วัดเล็กๆใกล้ปากอ่าว ปากคลองแม่กลอง...จรดริมแม่น้ำแม่กลอง...สมุทรสงคราม...ชื่อวัดศรีจำปา สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา ถูกทิ้งให้เป็นร้าง...อยู่นานพ.ศ.2307 พม่ายกทัพมาตีเมืองเพชรบุรี ชาวอำเภอบ้านแหลม อพยพมาอยู่ข้างวัด วันหนึ่งออกเรือไปลงอวนหาปลา ติดพระพุทธรูปปางประทับยืนอุ้มบาตร จึงอัญเชิญมาไว้ที่วัด วัดศรีจำปา จึงถูกเรียกชื่อ เป็นวัดบ้านแหลมพระพุทธรูปยืนถูกเรียก หลวงพ่อบ้านแหลม แต่ก็ยังไม่ได้แสดงปาฏิหาริย์ จนมีชื่อเสียง(ปาฏิหาริย์พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ โรม บุนนาค สำนักพิมพ์สยามบันทึก พ.ศ.2551)สมัยรัชกาลที่ 3 พ.ศ.2371 สุนทรภู่ล่องเรือ...ผ่านวัดบ้านแหลม ก็ไม่ได้กล่าวถึงหลวงพ่อวัดบ้านแหลม...แต่กล่าวถึงหลวงพ่อวัดเขาตะเครา (เขตบ้านแหลม) แสดงว่าตอนนั้นหลวงพ่อยังไม่ดังพ.ศ.2411 พระมหามนตรี (หรุ่น ศรีเพ็ญ) ตามเสด็จรัชกาลที่ 4 ไปดูสุริยุปราคาที่หว้ากอ จังหวัดประจวบฯ แต่งนิราศเกาะจานไว้ แต่เมื่อผ่านวัดบ้านแหลม ก็ไม่ได้เขียนถึงหลวงบ้านแหลมเหมือนกันพ.ศ.2416 เกิดโรคห่า...อหิวาตกโรค มีคนตายมากมาย พระสนิทสมณคุณ (ชาวบ้านเรียกท่านเจ้าเนตร) เจ้าอาวาสวัดบ้านแหลม ฝันว่าหลวงพ่อมาเข้าฝันมีคาถาแก้โรคห่า จารึกอยู่ที่พระหัตถ์หลวงพ่อท่านเจ้าเนตร ขณะนั้นเป็นพระครู ปลุกนายอ่อง ลูกศิษย์ (ต่อมาเป็นขุนประชานิยม) ชวนกันเข้าโบสถ์กลางดึก พบว่าฝ่าพระหัตถ์ขวาหลวงพ่อ มีคาถา “นะ มะ ระ อะ” พระหัตถ์ซ้ายมีคาถา “นะ เท วะ อะ”ท่านเจ้าเนตรใช้สองคาถา ปลุกเสกน้ำมนต์ให้ชาวบ้านที่เป็นโรคอหิวาต์ดื่ม คนแรกหาย คนต่อๆมา ก็หาย ชาวบ้านแตกตื่นกันมาขอน้ำมนต์ ไม่ช้า โรคห่าก็หายไปหมด...ชื่อหลวงพ่อวัดบ้านแหลม ก็เลยโด่งดังมานับแต่นั้นรัชกาลเดียวกัน...สมเด็จพระยุพราช (ต่อมา คือรัชกาลที่ 6) ทรงมีพระราชหัตถเลขา ถึงพระครูมหาสิทธิการ เจ้าอาวาสวัดบ้านแหลม ลงวันที่ 2 มิ.ย.ร.ศ.124 ว่าเมื่อปีกลายนี้ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ (สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี) ได้เสด็จไปสมุทรสงครามในกระบวนหลวง ได้รับสั่งให้หาเครื่องสักการะไปถวายหลวงพ่อบ้านแหลม แลรับสั่งไว้แต่ครั้งกระนั้นว่า ขอผลอานิสงส์ความเลื่อมใส จงบันดาลให้หายประชวรครั้นเสด็จกลับถึงกรุงเทพฯได้ไม่นาน ก็หายประชวรโปรดประทานปัจจัยมีมูลค่า 800 บาทมาเพื่อปฏิสังขรณ์วัดบ้านแหลมในพระพุทธรูปชื่อดังทั้งที่ว่ากันว่าท่านลอยน้ำมาห้าองค์ หลวงพ่อบ้านแหลม หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโต หลวงพ่อวัดเขาตะเครา และหลวงพ่อวัดไร่ขิง...นับถือกันว่า หลวงพ่อบ้านแหลม เป็นองค์พี่ใหญ่ปี 2509 เมื่อเพลง ลาสาวแม่กลอง ที่พนม นพพร ร้อง สุ้มเสียง และเนื้อร้อง ท่อนเมื่อสงกรานต์งานวัดบ้านแหลม เคยเที่ยวชมกับโฉมแฉล้ม เมื่อคืนข้างแรมเมษาฯ สรงน้ำร่วมน้อง ปิดทองพระปฏิมา อธิษฐานรักอยู่คู่ฟ้า...ขอเกิดมาร่วมใจ...มีผลให้ชื่อหลวงพ่อบ้านแหลม โด่งดังเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นถึงวันนี้ หลวงพ่อบ้านแหลม ก็ยังขลังและศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่พึ่งทางใจ มีผู้คนไปบนบานกราบไหว้กันอยู่การเมืองไม่ลงตัว...ยังฮึ่มฮั่มใส่กัน ทหารยอมถอยหนึ่งก้าว...ตำรวจปะทะกับเจ้าพ่อ ตำรวจกับตำรวจห้ำหั่นกันเอง คนกับคนสู้กันยังไม่จบ คนก็ต้องหันไปรบกับฝนฟ้า ล่าสุด โรคโควิด ไข้หวัด ก็ทำท่าจะระบาดอีกเด็กวัดบ้านแหลมอย่างผม คิดอะไรไม่ออก ไปทางไหนไม่ถูก จึงต้องหันหน้าไปหาหลวงพ่อ...ผมอยากให้พระท่านใช้คาถาฝ่ามือหลวงพ่อ...ทำน้ำมนต์ขนานใหม่ เอามารดไล่ โรคห่า หรือจะเรียกอัปรีย์จัญไร ให้หมดไปเสียที.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม