ดีเจรุ่นใหญ่วัย 70 ประจำร้านโอเกะ “บัดดี้โฮม” ซอยนวมินทร์ 50 สุดทนถูกสาวใหญ่เจ้าของร้านยืมเงินกว่า 2 แสนบาทตั้งแต่ปี 65 ไม่ยอมใช้หนี้ พกปืน .38 เข้ามาทวง ระเบิดกระสุนใส่ลูกหนี้ 3 นัดซ้อน เจ็บสาหัส ก่อนใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อขมับปลิดชีพหนีความผิด พบจดหมายผู้ตายเขียนระบายความเครียดเรื่องเงินที่โดนยืมไปจนเป็นชนวนเหตุครั้งนี้ดีเจรุ่นใหญ่ยิงเจ้าของร้านโอเกะเจ็บสาหัสก่อนจ่อขมับยิงตัวตายหนีความผิด เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 11 มี.ค. ร.ต.อ.อัฐพล พงษ์ประดิษฐ์ รอง สว. (สอบสวน) สน.บึงกุ่ม รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ภายในร้านอาหารกึ่งคาราโอเกะ “บัดดี้โฮม” เลขที่ 70/359 ซอยนวมินทร์ 50 แขวง คลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. รุดตรวจสอบพร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บึงกุ่ม ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ตร.และมูลนิธิร่วมกตัญญูที่เกิดเหตุเป็นร้านอาหารกึ่งคาราโอเกะ มีดีเจเปิดเพลงไทยย้อนยุค ภายในร้านส่วนห้องครัวพบศพนายสมาน จันทร อายุ 70 ปี สภาพนอนหงายจมกองเลือด ในชุดเสื้อแจ็กเกตสีน้ำเงินสวมทับเสื้อเชิ้ตสีขาวลายฟ้า กางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกปืนยิงเข้าที่ขมับขวากระสุนฝังใน ตรวจสอบพบปืนลูกโม่ .38 ที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่ที่หว่างขาผู้ตาย 1 กระบอก ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อ น.ส.รัตนา เนตรพุกณะ อายุ 59 ปี เจ้าของร้านดังกล่าว ถูกยิงเข้าตามร่างกายบริเวณหัวไหล่ซ้าย-ขวา รวม 2 นัดและกระสุนเฉี่ยวศีรษะบริเวณหน้าผาก 1 นัด พนักงานของร้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุรีบนำส่ง รพ.พญาไท-นวมินทร์ ขณะที่ศพของผู้เสียชีวิตถูกนำส่งให้แพทย์นิติเวช รพ.ตร.ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 21.30 น. มีลูกค้านั่งดื่มกินอยู่ในร้านประมาณ 5-6 คน ส่วนใหญ่ เป็นคนมีอายุ ระหว่างนั้นนายสมานผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นดีเจประจำร้านเดินเข้ามาภายในร้าน นั่งเงียบๆอยู่ประมาณ 10 นาที จากนั้นเดินเข้าไปหา น.ส.รัตนาที่ยืนล้างมืออยู่ภายในครัว ชักปืนลูกโม่ .38 ออกมารัวยิง น.ส.รัตนา 3 นัดซ้อน ก่อนใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงเข้าที่ขมับขวาของตัวเองหนึ่งนัดล้มลงเสียชีวิตทันที ส่วน น.ส.รัตนากระเสือกกระสนพาร่างโชกเลือดของตัวเองออกจากห้องครัวเพื่อขอให้คนในร้านช่วยนำส่ง โรงพยาบาลเบื้องต้นอาการปลอดภัยต่อมาเวลา 11.00 น. วันที่ 12 มี.ค. พ.ต.อ.อธิวัฒน์ นุชถาวร ผกก.สน.บึงกุ่ม กล่าวถึงคดีนี้ว่า นางรัตนาคนเจ็บยังอาการสาหัส ถูกยิงเฉี่ยวศีรษะ 1 นัด และร่างกาย 2 นัด ส่วนสาเหตุเกิดจากปัญหาหนี้สินที่นางรัตนาเจ้าของร้านผู้บาดเจ็บยืมเงินจากนายสมานผู้ก่อเหตุที่เป็นดีเจประจำร้านเปิดเพลงไทยย้อนยุค 90 เป็นเงินรวมกว่า 2 แสนบาท เพื่อมาใช้จ่ายหมุนเวียนในกิจการของร้าน เป็นการยืมเงินทีละเล็กละน้อยมาตั้งแต่ปี 65 โดยคนเจ็บสัญญาจะผ่อนคืนให้เป็นรายเดือน เดือนละ 3 หมื่นบาท เริ่มผ่อนคืนตั้งแต่ 1 ม.ค. แต่กลับไม่ยอมผ่อนให้ผู้ตายจนเครียด“วันเกิดเหตุนายสมานไปทวงเงินจากคนเจ็บด้วยความโกรธแค้นที่โดนเบี้ยวหนี้มาหลายครั้ง ก่อนใช้ปืนยิงนางรัตนาไป 3 นัดจนคิดว่านางรัตนาเสียชีวิตแล้ว จึงใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อขมับยิงตัวเองตายหนีความผิด ตรวจสอบปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนลูกโม่ขนาด.38 ในรังเพลิงพบกระสุน 2 นัดปลอกกระสุน 4 ปลอก และพบจดหมายลาตายของนายสมานระบายความเครียดเกี่ยวกับเงินที่ถูกคนเจ็บยืมไปประมาณ 2 แสนบาทแต่ไม่คืนเงินให้ตามสัญญาจึงก่อเหตุดังกล่าว ส่วนคดีความเมื่อผู้ก่อเหตุเสียชีวิตคดีก็คงยุติไป” พ.ต.อ.อธิวัฒน์กล่าวอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่