ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ของสภาผู้แทนราษฎร มีการพิจารณางบประมาณในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 117,198,247,300 บาทพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เป็นตัวแทนเข้าชี้แจงและตอบคำถามเรื่องการขออนุมัติงบประมาณตำรวจด้วยตัวเองว่า “วันนี้จะพูดความรู้สึกและเปิดหัวใจกับพวกท่าน ยอมรับทุกคนคาดหวังการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนเติบโตมากับหน่วยปฏิบัติทั้งชีวิต และเข้าใจทุกอย่าง”ในฐานะ ผบ.ตร.แก้ปัญหาให้ดีที่สุดผบ.ตร.อธิบายว่า ได้ไปตรวจโรงพักแห่งหนึ่งใกล้ๆกรุงเทพฯมีตำรวจเต็มอัตรา 200 คน แต่มีตำรวจจริง 100 คนต่อจำนวนประชากร 400,000 คน มีประชากรแฝง จำนวน 400,000 คน รวมตำรวจ 1 คนต่อประชากร จำนวน 8,000 คน ถ้าไม่นับข้าราชการตำรวจสายธุรการและพนักงานสอบสวนบอกว่า คิดดูว่า ตำรวจต้องดูแลคนเท่าไร ช่วง 3 ปีที่เจอวิกฤติสถานการณ์โควิด-19 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้ผลิตตำรวจชั้นประทวน และพนักงานสอบสวน ทำให้ขาดกำลังพลทดแทนการทำงานของตำรวจไม่ห่วงเรื่องตัวชี้วัดผบ.ตร.ย้ำว่า ตำรวจทุกคนจงรักภักดีทั้งหมด ทำงานถวายชีวิต เรื่องขบวนเสด็จตำรวจมีหน้าที่อำนวยการจราจรเส้นทางเสด็จและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบก่อนจะนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็น “บทเรียน” ตำรวจไม่มีความคิดไปหว่านคดี มาตรา 112 ทำตามพยานหลักฐาน ให้ความยุติธรรมผู้ถูกกล่าวหา ผู้ต้องสงสัยอย่าไปทำให้เป็นเงื่อนไข ทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ทั้งหมดผบ.ตร.ย้ำว่า ทุกโครงการตรวจสอบได้ สร้างความโปร่งใส ถ้ามีข้อสงสัยนิดเดียวไม่เซ็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำงานให้ดี ไม่ต้องรอใครมา “ปฏิรูป” กฎหมายใหม่กำหนดให้ตำรวจทำงานอยู่ในกรอบหมดแล้วผบ.ตร.ย้ำอีกว่า “ตำรวจต้องมีจิตวิญญาณความเป็นตำรวจทำหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชน แต่การที่ตำรวจจะไปถึงจุดนั้น ต้องมีคุณภาพชีวิตดีด้วย แต่ทุกวันนี้ที่พักอาศัยยังไม่มี มีหนี้สินมากมาย 3 แสนล้านบาท ลูกน้องตำรวจกำลังจะโดนฟ้องล้มละลายหลายคน”เรื่องที่พักสวัสดิการ ตนพยายามของบประมาณสร้างแฟลตในส่วนกลางให้ทันสมัย เมื่อตำรวจมีสวัสดิการดีแล้ว จะได้มีใจดูแลประชาชน เราของบประมาณเข้ามา ผลสัมฤทธิ์จะตกอยู่กับประชาชนนี่คือสิ่งที่อยากเปิดใจ ตนมีเวลาทำงานน้อยก็จริง แต่จะฝังเมล็ดพันธุ์ไว้ให้เติบโตต่อไปเปิดใจตรงไปตรงมาของ ผบ.ตร. กับกรรมาธิการ.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม