ตำรวจชุดสืบสวนนครบาลกัดไม่ปล่อยตามจับ “ใบเฟิร์น-มณฑิรา” เน็ตไอดอลระดับอินฟลูเอนเซอร์สุดแสบ กลางห้างดังใกล้แยกลาดพร้าว ขณะลองชุดว่ายน้ำกับแฟนหนุ่มชาวต่างชาติ เผยพฤติกรรมวางแผนลวงเหยื่อให้ร่วมทุนร้านตัดผมทำเล็บในจ.เชียงใหม่ มีเหยื่อกว่า 40 คน ความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท สอบสวนเจ้าตัวสารภาพอ้างอยู่ระหว่างหาเงินคืน ไม่หนีไปไหนรวบ “ใบเฟิร์น” เน็ตไอดอลกลางห้างดัง เปิดเผยเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 9 พ.ย. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ ผัดก๋า รอง ผกก.สส.สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนนครบาลและตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) นำกำลังจับกุม น.ส.มณฑิรา หรือใบเฟิร์น อินทร์สุวรรณ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/2 ต.ในเมือง อ.เมืองลำพูน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.997/2566 ของ สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.1073/2566 ของ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนสืบเนื่องจากชุดสืบสวนนครบาลและตำรวจศปอส.ตร.รับแจ้งจากผู้เสียหายให้ติดตามจับกุมใบเฟิร์น-น.ส.มณฑิรา อินทร์สุวรรณ เน็ตไอดอลคนดังระดับอินฟลูเอนเซอร์มีผู้ติดตามในไอจีกว่า 120,000 คน ก่อเหตุลวงเหยื่อให้ร่วมลงทุนเปิดร้านตัดผมและร้านทำเล็บอ้างได้ผลตอบแทนสูง เมื่อเหยื่อหลงกลโอนเงินให้เน็ตไอดอลรายนี้ก็จะบ่ายเบี่ยงไม่จ่ายเงินปันผลอ้างบริษัทถูกยักยอกเงินและอื่นๆ ก่อนหนีหายเข้ากลีบเมฆ มีผู้ตกเป็นเหยื่อกว่า 40 คน สร้างความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ต่อมาผู้เสียหายที่ร่วมลงทุนทยอยเข้าแจ้งความกระทั่งตำรวจออกหมายจับ 2 หมาย จากนั้นชุดจับกุมรับแจ้งเบาะแสเจ้าตัวหลบหนีมากบดานใน กทม. ยังใช้ชีวิตกินหรูอยู่สบายตามห้างดัง กระทั่งถูกสายสืบที่แฝงตัวอยู่ที่ห้างยูเนี่ยนมอลล์ ย่านห้าแยกลาดพร้าว จับกุม ขณะเน็ตไอดอลรายนี้กำลังลองชุดว่ายน้ำกับแฟนหนุ่มชาวต่างชาติ เมื่อบ่ายวันที่ 8 พ.ย.สอบสวนผู้ต้องหารายนี้ให้การรับสารภาพก่อเหตุจริง เรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ เดินทางเข้า กทม.มา 3 สัปดาห์แล้ว ไม่ได้หลบหนีไปไหน ก่อนหน้านี้เปิดร้านตัดผมและทำเล็บอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ชื่อร้านกู๊ดคัต มีรายได้ดีจึงชวนผู้สนใจมาร่วมลงทุน รายละ 50,000-1,000,000 บาท และยังเปิดให้ร่วมลงทุนรับจำนำของ จากนั้นนำไปขายเพื่อนำเงินมาแบ่งกัน แต่ช่วงหลังกำไรน้อยมากและซื้อสินค้ามาขายไม่ค่อยได้ ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ร่วมลงทุน เช่นเดียวกับร้านกู๊ดคัตที่มีลูกค้าน้อยลงประกอบกับหาช่างฝีมือดีไม่ได้ ทั้งนี้ ตนพยายามหาเงินคืนผู้เสียหายทั้งหมดด้วยวิธีหาสินค้าไปขายเอาเงินกำไรไปทยอยคืนพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เตรียมขยายผลการจับกุม จากข้อมูลที่ได้ผู้ต้องหารายนี้วางแผนออกอุบายสร้างโปรไฟล์ให้มีความน่าเชื่อถือ ถ่ายภาพคู่รถหรูหรือดาราคนดังในวงการบันเทิง จากนั้นเริ่มหลอกลวงเหยื่อซึ่งทำได้ไม่ยาก ขอฝากเตือนว่าการร่วมลงทุนในโลกออนไลน์นั้นมีความเสี่ยง ปัจจุบันเหล่ามิจฉาชีพจะแฝงตัวอยู่ในโลกออนไลน์จำนวนมาก การตรวจสอบความน่าเชื่อถือจากโปรไฟล์ในโลกออนไลน์ยังไม่เพียงพอ ต้องปรึกษาผู้มีความรู้ทางด้านการลงทุนให้ดีก่อนเพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ เบื้องต้นคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีพร้อมประสาน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ มาอายัดตัวตามหมายจับอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่