คดีนักธุรกิจหนุ่มดับปริศนาที่ จ.มหาสารคาม เริ่มบานปลาย ญาติคนตายและภรรยาเริ่มขัดแย้งหลายประเด็นรวมทั้งเรื่องทรัพย์สมบัติของคนตาย ขณะที่ “ทนายเดชา” แย้ม ก่อนนักธุรกิจหนุ่มดับเคยถูกลอบยิงในพื้นที่ สน.วังทองหลางจริง หลักๆมาจากปัญหาครอบครัวและเรื่องชู้สาว แต่ยังไม่ได้ตัดประเด็นความขัดแย้งทางธุรกิจกรณี น.ส.ณัฐปภัษร์ หรือเจ ธนภัคนันท์หิรัญ อายุ 41 ปี น้องสาวนายพิชิต หรือต้น กลีบจินดา อายุ 44 ปี นักธุรกิจสอนนวดแผนไทย เปิดเป็นสถาบันสอนนวดไทยและสปาเสริมความงามในซอยรามคำแหง 26/2 รวมทั้งเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ในซอยพัฒนาการ 13 เข้าร้องขอความช่วยเหลือนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความคนดัง กรณีนายพิชิตผู้เป็นพี่ชายตายปริศนาในบ้านเลขที่ 18 หมู่ 9 ต.ดงเมือง อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ขณะผู้ตายเดินทางมาหา น.ส.วรรณิภา หรือมด หะมาลา อายุ 37 ปี ผู้เป็นภรรยา เบื้องต้นพบสภาพศพดำคล้ำผิดปกติ สันนิษฐานอาจถูกวางยาพิษประกอบกับทาง รพ.ยางสีสุราช ระบุสาเหตุการตายไม่ชัดเจน ใช้คำว่า Unattended Death เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 เม.ย. มีการจัดงานสวดศพเพียง 3 วัน ก่อนฌาปนกิจ ทั้งนี้ญาติผู้ตายยังให้ข้อมูลด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงดึกวันที่ 8 เม.ย. ผู้ตายเคยถูกคนร้าย 2 คน ขี่รถ จยย.ประกบยิง 5 นัด บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. ขณะขับรถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน งร 81 กรุงเทพมหานคร กลับจากสถานบันเทิง ตรวจสอบภายในรถพบหัวกระสุน 4 หัว เบื้องต้นญาติของผู้เสียชีวิตเชื่อทั้ง 2 เหตุมีความเชื่อมโยงกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 พ.ค. น.ส.ณัฐปภัษร์ หรือเจ ธนภัคนันท์หิรัญ อายุ 41 ปี น้องสาวนายพิชิต หรือต้น กลีบจินดา เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง ร.ต.อ.ไท สว่างจิตร รอง สว. (สอบสวน) สน.วังทองหลาง เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมในคดีพี่ชายถูกลอบยิงแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้น พ.ต.อ.เจษฎา ให้ข้อมูลว่า เมื่อคืนวันที่ 20 พ.ค. ชุดสืบสวน สน.วังทองหลาง เข้าตรวจค้นบ้านผู้เสียชีวิตในซอยพัฒนาการ 20 เพื่อหาหลักฐานความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่ถูกลอบยิงในคืนวันที่ 8 เม.ย.เบื้องต้นไม่พบหลักฐานความเชื่อมโยง แต่คนใกล้ชิดนายพิชิตให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เตรียมใช้ข้อมูลเหล่านี้ไปเป็นแนวทางการสืบสวนหาเบาะแสคนร้ายหลังการสอบปากคำนานเกือบ 1 ชั่วโมง น.ส.ณัฐปภัษร์เปิดเผยว่า ก่อนเสียชีวิตพี่ชายมีปัญหาเรื่องชู้สาวที่เป็นความขัดแย้งค่อนข้างรุนแรง แต่ไม่ขอตอบว่าขัดแย้งกับใครและปมชู้สาวจะเป็นเหตุให้พี่ชาย แยกทางกับภรรยาหรือไม่ เรื่องนี้ไม่ขอตอบ กรณีที่ภรรยาของพี่ชายระบุสามีเป็นคนอารมณ์รุนแรง แพทย์แนะนำให้แยกกันอยู่และต้องกินยา ตนไม่ทราบเรื่องนี้ ส่วนกระดูกของผู้ตายที่นำมาส่งให้สถาบันนิติเวช รพ.ตร.ตรวจสอบ เชื่อจะต้องตรวจสอบได้บ้างว่าในกระดูกมีสารอะไรหลงเหลืออยู่ ส่วนตัวมีข้อสงสัยพี่ชายอาจถูกวางยาทำให้เสียชีวิตต่อมา 13.30 น. นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายคลายทุกข์ ร่วมแถลงข่าวพร้อม น.ส.ณัฐปภัษร์ หรือเจ น้องสาวของนายพิชิต ว่ารับเรื่องร้องเรียนเรื่องสาเหตุการตายของนายพิชิตแล้ว เบื้องต้นพบการสอบสวนของตำรวจจนถึงขณะนี้คืบหน้าไปมาก เชื่อว่าเรื่องหลักๆน่าจะเป็นปัญหาในครอบครัวและไม่ใช่การตายแบบธรรมชาติ เนื่องจากนายพิชิตเป็นคนแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว แต่พอไปถึง จ.มหาสารคาม กลับตายอย่างกะทันหัน“ยืนยันมีการลอบยิงนายพิชิตแน่นอน เท่าที่ผมทราบข้อมูลผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนไม่เคยมีปัญหากับผู้ตายมาก่อนและเรื่องนี้ไม่ได้ทำคนเดียว มีหลักฐานในการนัดแนะให้นายพิชิตไปสถานที่ต่างๆชัดเจน ปัญหาหลักๆมาจากปัญหาครอบครัวและเรื่องชู้สาว แต่ตำรวจยังไม่ได้ตัดประเด็นปัญหาทางธุรกิจ ส่วนประเด็นที่นายพิชิตทำประกันชีวิตไว้นั้น ตอนนี้บริษัทประกันภัยดังกล่าวสืบสวนเรื่องนี้แล้วแต่ไม่ออกมาเปิดเผยว่าได้ข้อมูลอะไรบ้าง” นายเดชากล่าวอีกด้านที่ สภ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม น.ส.วรรณิภา หรือมด หะมาลา อายุ 37 ปี ภรรยาของนายพิชิต หรือต้น กลีบจินดา และลูกทั้ง 3 คน เดินทางมาพร้อมทนายความเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ยางสีสุราช เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีการเสียชีวิตของนายพิชิตผู้เป็นสามี หลังการสอบปากคำนาน 2 ชั่วโมง น.ส.วรรณิภา หรือมด เปิดเผยว่า เดินทางเข้าให้ปากคำกับตำรวจหลังจาก ผกก.สภ.ยางสีสุราช ขอข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับประเด็นที่ไม่ส่งศพไปชันสูตร เพราะเห็นว่าเป็นการเสียชีวิตตามปกติและได้ถามหมอถามตำรวจแล้วก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนเรื่องจัดงานไม่ได้เร่งรีบอะไร สวด 3 วันแล้วก็เผาตามปกติ เท่าที่ทราบศพของสามีไม่ได้ฉีดยาฟอร์มาลิน ดิฉันทราบเพียงว่าสามีฉีดสเตียรอยด์เพราะอยากมีกล้าม ส่วนเรื่องคดีลอบยิงไม่ทราบว่าผู้ตายมีศัตรูที่ไหนอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่