นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า สำนักงานปลัด วธ.รายงานการศึกษาศักยภาพของไทยในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ในระดับโลกโดยร่วมมือกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำรวจรสนิยม ความชอบ ทัศนคติ พฤติกรรมที่มีต่อศิลป วัฒนธรรม สินค้าและบริการทางวัฒนธรรมของไทยในต่างประเทศที่มีศักยภาพจำนวน 12 ประเทศใน 7 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร เยอรมนี สหรัฐอเมริกา บราซิล แอฟริกาใต้ และออสเตรเลีย เพื่อจะนำผลการศึกษามาจัดทำแผนการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ด้วยมิติทางวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยรมว.วธ.กล่าวต่อว่า ผลการศึกษารสนิยมความชอบเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยของผู้คนทั่วโลกที่ชื่นชอบที่สุดคือ อาหารไทยและวัฒนธรรมการกิน รองลงมาคือ เอกลักษณ์ความเป็นไทย อาทิ ประวัติศาสตร์ ทัศนียภาพ ประเพณี การไหว้ รอยยิ้ม ภาษาไทย รวมทั้งศิลปะ หัตถกรรม และสถาปัตยกรรม เช่น วัด พระพุทธรูป ขณะที่ความประทับใจที่มีต่อประเทศไทยมากที่สุดคือ ความเป็นมิตร ความห่วงใย จริงใจ ต้อนรับขับสู้ ความงามของประเทศไทยที่น่าหลงใหลและดึงดูด มีเอกลักษณ์น่าสนใจและคาดไม่ถึง ส่วนประเทศที่มีมุมมองที่ดีต่อประเทศไทยและต้องการเข้ามาสัมผัสวัฒนธรรมไทย รวมถึงใช้ชีวิตหรือท่องเที่ยวประเทศไทยในระยะยาวมากที่สุด ได้แก่ แอฟริกาใต้ อินเดียและซาอุดีอาระเบีย ส่วนประเทศที่มีความชื่นชอบศิลปะและวัฒนธรรมไทยมากที่สุด ได้แก่ แอฟริกาใต้ ซาอุดีอาระเบีย จีนและมาเลเซีย“ความนิยมบริโภคคอนเทนต์ไทยของผู้คนทั่วโลกมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย จีนและแอฟริกาใต้ ผลการศึกษาความนิยมอาหารไทยของผู้คนทั่วโลกพบว่า มาเลเซีย ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ จีนและอินเดียชื่นชอบอาหารไทยมากที่สุด ซึ่งจุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจบริโภคอาหารไทยเพราะมีโอกาสได้รับประทานระหว่างมาท่องเที่ยวในไทย เพราะมีรสชาติอร่อย เมนูหลากหลายและรสชาติแปลกใหม่ เป็นเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาในภาพรวมพบว่า สินค้าและบริการทางวัฒนธรรมที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่มีศักยภาพในการส่งออก ได้แก่ อาหารไทย การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สินค้าหัตถกรรมและคอนเทนต์ ส่วนตลาดส่งออกที่สำคัญของไทยคือ จีนและอาเซียน และตลาดใหม่ที่มีศักยภาพคือ อินเดีย ละติน อเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง” รมว.วธ.กล่าว.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่