อังคาร 24 ตุลาคม 2023 นายอาชราฟ อัลกอดรา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซาตะโกนให้ทั้งโลกรู้ว่า ระบบสาธารณสุขในฉนวนกาซาพังแล้ว ไฟฟ้าดับ ขาดแคลนเชื้อเพลิงในการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าในโรงพยาบาล เท่านั้นยังไม่พอ จากการโจมตีจากอิสราเอลเมื่อวันก่อน ทำให้มีบุคลากรทางการแพทย์ตายไป 65 คน รถพยาบาลพังไป 25 คัน รวมทั้งทำให้โรงพยาบาล 12 แห่ง และศูนย์สุขภาพ 32 แห่งใช้การไม่ได้ขณะที่เรียนรับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพอยู่นี้ จากการโจมตีกันไปมาระหว่างฮะมาสกับอิสราเอล ทำให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาตายไปแล้วกว่า 5,800 คน ชาวอิสราเอลตายไปแล้วมากกว่า 1,400 คน ฉนวนกาซาตอนนี้ไม่ต่างจากนรกบนดิน นอกจากจะมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากแล้ว อาคารบ้านเรือนหลายพันแห่งถูกทำลาย ชาวปาเลสไตน์ต้องไร้ที่อยู่อาศัยมากกว่า 1 ล้านคนการปิดล้อมฉนวนกาซาด้วยการตัดน้ำ ตัดไฟ ระงับการจ่ายเชื้อเพลิงและสิ่งจำเป็นอื่นๆ ตามด้วยการโจมตีทางอากาศ คือมาตรการลงโทษขนานใหญ่ที่อิสราเอลตอบโต้กลุ่มฮะมาสโดยมีชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องสังเวย อิสราเอลบอกว่าสิ่งที่ตนทำนั้นคือการป้องกันตัวเองภาพของลูกเล็กเด็กแดง คนเฒ่าชะแรแก่ชราชาวปาเลสไตน์ร่างอาบเลือดจากการถูกโจมตีทางอากาศ ภาพผู้คนที่เริ่มอดอยากหิวโหยเพราะถูกตัดขาดจากความช่วยเหลือทั้งปวง ถูกนำเสนอเต็มโซเชียลมีเดีย ผู้ที่มีความเป็นมนุษย์ย่อมคิดได้ว่าสิ่งที่กองทัพอิสราเอลร่วมกับสหรัฐฯกระทำอยู่ตอนนี้ไม่เป็นธรรมต่อพลเรือนผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มฮะมาสสิ่งที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซาทำให้นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาตินั่งไม่ติด บอกกับที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า ตนกังวลเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศในฉนวนกาซา และไม่มีฝ่ายติดอาวุธใดที่อยู่เหนือกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เขียนให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ กูเตอร์เรสกังวลใจต่อสิ่งที่อิสราเอลกระทำอย่างไร้มนุษยธรรมต่อคนปาเลสไตน์ พร้อมทั้งเรียกร้องให้หยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในทันที เพื่อนำความช่วยเหลือเข้าไปในฉนวนกาซาได้เสียงเรียกร้องของเลขาฯยูเอ็นจะเป็นแค่เสียงไอ้ปื๊ดที่ร้องกวนใจมหาอำนาจเท่านั้น รัฐบาลสหรัฐฯยังคงยืนยันไม่สนับสนุนการหยุดยิงเต็มรูปแบบ แถมนายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯยังบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “การหยุดยิงตอนนี้จะเป็นประโยชน์เฉพาะกับพวกฮะมาสอย่างแท้จริง” การโจมตีแบบปูพรมของกองทัพอิสราเอลจึงมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมสู่ปฏิบัติการจู่โจมทางภาคพื้นต่อไปไม่เพียงแต่ชาวโลกเท่านั้นที่เห็นใจพลเรือนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ บารัค โอบามา อดีตผู้นำสหรัฐฯจากพรรคเด็มโมแครต ยังออกมาเตือนสติอิสราเอลเรื่องมนุษยธรรมในฉนวนกาซาอย่างตรงไปตรงมา หลังจากที่แกประณามความรุนแรงที่กลุ่มฮะมาสก่อขึ้น และยืนยันว่าอิสราเอลมีสิทธิในการปกป้องตนเองแล้ว โอบามายังบอกอีกว่า “การที่รัฐบาลอิสราเอลเลือกที่จะตัดอาหาร น้ำ และไฟฟ้าแก่พลเรือนที่ติดอยู่ในฉนวนกาซา ไม่เพียงแต่จะทำให้วิกฤติด้านมนุษยธรรมเลวร้ายลงเท่านั้น แต่อาจทำให้คนปาเลสไตน์มีทัศนคติที่ไม่ดีต่ออิสราเอลมากขึ้นไปอีกหลายรุ่น บั่นทอนการสนับสนุนของโลกที่มีต่ออิสราเอล นั่นก็จะไปเข้าทางศัตรูของอิสราเอลเอง และในที่สุดก็จะบั่นทอนความพยายามสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค”ยูเอ็นพยายามหาทางช่วยผู้ประสบภัยสงครามในฉนวนกาซา แต่เป็นความช่วยเหลือที่น้อยมาก น้อยจนเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีผลอะไร เพราะยังไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้าพื้นที่ การที่เชื้อเพลิงในพื้นที่หมดนั่นหมายความว่าโรงพยาบาลต้องหยุดทำการ ประชาชนต้องดื่มน้ำใต้ดินที่มีเกลือสูงเพราะไม่มีระบบแยกเกลือออกจากน้ำ ผู้คนเสี่ยงต่อโรคท้องร่วง อหิวาตกโรค และโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ เพราะไม่มีการอบอาหารหรือทำให้อาหารและน้ำสะอาดถูกสุขอนามัยเสียงร้องของคนทั้งโลกส่งไปไม่ถึงมหาอำนาจและอิสราเอลผู้กระหายสงคราม.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ "เปิดฟ้าส่องโลก" เพิ่มเติม