รัวถล่ม 7 นัดสังหารโหดหนุ่มใหญ่ ก่อนพบจุดจบมีเพื่อน สองพี่น้องมาหาที่บ้านบอกให้ไป ช่วยเคลียร์ปัญหากับคู่กรณีหน้าห้องแถว แต่เจรจากันไม่ลงตัวถูกคนร้ายกระหน่ำยิงพรุน ทำชาวบ้านห้องข้างเคียงแตกตื่นผวาโดนลูกหลงรีบปิดบ้านหนี หลังสิ้นเสียงปืนเปิดประตูออกมาดูพบเหยื่อกระสุนนอนจมกองเลือด แจ้งตำรวจมาช่วยพาส่งโรงพยาบาล ก่อนสิ้นใจต่อมาเหตุคนร้ายยิงถล่มหนุ่มพรุน 7 นัดดับสยองรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 30 ก.ย. ร.ต.ท. ฐิติพัสส์ สุกุมลจันทร์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันบริเวณหน้าห้องเช่าเลขที่ 13/13 หมู่ 4 ต.บ้านเซิด ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ. ถาวร นาใจเย็น ผกก.สภ.พนัสนิคม และหน่วยกู้ภัย สว่างเหตุธรรมสถานบ้านทุ่งเหียง ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถว ชั้นเดียวปลูกติดกัน 10 ห้อง พบนายอัศนัย แรมเขียม อายุ 40 ปี ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่หน้าอกซ้าย 1 นัด แขนซ้าย 1 นัด เอวข้างซ้าย 2 นัด และลำตัว รวม 7 นัด นำส่ง รพ.พนัสนิคม และเสียชีวิตต่อมาสอบสวนพยานเจ้าของร้านขายของชำใกล้ที่เกิดเหตุให้การว่า ขณะเตรียมเก็บร้านได้ยินเสียงปืนดัง 2 ชุด ชุดแรกดัง 3-4 นัด อีกชุดดังตามมา 2-3 นัด ตอนแรกคิดว่าใครจุดประทัด พอรู้ว่ามีเหตุ ยิงกันรีบบอกให้ลูกหลานเข้าบ้านและปิดร้านทันที เพราะกลัวจะโดนลูกหลง หลังเหตุการณ์สงบออกมาดู พบนายอัศนัยถูกยิงบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว สำหรับผู้ตายไม่ใช่คนแถวนี้ อยู่คนละหมู่บ้าน มักมา ดื่มเหล้ากับพรรคพวกหน้าห้องแถวที่เกิดเหตุเป็นประจำ ส่วนคนร้ายไม่รู้เป็นใคร เพราะตอนเกิดเหตุไม่เห็นหน้า ได้ยินแต่เสียงรถ จยย.ด้านนางนิตยา แรมเขียม อายุ 62 ปี อยู่บ้าน เลขที่ 13/3 หมู่ 7 ต.บ้านเซิด อ.พนัสนิคม แม่ผู้ตาย ร่ำไห้เปิดเผยว่า นายอัศนัย ลูกชาย เป็นคนรักเพื่อนฝูง ใครมีปัญหาอะไรมักไปช่วยเหลือตลอด ก่อนเกิดเหตุ มีสองพี่น้องทราบชื่อเล่นว่านายกับมาย มาหาลูกชาย บอกว่าให้ช่วยไปเคลียร์เรื่องให้หน่อย ตนไม่ทราบว่า มีเรื่องอะไรกับใคร หลังผู้ตายออกจากบ้านไปไม่นาน ก็ทราบข่าวร้ายว่าถูกยิงเสียชีวิต ตอนนี้เป็นห่วงหลานสาว อายุ 3 ขวบ ที่ต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่ยังเล็กขณะที่ พ.ต.อ.ถาวร นาใจเย็น ผกก.สภ.พนัสนิคม กล่าวว่า ตำรวจเรียกพยานที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำ โดยเฉพาะเพื่อนผู้ตายเพื่อหาเบาะแสคนร้าย ส่วนสาเหตุปมสังหารสันนิษฐานว่ามาจากขัดแย้งกลุ่มคู่อริ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ทราบว่า คนร้ายเป็นคนต่างถิ่น แต่มามีแฟนอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
