หนังสือเล่มหนึ่ง ในหีบหนังสือวังจิ่งหยวนกง พระราชวังโบราณกรุงปักกิ่ง มีชื่อหงอิ้งหมิง ขุนนางเก่าสมัยราชวงศ์หมิง เขียน ชาวจีนอ่าน แพร่หลายไปเป็นหนึ่งในสามหนังสือยอดนิยมของญี่ปุ่นบุญศักดิ์ แสงระวี แปลเป็นไทย ตั้งชื่อหนังสือสายธารแห่งศรัทธา สำนักพิมพ์ ก.ไก่ พ.ศ.2533ผมอ่านแล้วเอามาเล่าต่อ นับครั้งแทบไม่ได้ อย่างเรื่องเล่า ที่ 57 ขึ้นๆลงๆ ที่จะเล่าในวันนี้ผมนึกถึงผู้ใหญ่บางคน ท่านน่าจะเป็นใคร...ลองอ่านกันดูการกำเนิดของชีวิต และการมีเงินมากมหาศาล ดูเหมือนด้านหนึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ไม่ควรลืมด้านน่าวิตกที่อยู่ตรงกันข้ามคนหลายคนยากจน โอดครวญด้วยความทุกข์ ครั้นเมื่อเขาเงยหน้าอ้าปากได้ เขาจึงรู้ว่า การประหยัดมัธยัสถ์ทำให้เขามั่งมีคนป่วยหนักไปครั้งหนึ่ง เมื่อหายป่วยจึงรู้จักถนอมสุขภาพรักษาร่างกายเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าความยากจน หรือความเจ็บป่วย ซึ่งเป็นเรื่องน่าห่วงกังวล กลับมีเรื่องน่ายินดีอยู่อีกด้านเกริ่นนำด้วยถ้อยคำสอนลึกล้ำแหลมคมแล้ว หงอิ้งหมิง ผู้เขียน ซึ่งมีอดีตเป็นนักบวชลามะ ชื่อหวนซูเต้าหยิน ก็มีเรื่องเล่า เสริมย้ำ สองเรื่องเรื่องแรก ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ที่เมืองชายแดนมีพ่อเฒ่าคนหนึ่ง ม้าที่เขาเลี้ยงไว้หายไป ตามธรรมเนียม เพื่อนบ้านก็พากันมาแสดงความเสียใจแต่น่าแปลก ไม่มีใครเห็นผู้เฒ่าแสดงอาการ เสียดายหรือเสียใจออกมาเลยต่อมาไม่นาน ม้าตัวนั้นก็กลับบ้าน ทั้งไม่มาเปล่า พาม้าแข็งแรงพ่วงพี่หลายตัวมาด้วยตามธรรมเนียมชาวบ้าน งานนี้ต่างก็พากันมาแสดงความดีใจ ที่จู่ๆพ่อเฒ่าได้ทรัพย์สินเป็นสัตว์สี่เท้าเพิ่มขึ้นแทนที่เพื่อนบ้านจะเห็นสีหน้าแววตาดีใจ...เปล่า ในดวงตาผู้เฒ่า ยังเหมือนเก่า เรียบเฉย ว่างเปล่าเพื่อนบ้านยิ่งเพิ่มความแปลกใจ...เมื่อต่อมา ลูกชายพ่อเฒ่าที่รักม้าสนุกกับการขี่ม้า เกิดเคราะห์ร้ายตกม้าขาหัก พ่อเฒ่าไม่เพียงไม่แสดงท่าเสียใจ แกกลับบอกเพื่อนบ้านว่า “มันอาจจะเป็นโชคดี ก็ได้นา!”แล้วเหตุการณ์ก็เป็นไป ตามปากของพ่อเฒ่า บ้านเมืองเกิดสงคราม ลูกชายเพื่อนบ้านทุกคน ถูกทางการเกณฑ์ไปเป็นทหาร แต่ลูกชายขาเป๋ของผู้เฒ่า รอดการเกณฑ์มาได้คนเดียวเรื่องที่สอง เป็นเรื่องของอิ่นจื่อเหวิน อัครมหาเสนาบดีแคว้นฉู่ ยุคจั้นกว๋อ เขาเป็นคนดีมีศีลธรรม มีความรู้กว้างขวาง ท่านอ๋องเลือกเข้าไปเป็นใหญ่ถึงสามครั้งไม่ว่าการถูกคำสั่งปลดครั้งแรก ครั้งที่สอง และครั้งที่สามอิ่นจื่อเหวิน ไม่มีท่าทีวิตกทุกข์ร้อน เสียใจ เสียดายออกมา มีคนเห็นเขาส่งต่อหน้าที่ให้ผู้ที่มารับตำแหน่งต่อ ด้วยกิริยาวาจาราบรื่นมีเสียงวิพากย์วิจารณ์อิ่นจื่อเหวิน ในสถานการณ์ขึ้นๆลงๆของอำนาจเช่นนี้ เขาไม่มีอารมณ์ยินดียินร้าย ได้อย่างน่าอัศจรรย์นักจบสองเรื่องเล่า...หงอิ้งหมิง สรุปเป็นหลักคำสอน...ลูกเกิดแม่อันตราย มั่งมีโจรคอยจ้อง ความยินดีใดไม่มีทุกข์ ยากจนก็อาจประหยัด ป่วยก็อาจรักษา ความทุกข์ใดที่ไร้ความยินดีผู้รู้แจ้งจึงเห็นความราบรื่นกับอุปสรรค เป็นเช่นเดียวกัน ลืมทั้งความดีใจ และความเสียใจไปสิ้นเป็นไง!ครับ อ่านเรื่องขึ้นๆลงๆจบแล้ว นึกถึงใครบรรยากาศการเมือง หลังคนบนสวรรค์ชั้น 14 ได้กลับบ้าน คอการเมืองวิจารณ์กันอึงมี่ว่า ไม่ว่าเก้าอี้ใหญ่เก้าอี้น้อย...โอกาสจะหลุดร่วง มีให้ทั้งนั้น.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม