ความอึดอัดของ คนอเมริกัน ก่อนหน้านี้ ทั้งภาวะเศรษฐกิจที่รุมเร้า ตั้งแต่วิกฤติโรคระบาดโควิด-19 มาจนถึงปัจจุบัน ผลกระทบจากวิกฤติสงคราม และ วิกฤติผู้นำสหรัฐฯ ที่ถือว่ายุคนี้หนักหนาสาหัสที่สุด การเริ่มต้น กระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีตัวเลือกแค่ระหว่าง ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กับ อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เต็มไปด้วยปัจจัยลบมากกว่าบวกและไม่ได้เป็นความหวังของคนอเมริกันที่จะหลุดพ้นจากกับดักปัญหาต่างๆในอนาคตแม้ ทรัมป์ จะไม่เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหู แต่มีผู้ถูกลูกหลงเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 2 รายในเบื้องต้น ซึ่งการใช้อาวุธปืนก่อความรุนแรงในสหรัฐฯเกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ไม่เกิดขึ้นกับนักการเมืองระดับประเทศและบุคคลสำคัญของประเทศมานานมากแล้วนับตั้งแต่เกิดการก่อการร้ายในสหรัฐฯครั้งใหญ่ มีการเข้มงวดเรื่องของความปลอดภัยจากบุคคลภายนอก แต่ความรุนแรงที่เกิดจากภายในของสหรัฐฯเองไม่มีการป้องกันดีพอ เช่น การอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน เป็นต้นทรัมป์ ถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับคดีต่างๆในระหว่างการหาเสียงและถูกขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆมาโจมตีอย่างหนัก ส่วน ไบเดน อาการที่เกิดจากสุขภาพและอายุในวัย 81 ปี ปรากฏความชัดเจนในที่สาธารณะหลายครั้ง เช่น การประชุมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ไบเดน ไปปล่อยไก่เอาไว้หลายตัว ไม่ว่าจะเป็นชื่อและตำแหน่งของผู้นำประเทศต่างๆหรือบางครั้งก็พูดไม่จบประโยควนไปวนมา จนกระทั่งมีเสียงเรียกร้องให้ถอนตัว และยุติการให้เงินสนับสนุนในการลงเลือกตั้งครั้งนี้ทั้งทรัมป์ ทั้งไบเดน เดินหน้าไม่ถอย และไม่สนใจคำเตือนใดๆ เข้าใจว่าเป็นจุดที่ทำให้การเมืองในสหรัฐฯเข้าสู่โหมดของความรุนแรงอีกครั้งการเมืองเดือดไม่ใช่เกิดขึ้นที่สหรัฐฯ ในยุโรป ฝรั่งเศส ในตะวันออกกลาง มีการแสดงความเห็นและเคลื่อนไหวเกิดจากความไม่พอใจ ผู้นำหลายประเทศ บ้านเรามีคนไปตั้งคำถามกับ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน จะมีการปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยหรือไม่เพราะนายกฯไทยเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยๆ ซึ่งนายกฯเศรษฐาปฏิเสธว่าเป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่าระบบความปลอดภัยดีอยู่แล้วจะว่าไปแล้ว แรงกดดันทางการเมืองในบ้านเราก็ใช่ย่อย ชนวนการเมืองรอการปะทุเป็นดอกเห็ด ความเก็บกดที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง โฟกัสไปที่รัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะคนสำคัญฝ่ายรัฐบาล ประกอบกับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยในการลงพื้นที่ของคนสำคัญ ยังไม่เข้มงวดมากนักบ้านเรายังไม่ถึงขั้นลอบสังหารผู้นำ ยกเว้นในช่วงสมัยรัฐบาลที่มีผู้นำมาจากกองทัพและเกิดการชิงอำนาจกันเอง มาเกิดขึ้นอีกครั้งสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เกิดจากฝีมือของคนมีสี สมัยนั้นอดีตนายกฯทักษิณถูกลอบสังหารหลายครั้ง มาจนถึงการชุมนุมทางการเมืองใช้สไนเปอร์สังหารผู้ชุมนุมก็เป็นคนมีสีอีก จนถึงการยึดอำนาจก็คนมีสีการเมืองเมื่อถึงทางตันก็ต้องจับตาย.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม
