ชีวิตรันทด สาววัย 24 ถูกพ่อเลี้ยงหื่นขยี้กามตั้งแต่ 9 ขวบจนตั้งท้องมีลูกชายถึง 3 คน ท้องแรกอายุ 13 ปี อยู่ ม.1 ถูกขู่บังคับให้โกหกแม่ว่าเพื่อนชายที่โรงเรียนข่มขืน ก่อนถูกขยี้ซ้ำตั้งท้องอีก 2 ครั้ง แม่คิดว่าลูกสาวใจแตกไม่อยากซ้ำเติมก้มหน้าก้มตาเลี้ยงหลาน ก่อนทั้งหมดยกครอบครัวหนีโควิดไปอยู่กำแพงเพชร จู่ๆพ่อเลี้ยงไปสารภาพกับแม่เหยื่อจนเสียใจหนีหายออกจากบ้าน ผู้เสียหายเหยื่อกามคิดฆ่าตัวตายฉุกคิดว่ามีพี่ชายต่างแม่เลยหนีไปหาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง พี่ชายเลยพาไปพึ่งมูลนิธิปวีณาให้ช่วยเหลือพาแจ้งความจับกุม ด้านพ่อเลี้ยงหื่นถูกคุมตัวฝากขังให้การปฏิเสธขอให้การชั้นศาลเรื่องเศร้าสุดรันทดที่เกิดขึ้นกับสาววัย 24 ครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ก.ย. ที่ สน.สายไหม พ.ต.ต.สาธิต เผ่าแก้ว สว. (สอบสวน) สน.สายไหม คุมตัวนายสมศักดิ์ ช้างโชติ อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.975/2566 ลงวันที่ 29 ก.ย.2566 ข้อหากระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยเป็นการกระทำแก่ผู้อยู่ในความปกครอง ไปฝากขังศาลอาญามีนบุรีเป็นผัดแรก ท้ายคำร้องได้คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและเกรงว่าจะหลบหนี ระหว่างคุมตัวนายสมศักดิ์มีสีหน้าเรียบเฉย และกล่าวเพียงสั้นๆว่า ไม่มีอะไรจะพูดขอให้การในชั้นศาลเท่านั้นพ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากนายเอ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี พี่ชายต่างมารดาของ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ผู้เสียหายที่ถูกนายสมศักดิ์ พ่อเลี้ยง ข่มขืนตั้งแต่อายุ 9 ขวบ จนตั้งท้องและมีลูกชายด้วยกัน รวม 3 คน อายุ 10-7-5 ขวบตามลำดับ เข้าขอความช่วยกับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จากนั้นได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ สมชัยมงคล ผกก.สภ.เมืองกำแพงเพชร และ น.ส.วิมลรัตน์ รัชชุกูล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพง เพชร พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร สอบปากคำทราบว่าเหตุเกิดในพื้นที่ สน.สายไหม กทม. และได้ประสานตน พร้อมพาผู้เสียหายมาแจ้งความในวันที่ 26 ก.ย.66 จนสามารถออกหมายจับและมอบหมายชุดสืบสวนร่วมกับฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร ตามจับกุมนายสมศักดิ์ได้บริเวณพื้นที่หมู่ที่ 13 ต.ท่าขุนราม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เมื่อเย็นวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมาขณะที่ น.ส.บีได้เปิดเผยกับมูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรีถึงเรื่องรันทดที่เกิดขึ้นกับชีวิตว่า ขณะที่ยังอยู่ในวัยเด็ก แม่และนายสมศักดิ์พ่อเลี้ยง มีอาชีพขายพวงมาลัยตามที่ต่างๆ พักอยู่ห้องเช่ารายเดือนย่านสายไหม ตนต้องคอยช่วยแม่เดินขายพวงมาลัยตามร้านอาหารด้วย จนเมื่ออายุ 9 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.2 ขณะที่แม่ออกไปขายพวงมาลัย ถูกนายสมศักดิ์ พ่อเลี้ยง ข่มขืนและข่มขู่ว่าห้ามไปบอกใครมิฉะนั้นจะฆ่าให้ตายทำให้รู้สึกกลัว จากนั้นถูกข่มขืนเรื่อยมา จนท้องครั้งแรกเมื่ออายุ 13 ปี เรียนชั้น ม.1 ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน พ่อเลี้ยงหื่นบังคับห้ามบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกใคร ทำให้ น.ส.บีต้องโกหกแม่ว่าถูกเพื่อนชายที่โรงเรียนข่มขืนแล้วหลบหนี กระทั่งตั้งท้องลูกคนที่ 2 ตอนอายุ 17 ปี และท้องครั้งที่ 3 ตอนอายุ 19 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ชาย ขณะนี้ลูกคนเล็ก อายุ 5 ขวบ แต่แม่ น.ส.บี ไม่เคยเอะใจและไม่เคยถามว่าท้องกับใครเพราะเข้าใจว่า น.ส.บีผิดพลาดไม่อยากซ้ำเติมลูกก้มหน้า ก้มตาเลี้ยงหลานอย่างเดียวน.ส.บีให้รายละเอียดอีกว่า ต่อมาช่วงปี 2562 โควิดระบาด นายสมศักดิ์และแม่ได้พา น.ส.บี และลูกชายอีก 3 คน ไปอยู่บ้านเกิดของพ่อเลี้ยงที่ จ.กำแพงเพชร ขณะที่ น.ส.บีเริ่มทนพฤติกรรมไม่ไหวอยากจะหนีและอยากจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่ไม่มีที่ไปอึดอัดบอกใครก็ไม่ได้ กลัวแม่รู้จะเสียใจกระทั่งเดือน เม.ย.66 จู่ๆนายสมศักดิ์ไปสารภาพกับแม่ของ น.ส.บี จนแม่ น.ส.บีเสียใจหนีออกจากบ้านไปทันที ขณะที่ น.ส.บีนึกได้ว่าแม่เคยบอกว่า มีนายเอ (นามสมมติ) เป็นพี่ชายต่างมารดา ทำให้ น.ส.บีตามหาเฟซบุ๊กนายเอพี่ชายจนเจอ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับพี่ชายฟัง นัดให้มาหาและพาเข้าไปขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณาฯกระทั่งจับกุมนายสมศักดิ์ พ่อเลี้ยงหื่นได้ดังกล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่