะเสนอคุณ ชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุด ซึ่งแม้จะมีข่าวว่าไม่ค่อยสบาย เจ็บออดๆแอดๆ แต่ล่าสุดก็มีผู้พบเห็นว่าท่านแข็งแรงดีแล้วไม่น่าจะส่งคุณแพทองธาร ซึ่งอาวุโสน้อยทั้งในแง่อายุจริง และพรรษาทางการเมือง ตลอดจนยังไม่เคยผ่านการบริหารองค์กรหลักใดๆมาก่อน นอกเสียจากบริษัทในเครือของตระกูลตนเองอย่าลืมว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คือ ตำแหน่งสูงสุดของฝ่ายบริหาร จึงจำเป็นจะต้องมี “บารมี” ในระดับหนึ่งและมีความสามารถเป็นที่ประจักษ์ในระดับหนึ่ง เพื่อสร้างความเชื่อถือเชื่อมั่นให้แก่ทุกๆฝ่ายในประเทศนี้ ไม่ว่าภาครัฐ เอกชน หรือประชาชนทั่วไปดังนั้นเมื่อมีการประชุมตัวแทนพรรคร่วมที่บ้าน จันท์ส่องหล้า ในช่วงเย็น หลังทราบการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว และมีมติให้เสนอคุณชัยเกษมเป็นนายกรัฐมนตรี จึงเป็นเรื่องที่เหมาะที่สุดในสายตาของผมเหมาะในสถานการณ์และบริบทต่างๆในปัจจุบันว่าอย่างนั้นเถิดแต่พอรุ่งขึ้นอีกวันก็เกิดการพลิกโผขนานใหญ่ เมื่อมีรายงานว่าบรรดา สส.พรรคเพื่อไทยเห็นว่าควรจะเสนอคุณแพทองธารเสียเลย และพรรคร่วมต่างๆก็เห็นชอบด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์หวยจึงมาออกที่คุณแพทองธาร และนำมาซึ่งความห่วงใยต่ออนาคตของชาติบ้านเมือง ดังที่ผมได้เกริ่นไว้ในตอนต้นแต่จะทำอย่างไรได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เมื่อท่าน สส.ท่านตัดสินใจแล้วก็จะต้องเดินหน้าต่อไป หาทางแก้ปัญหากันต่อไปในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขขอยํ้าว่าในระบอบประชาธิปไตยนะครับ อย่าได้มีโรคแทรกซ้อน อันใดเป็นอันขาด จะถอยหลังเข้าคลองไปอีกหลายร้อยกิโลเมตรเลยล่ะครับ ประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเรา.“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ "เหะหะพาที" เพิ่มเติม