ท้ายประวัติกรมขุนกษัตรานุชิต พระราชโอรสพระเจ้าตากสิน (ประสูติแด่เจ้าจอมมารดาฉิมใหญ่ พระราชธิดาสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ) ส.พลายน้อย เรียบเรียงไว้ ในหนังสือ สารานุกรมประวัติศาสตร์ไทย (สำนักพิมพ์รวมสาส์น พิมพ์ครั้งที่ 6 พ.ศ.2542) ความว่าครั้นขึ้นรัชกาลที่ 2 ถูกฟ้องว่าเป็นกบฏ ชำระเป็นสัตย์แล้ว จึงโปรดให้ถอดออกจากตำแหน่ง ถึงวันที่ 13 ก.ย.2352 คุมนักโทษผู้ร่วมคิดไปประหารชีวิต ส่วน“หม่อมเหม็น” นั้นให้สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์คดีกรมขุนกษัตรานุชิตชัดเจนเป็นเหตุผลทางการเมือง ตัดไม้อย่าไว้หนามหน่อ ฆ่าพ่ออย่าไว้ลูกแต่คดีประหารที่เกิดหลังวัน วังหน้าสวรรคต น้ำหนักจากการเมืองเหมือนกัน เพียงแต่เหตุผลไปอีกอย่างส.พลายน้อยเล่าไว้ในประวัติ พระยากลาโหมราชเสนา (เจ้าชายทองอิน)...ทรงเป็นพระโอรสสมเด็จพระมหาอุปราช เจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ (จุ้ย) พระโอรสพระองค์ใหญ่สมเด็จพระเจ้าตากสินเมื่อแรกสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ แม้ทรงเป็นพระนัดดาพระเจ้าตากสิน แต่ทรงรอดจากกลิ่นอาย “ตัดไม้อย่าไว้หนามหน่อ ฆ่าพ่ออย่าไว้ลูก” เนื่องจากสนิทสนมคุ้นเคยกับพระองค์เจ้าลำดวน และพระองค์เจ้าอินทปัต พระราชโอรสวังหน้าทั้งวังหน้าทรงพระเมตตาเจ้าชายทองอินเสมอ ด้วยพระราช บุตรบุญธรรม โปรดให้รับราชการในวังหน้า เป็นพระยาเสน่หาภูธร เป็นคนกล้าแข็งในการศึกสงคราม เคยตามเสด็จในการสงครามหลายครั้งที่ปรากฏหลักฐานเมื่อ พ.ศ.2345 พม่ายกทัพมาตีเชียงใหม่ วังหน้าเสด็จไปบัญชาการศึก ได้ทรงตั้งพระยาเสน่หาภูธรเป็นพระยากลาโหม นำทัพขับไล่พม่าแตกพ่ายครั้นเมื่อวังหน้าทรงประชวรใกล้สวรรคต ทรงมีพระราชดำรัสเป็นนัย แผ่นดินนี้ผู้ใดมีสติปัญญาให้เร่งคิดเอาเถิด นับแต่นั้น พระองค์เจ้าลำดวน พระองค์เจ้าอินทปัตก็มีความกำเริบ ไปร่วมคิดกับเจ้าพระยากลาโหมราชเสนาตั้งกองเกลี้ยกล่อมหาคนดีมีวิชามาทดลองฝีมือกันในวังพระองค์เจ้าลำดวนถึงพลาดล้มตายลง ก็ฝังเสียในกำแพงวังเป็นหลายคนความนั้นทราบถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ก็ไม่อาจจะทำอย่างไรได้ เพราะไม่มีโจทก์เมื่อกรมพระราชวังบวรฯสวรรคตแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่งตั้งข้าราชการเข้าไปอยู่ด้วยกับพระองค์เจ้าลำดวน พระองค์เจ้าอินทปัต จนได้ความจริง จับมาชำระยอมรับและซัดถึงพระยากลาโหมราชเสนาครั้นถึงวันอังคารเดือน 3 ขึ้น 5 ค่ำ (17 ม.ค.2346) จับพระยากลาโหมกับพรรคพวกได้ทั้งหมด รับสารภาพตลอดจึงโปรดให้ถอดพระองค์เจ้าลำดวน พระองค์เจ้าอินทปัตเสียจากเกียรติยศ แล้วสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ส่วนพระยากลาโหมกับพรรคพวกก็ให้เอาไปประหารชีวิตก็เป็นอันว่า พระยากลาโหม พระราชนัดดาพระเจ้าตากสิน... รอดชีวิตจากการกวาดล้างทางการเมืองเมื่อต้นรัชกาลที่ 1 มาจบชีวิตลงตรงเมื่อสิ้นวังหน้าเรื่องราวเหล่านี้ ชี้ให้เห็นว่า การเมืองนั้น ตั้งแต่โบราณนานมา จนถึงสมัยปัจจุบัน ไม่มีเหตุผลอะไรแน่นอนตัวอย่างสดๆร้อนๆ ตอนไปเมืองนอกก็ไปบอกเขาว่าบ้านเมืองเรานี้แสนดีนักหนา ชวนเขามาลงทุน แต่พอกลับเข้าประเทศ มีเหตุจะหาเรื่องกู้เงินมาแจกชาวบ้าน ก็ต้องปั้นประเด็นใหม่ เศรษฐกิจเราย่ำแย่นี่ถ้าถึงเวลามีเรื่องแจกเงินไม่ได้...ทีนี้ไม่ว่าอยากจะอยู่หรือไม่ ก็คงต้องไป คนแทนเขามีอยู่ใกล้ๆ ให้เห็นตำตาแล้วนี่นา!กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม