ผู้การนนทบุรีเรียกประชุมชุดสืบสวนไล่ล่า “ตี๋ ท่าทราย” โจ๋วัย 19 หัวโจก “แก๊งทรายทอง” พาพวกรุมกระทืบเด็กชายวัย 13 นักเรียนชั้น ป.6 ปางตาย หลังแม่พาร้องเพจสายไหมต้องรอด คดีอืด ผ่านมากว่า 10 วัน ยังไม่เรียกใครสอบ แถมหลังเกิดเหตุโดนข่มขู่ถึงเอาน้ำมันไปเผา ผวากลัวลูกถูกตามทำร้ายซ้ำต้องพาหนีไปเช่าห้องอยู่ที่อื่น ด้านตำรวจท้องที่เผยอยู่ระหว่างประสานสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเด็กที่ยังเป็นเยาวชนกรณีแม่ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เข้าร้องขอความช่วยเหลือนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ถูกแก๊งทรายทอง มีหัวโจกชื่อ “ตี๋ ท่าทราย” พาพวกรวม 7 คนรุมทำร้ายได้รับ บาดเจ็บสาหัส ดั้งหัก แก้วหูแตก เลือดช้ำในปอด และบาดแผลตามร่างกายอีกหลายแห่ง เหตุเกิดวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ท้องที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ภายในซอยทานสัมฤทธิ์ 28 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี แต่คดี ไม่คืบหน้าที่ บก.ภ.จ.นนทบุรี เวลา 09.00 น. วันที่ 21 ม.ค. พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จ.นนทบุรี เรียก พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ และชุดสืบสวนร่วมประชุมกับตำรวจ สภ.ปากเกร็ด เพื่อประสานข้อมูลติดตามแก๊งคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุ หลังประชุมเสร็จนายเอกภพ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาผู้ปกครองของ ด.ช.เอ ผู้เสียหายเข้าพบผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อสอบสวนความคืบหน้าด้านคดี ล่าสุดพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างประสานงานไปยังสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเด็กผู้เสียหายที่ยังเป็นเยาวชนพ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า จากการนำชุดสืบสวนลงพื้นที่พบกลุ่มเยาวชนที่ชอบตั้งแก๊งรวมกลุ่มสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมีอยู่หลายคน หัวโจกมีอายุ 19 ปี ขณะนี้ได้ตั้งชุดปฏิบัติการลงไปตรวจสอบไล่เช็กประวัติแก๊งวัยรุ่นทั้งหมด สำหรับพฤติกรรมแก๊งวัยรุ่นเหล่านี้นอกจากสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้านแล้วยังหาเรื่องทะเลาะกันไปทั่ว บางครั้งก็ทะเลาะกันเอง บางครั้งไปหาเรื่องคนอื่น มีหลายคนที่เคยอยู่ในแก๊งทรายทองแล้วแยกตัวออกไปผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า ชุมชนทรายทองเป็นชุมชนใหญ่ของ ต.ท่าทราย ปัญหาของชุมชนมีมาก ตั้งแต่ตนมาอยู่ที่นี่ได้เดือนกว่าได้ยกระดับงานป้องกันขึ้นมา ตั้งตู้บริการประชาชนที่ชุมชนท่าทราย ตำรวจต้องเข้าไปทำงานใกล้ชิดกับประชาชน อีกทั้งหาข้อมูลและการระงับเหตุเพื่อส่งข้อมูลให้ฝ่ายสืบสวน แต่เราเน้นการป้องกันเป็นหลัก มีสายตรวจอยู่แล้วในพื้นที่ แต่ตรงนี้มีปัญหาอาชญากรรมและเป็นพื้นที่ชุมชนหนาแน่น อาจไม่เพียงพอเลยยกระดับจุดบริการประชาชนเป็นตู้บริการ รวมถึงมีกำลังฝ่ายสืบสวนชุดเคลื่อนที่เร็วลงไปปฏิบัติการตรวจค้นผู้ต้องสงสัย ตอนนี้อยู่ระหว่างเร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า คดีดังกล่าวมีการทำร้ายผู้เสียหายเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา เด็กต้องนอนโรงพยาบาล 2 คืนแล้วมาแจ้งความ ด้วยความที่เป็นเยาวชนก็เข้าใจว่าต้องมีการดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย ป.วิอาญา แม่เด็กถามรู้ว่าเมื่อไหร่จะเริ่มสอบได้ หรือจะรอให้กลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ไม่มาฆ่าลูกแม่ก่อนหรือ ที่ผ่านมามีการข่มขู่ถ่ายรูปถังน้ำมัน 100 ลิตร ลักษณะเตรียมน้ำมันเรียบร้อยเพื่อไปเผา ทำให้แม่กลัวต้องพาลูกชายไปเช่าห้องอยู่ที่อื่น“อีกเรื่องหนึ่งคือผู้เสียหายแจ้งว่าเคยอยู่ในแก๊งนี้มาก่อน แล้วแยกตัวออกมาจนถูกทำร้ายร่างกาย ถูกฟันหัวฟันแขน ล่าสุดโทร.มาข่มขู่ว่าถ้าเจออีกจะเอาให้ตาย วันนี้ได้ลงไปดูพื้นที่พบชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ทั้งยิงปืนทั้งปาระเบิดเป็นประจำ” นายเอกภพกล่าวผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดกล่าวอีกว่าอยากฝากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงยุติธรรม สถานพินิจต่างๆ ที่เด็กกระทำความผิดเข้าไป ไม่ใช่มาโทษแต่ตำรวจอย่างเดียว พอเข้าไปสถานพินิจต้องเอาเด็กไปบำบัดปรับทัศนคติ แต่ได้ทำหรือไม่ ถ้าหากไม่ทำขอให้ดำเนินการเสียจะได้บูรณาการสักที โดยเฉพาะ พม.ตนถามทั้งจังหวัดมีเจ้าหน้าที่นักสังคมกี่คน ได้รับคำตอบว่ามี 5 คน ดังนั้น ต้องเพิ่มอัตรากำลัง จัดงบประมาณให้เพียงพอ เพราะว่าชุมชนในหมู่บ้านไหนมีแก๊งแบบนี้คนทั้งชุมชนนอนไม่หลับ วันนี้ไปโยนให้แต่ตำรวจอย่างเดียวไม่ได้ ทุกคนต้องมาร่วมกัน มีหน้าที่ ต้องรับผิดชอบอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่