28 ธันวาคม 2515 “ภาพยนตร์สี 35 มม. พากย์เสียงในฟิล์ม” ผลงานกำกับฯ-กำกับภาพ-ลำดับภาพ-เขียนบทฯลำดับที่ 3 ของ “เปี๊ยกโปสเตอร์” เอตทัคคะ ผู้กำกับจิตรกรตลอดกาลเรื่อง “ชู้” เข้าฉายที่โรงภาพยนตร์สยามและเฉลิมไทยเป็นภาพยนตร์ที่ “แหวกขนบ-ล้ำ-ไร้ยุค” ทุกหนังไทยที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง ประกาศเปิดเกิด “พระเอกทะมึนเท่” คนใหม่ให้กับวงการบันเทิงไทยยุค 70-80 “ยะ-มานพ อัศวเทพ” หรือในชื่อชีวิตจริง “เรือโท วิริยะ จุลมกร ร.น.”ชื่อแรกสุดในการแสดงของเขาคือ “นาวิน เทพโยธี” มีผลงานการแสดงครั้งแรกในปี 2506 “สมิงนางพราย” ประกบพระเอกนำ “มิตร ชัยบัญชา” มาได้เป็นพระเอกนำเรื่องแรกคือ “ละครเร่” คู่กับ “สุทิศา พัฒนุช” ในปี 2512 และเปลี่ยนชื่อเป็น “มานพ อัศวเทพ” นับจากนั้นเป็นต้นมาปี 2515 กับภาพยนตร์ “ชู้” มานพถูกจับปรับเปลี่ยนลุคลักษณ์ใหม่ “เชิง” ชาย (ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็น) ชู้ของ “เรียม-วันดี ศรีตรัง” ประกบกับอีกหนึ่งชาย (เสมือนหนึ่ง) ชู้ “กรุง ศรีวิไล” ในบท “เทพ”“ชู้” แปลกแหวกแนวคลาสสิกสุดกู่ก้อง สุดประมาณสุดบรรยาย ทำให้ “ชู้” ได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” ในปี 2516 เป็นงานรังสรรค์สร้างสุดพิศวงชิ้น “มาสเตอร์พีซ” ของเปี๊ยกโปสเตอร์โดยแท้จริงมานพมีผลงานภาพยนตร์จากปี 2506-2560 รวมเกือบ 260 เรื่อง ละครโทรทัศน์ 87 เรื่อง แต่บท “เชิง” ในชู้กลับเป็นบทที่ตราตรึงประทับลึกซึ้งแน่นหนาอยู่ใน “รอยใจรอยจำ” ชาวหนังไทยมาตลอดกาล28 ตุลาคม 2566 “วิริยะ จุลมกร-นาวิน เทพโยธี-มานพ อัศวเทพ” อำลาลับล่วงจากโลกนี้ไปด้วยวัย 89 ปีฝากรอยชีวิต 66 ปีในโลกบันเทิงไทย ไว้ในความทรงจำแสนดีงามความคารวตาลัยไปตราบชั่วกัปกัลป์นิรันดร.“ดร.ศาสตร์ธนิก จุลมณี”‘‘แจ๋วริมจอ’’jaewrimjor@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “ทีวีบันเทิง” เพิ่มเติม