ในจำนวนพระเครื่องตับขุนแผน เมืองสุพรรณฯ มี “พระพันวษา อยู่ด้วยครับ มนัส โอภากุล บอกไว้ในหนังสือพระเครื่องเมืองสุพรรณฯ พบบริเวณวัดพลายชุมพล ปนๆอยู่ในพระชุด “กิมตึ๋ง”ผมเคยได้ไว้องค์หนึ่ง ราวปี 2518 ให้พี่ “โกวิท สีตลายัน” ไปฟรีๆ แต่ก็ไม่สูญเปล่า พี่ประชุม กาญจนวัฒน์ เอาไปลงในหนังสือภาพพระเครื่อง...ภูมิใจไม่น้อยทีเดียวความรู้ต่อๆมา พระพันวษาแต่ละองค์ไม่เหมือนกันทั้งพิมพ์และขนาด มุ่นมวยผมพระที่ม้วนเป็นชั้นๆ มีทั้งเอียงซ้าย เอียงขวา และตรงๆ แสดงว่าทำทีละองค์แต่ที่ติดใจไว้มากกว่า คือประวัติพระพันวษา ไม่แน่ว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ไหน?สุจิตต์ วงษ์เทศ เขียนไว้เป็นหลักเป็นฐาน ในหนังสือ อำนาจของภาษาและวรรณกรรมไทย (สำนักพิมพ์นาตาแฮก พ.ศ.2566) ทั้งเรื่องพระพันวษาและเรื่องขุนแผน แต่เป็นฉบับที่ไม่มีขุนช้างนางวันทองเป็นตำนานบรรพชน อยู่ในคำบอกเล่าชาวเมืองยุคอโยธยา-อยุธยา เป็นเอกสารภาษาพม่า ที่ทางการพม่าจดจากคำให้การชาวเชลยอยุธยา ที่ถูกกวาดต้อนไปพม่าครั้งกรุงแตก พ.ศ.2310ทางการไทยได้เอกสารนี้จากหอหลวงของพม่า แปลเป็นภาษาไทยพระเจ้าแผ่นดินพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า พระพันวษา ภาษาพม่าเรียกว่าพระเจ้าวาตะถ่อง แปลว่าสำลีพันหนึ่ง มีพระสุริยะวงศาเทวีเป็นพระมเหสี มีพระราชโอรส พระนาม พระบรมกุมารครั้นอยู่มา พระเจ้ากรุงล้านช้าง มุ่งหมายจะเป็นสัมพันธ์สนิทสนมกับกรุงศรีอยุธยา จึงส่งพระราชธิดาสร้อยทอง 16 พรรษา พร้อมเสนาอำมาตย์คุมโยธาทวยหาญ ไปถวายพระพันวษาพระเจ้าโพธิสาร พระเจ้าแผ่นดินเชียงใหม่ รู้ข่าวก็ส่งทัพมาซุ่มโจมตีแย่งเอาพระราชธิดาไป เพราะไม่ต้องให้กรุงล้านช้างเป็นไมตรีกับกรุงศรีอยุธยาสมเด็จพระพันวษาทรงพระพิโรธ ตรัสว่า พระเจ้าเชียงใหม่ดูหมิ่นเดชานุภาพ จะยกขึ้นไปปราบนครเชียงใหม่สั่งให้เลือกจัดหาทหารที่มีฝีมือกล้าศึกสงครามเข้ามาถวายพระหมื่นศรี ขุนนางข้าหลวง กราบทูลว่าทหารในเวลานี้ จะหาทหารเอกยอดดีไปกว่า ขุนแผน เป็นไม่มี แต่มีปัญหาขุนแผนเป็นโทษต้องรับราชอาญาจำอยู่ ณ คุกรับสั่งให้นำขุนแผนออกมาเฝ้า แต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพถืออาญาสิทธิ์ ยกขึ้นไปตีนครเชียงใหม่ระหว่างเดินทัพ ขุนแผนแวะไปหาพระพิจิตรเจ้าเมืองพิจิตร ขอดาบเวทวิเศษกับม้าวิเศษที่ฝากไว้คืน แล้วมุ่งหน้าไปเชียงใหม่ รบตะลุยเจ้าเมืองเชียงใหม่หนีเตลิด จับอัครสาธุเทวี มเหสี เจ้าแว่นฟ้า พระราชธิดาและเชิญพระสร้อยทองราชธิดาเจ้านครล้านช้าง นำไปถวายพระพันวษาพระเจ้ากรุงศรีอยุธยาทรงตั้ง พระธิดาสร้อยทอง เป็นมเหสีซ้าย ตั้งเจ้าแว่นฟ้าธิดาเจ้าเชียงใหม่เป็นสนมเอกทั้งหมดที่อ่านมา เป็นเรื่องพระพันวษา ฉบับพม่า...ส่วนประวัติพระพันวษา ฉบับพระราชพงศาวดารเหนือ มีพระนามว่า “พระพรรษา” เป็นราชบุตรพระยาพาน เสวยราชย์เมืองนครชัยศรี ลุ่มน้ำท่าจีน เขตรัฐสุพรรณภูมิเมื่อพระราชารัฐสุพรรณภูมิ คือพระพันวษา เสวยราชย์เป็นพระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา คำบอกเล่าเรื่องขุนช้างขุนแผน ก็ติดตัวชาวสุพรรณไปอยู่อยุธยา “สำเนียงเหน่อ” ชาวสุพรรณ ก็กลายเป็นสำเนียงชาวกรุงศรีอยุธยาผมระทึกใจก็ตรงที่ได้รู้ว่า พระพันวษา เป็นราชวงศ์ “พระยากง พระยาพาน” นี่ล่ะครับแม้ผู้รู้ไทยจะบอกว่าเรื่องพระยากงพระยาพาน เป็นเรื่องลอกมาจากวรรณคดีพระกฤษณะ... (มีเรื่องพระยากังสะ พระยาพาละ) และลอกมาจากเรื่องละครเวที ที่เล่นกลางแจ้งกรุงเอเธนส์ เมื่อ 2500 ปีที่แล้วก็ตามสารภาพครับ คนบ้านใกล้โคกยายหอมอย่างผม ฝังใจว่าเป็นเรื่องจริงที่เห็นมากับตา ยังไงๆก็ยังเชื่อว่าเป็นเรื่องของไทยเราเอง.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม