“ขอแรงจากทุกท่านทำประโยชน์ให้พี่น้องประชาชน มาช่วยกันทำให้การค้าทาสในยุคใหม่หมดไปจากประเทศไทยด้วยกัน พี่น้องเพื่อนร่วมชาติเราจำนวนมากมีความทุกข์ ถูกพรากอิสรภาพในการใช้ชีวิต เพราะมีหนี้สินจองจำพวกเขาอยู่ พวกท่านในฐานะข้าราชการ ฝ่ายปกครอง ที่ทำหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข และตำรวจในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เชื่อมั่นว่าพวกท่านช่วยพี่น้องประชาชนให้มีอิสรภาพต่อชีวิต สร้างขวัญและกำลังใจให้กับพวกเขาได้” คำกล่าว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ประกาศ “คิกออฟแก้หนี้นอกระบบ” ที่หอประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว. มหาดไทย โดยมี ผวจ. ผบก. ปลัดจังหวัดทุกจังหวัด นายอำเภอทุกอำเภอ ผอ.เขตทุกเขต ผกก.สถานีตำรวจทุกแห่ง เข้าร่วมรับฟังนโยบายแก้ปัญหาหนี้นอกระบบร่วมกันมอบ กระทรวงมหาดไทย เปิดศูนย์รับลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบผ่านศูนย์ดำรงธรรม ให้ตำรวจสนับสนุนฝ่ายปกครองดูแลคดี ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ลูกหนี้ลงทะเบียน 71,000 คน มูลค่าหนี้นอกระบบ 3,500 ล้านบาทพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. มอบ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.สส. ขับเคลื่อนผ่าน ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สายด่วน 1599 กำชับทุกหน่วยห้ามเกียร์ว่าง จริงจัง โดยเฉพาะมิติการบังคับใช้กฎหมาย และดูแลความปลอดภัยให้กับลูกหนี้ ภาพความเดือดร้อนคนไทยส่วนใหญ่ตกเป็นหนี้เงินกู้ใช้จ่าย ทำให้เกิดธุรกิจใหม่ “เจ้าหนี้นอกระบบ” ใช้ความเดือดร้อนชาวบ้านหาผลประโยชน์ออกเงินกู้ดอกเบี้ยสูง คนที่เดือดร้อนไม่มีทางเลือกต้องกู้ยืม หาเงินจ่ายหนี้ดอกเบี้ยทวีคูณไม่ได้ ถูกแก๊งทวงหนี้ข่มขู่ ทำร้าย ทำลายทรัพย์สิน บางรายทนไม่ไหวฆ่าตัวตายหนีปัญหาขนาดที่รัฐบาลประกาศให้ลูกหนี้เข้ามาลงทะเบียนช่วยไกล่เกลี่ยหนี้ “แก๊งทวงหนี้นอกระบบ” ท้าทายกฎหมายบุกทำลายร้านค้าลูกหนี้ไปลงทะเบียนไกล่เกลี่ยหนี้ คดีแรกร้านส้มตำครกแตก ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สั่ง พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 จัดชุดสืบสวนจับกุมคนร้ายสาเหตุเกิดจาก น.ส.ปิยธิดากู้ยืมเงินจากนายธีระศักดิ์ หรือแมว 30,000 บาท คิดดอกเบี้ยแบบลอย ชำระดอกเบี้ยไปเรื่อยๆจนกว่าจะนำเงินต้นทั้งหมดมาคืน ต้องชำระวันละ 850 บาท ชำระมาได้ 18 วัน น.ส.ปิยธิดายื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยที่ อ.สรรคบุรี เจ้าหนี้ไม่พอใจ สั่งนายไตรภพ หรืออ้นและนายนิรุตหรือแน็ต รับจ้างทวงหนี้บุกทำลายทรัพย์สินในร้าน ผบ.ตร.สั่งให้ดำเนินคดีเด็ดขาดเพื่อกำราบไม่ให้นายทุนเงินกู้ท้าทายกฎหมายอีกรายตาปลิดชีพตัวเองเพื่อให้ยายนำเงินฌาปนกิจใช้หนี้นอกระบบ เหตุเกิดพื้นที่ สภ.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ตายายเจอพิษเศรษฐกิจโควิด-19 กู้เงินนอกระบบ 7 เจ้ามาใช้จ่าย แต่ละวันจ่ายดอก 3,000 บาท หนึ่งในเจ้าหนี้ชอบโทร.มาทวงเงินด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายรุนแรงกับตายาย ทั้งที่ในตัวเหลือเงินแค่ 103 บาท ต่อรองจ่าย 70 บาท เจ้าหนี้ไม่ยอมให้โอนเงิน 100 บาททั้งที่ยังไม่ได้กินข้าว ทำให้สองตายายปรึกษากันว่าทั้งตัวมีเงิน 3 บาท วันพรุ่งนี้เจ้าหนี้มาทวงเงินอีก ตาบอกว่า หากหาเงินไม่ได้ต้องมีใครสักคนตายเพื่อเอาเงินใช้หนี้ตาออกอุบายให้ยายออกไปตามหลานเขยมาที่บ้าน กลับมาถึงพบตาผูกคอตาย หลังตาเสียชีวิตเจ้าหนี้โทร.มาทวงเงิน ทำให้ยายมีความคิดที่จะตายตามตาไป เพราะเจ้าหนี้พูดว่า ถ้า “ยายตายหนี้ก็จบ”ผบ.ตร.ทราบข่าวสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสองตายาย สั่ง พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผบก.ภ.จ.อุตรดิตถ์ ประชุมหารือกับ นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รอง ผวจ.อุตรดิตถ์ พ.ต.อ.ณัทรภณ ทรงไทย ผกก.สภ.วังกะพี้ นายประเดิม เดชายนต์บัญชา นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ลงพื้นที่บ้านช่วยเหลือเยียวยาและดูแลจิตใจของยาย ทางคดี ผบ.ตร.ให้เร่งรวบรวมหลักฐานติดตามเจ้าหนี้คนทวงหนี้ดำเนินคดี ผบ.ตร.สั่งขยายผลจับเจ้าหนี้หรือคนทวงหนี้รายอื่น หากพบการกระทำผิดเด็ดขาดทุกรายเหยื่อล่าสุดพ่อค้าส้มตำชาวลำพูน ฆ่าตัวตายพร้อมครอบครัว 5 วัน ศพมีกลิ่นเหม็น ชาวบ้านมาเจอ เพื่อนบ้านแจ้งว่าเคยเห็นแก็งทวงหนี้มาทวงหนี้นอกระบบที่บ้าน คาดว่าเป็นสาเหตุที่ฆ่าตัวตายยกครอบครัว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กล่าวว่า “นโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศ “การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ” เป็นวาระแห่งชาติ ให้บูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยร่วมกับตำรวจเปิดระบบลงทะเบียนรับความช่วยเหลือแก้ไขหนี้นอกระบบ และตำรวจจะรับผิดชอบคดีที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามีประชาชนทั้งลูกหนี้เจ้าหนี้มาลงทะเบียนจำนวนมาก เป็นไปในทิศทางที่ดี แต่มีบางรายไม่เกรงกลัวกฎหมาย ข่มขู่ บุกทำลายทรัพย์สิน จนลูกหนี้กดดันคิดสั้นฆ่าตัวตาย ได้สั่งการไปยังทุกพื้นที่ที่เกิดเหตุให้ลงตรวจสอบคดีเกิดขึ้นในสังคมเกี่ยวกับปัญหาหนี้นอกระบบ”“ย้ำไปแล้วว่า ทุกคดีนี้จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดจริงจัง และต้องขยายผลไปยังนายทุน เจ้าหนี้ทุกรายที่กระทำความผิด ที่สำคัญต้องร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงช่วยเหลือเยียวยา ดูแลสภาพจิตใจ ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้สูญเสีย และนำเข้าสู่ขบวนการไกล่เกลี่ยตามกฎหมาย กำชับทุกพื้นที่ตำรวจจับมือฝ่ายปกครองลงพื้นที่เพิ่มความเข้มงวด ตรวจสอบทุกมิติ สอบถามลูกหนี้ เจ้าหนี้ที่ลงทะเบียนว่ามีเหตุความรุนแรง ถูกข่มขู่หรือไม่ หรือมีเหตุที่ผิดปกติวิสัยหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน”ภาพรวมในการแก้ไขปัญหา “หนี้นอกระบบ” ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ลุกลาม กระทบชีวิตชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ บางรายคิดสั้นฆ่าตัวตายให้ได้เงินมาชดใช้หนี้ เพราะถูกเจ้าหนี้ข่มขู่สารพัด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เข้าใจหัวอกของผู้คนที่ได้รับความเดือดร้อน สั่งตำรวจทุกพื้นที่จับมือฝ่ายปกครองลงพื้นที่แก้ปัญหาจริงจังสั่งกำชับ ผบช. และ ผบก.ทุกพื้นที่ดำเนินคดีเด็ดขาด “แก๊งทวงหนี้” ขยายผลไปยังนายทุน ตัวการเบื้องหลัง และดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชน ทำให้การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาลประสบความสำเร็จแสดงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย ให้หลุดพ้นจากทาสหนี้ผิดกฎหมาย.ทีมข่าวอาชญากรรมคลิกอ่านคอลัมน์ “แกะรอยรอบสัปดาห์” เพิ่มเติม