ตำรวจสืบสวนภาค 2 เปิดปฏิบัติ การไล่ล่าข้ามประเทศ ประสาน ตำรวจสากลออกหมายแดงตามลากคอโจรปล้นร้านทองออโรร่า ในห้างโลตัสกลางเมืองพัทยาเมื่อปี 65 กวาดสร้อยทองหนัก 34 บาท รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท เผ่นหนีไป ทำงานเป็นผีน้อยอยู่เกาหลีใต้นานกว่า 10 เดือน หลัง ถูกออกหมายจับเปลี่ยนงานเปลี่ยนที่กบดานหนีตำรวจ ไปเรื่อย สุดท้ายไม่รอดถูกรวบตัวขณะรับจ้างทำสวน ปลูกผักปลอดสารพิษอยู่ทางตอนใต้ของแดนกิมจิ ตำรวจใช้เวลาประสานงาน 1 สัปดาห์ นำตัวกลับมา ดำเนินคดีที่เมืองไทยปฏิบัติการไล่ล่าข้ามประเทศตามลากคอโจรปล้นร้านทองรายนี้เปิดเผยที่ บช.ภ.2 จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 ก.ย. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายสุนทร ปิ่นนาค อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 6 ต.คลองลานพัฒนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า สาขาโลตัสพัทยาใต้ พื้นที่ สภ.เมืองพัทยา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 พ.ย.65 คนร้ายใช้ปืนบีบีกันบุกจี้พนักงานร้านกวาดเอาสร้อยคอทองคำน้ำหนักรวม 34 บาท มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ตำรวจไทยประสานตำรวจสากลติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ประเทศเกาหลีใต้พล.ต.ท.อิทธิพล แถลงว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการประสานความร่วมมือขององค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศหรือ “ตำรวจสากล” (INTERPOL) มีภาคีเครือข่าย 194 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยและประเทศเกาหลีใต้ หน้าที่สำคัญคือเป็นตัวกลางประสานความร่วมมือระหว่างตำรวจของประเทศต้นทางกับประเทศปลายทาง ในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน หรือการแลกเปลี่ยนนักโทษระหว่างประเทศ โดยประเทศต้นทางจะต้องประมวลเรื่องเสนอให้ตำรวจสากลในการขออนุมัติการออกหมายแดง (RED NOTICE) ซึ่งเป็นคำร้องให้ประเทศในภาคีเครือข่ายสามารถจับกุมคนร้ายตามหมายแดงได้ ตำรวจภูธรภาค 2 ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติสาธารณรัฐเกาหลี และองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญนี้ผบช.ภ.2 เผยเบื้องหลังการจับกุมว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งเส้นทางก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุกว่า 150 ตัว ตลอดเส้นทางกว่า 210 กม. ใช้เวลาไล่กล้องนานกว่า 2 สัปดาห์ จนพบจุดที่คนร้ายนำเสื้อผ้าและปืนไปทิ้ง จากนั้นพิสูจน์ทราบแหล่งที่มาของสิ่งของที่ใช้ก่อเหตุในทุกมิติของการสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายคือนายสุนทร หรือโต้ง ปิ่นนาค อายุ 34 ปี ชาว จ.กำแพงเพชร มาทำงานรับจ้างอยู่ย่านนิคมอุตสาหกรรมบ่อวินอ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ต่อมาวันที่ 19 ธ.ค.65 ขออนุมัติ ศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะฯ ผู้ต้องหาถูกขึ้นบัญชีเป็นบุคคลตามปฏิทินหมายจับสำนักงานตำรวจแห่งชาติลำดับที่ 50 รางวัลนำจับ 80,000 บาทตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายสุนทรตั้งใจหลบหนีไป ประเทศเกาหลีใต้ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.65 และสิ้นสุดการอนุญาตให้อยู่ในประเทศเกาหลีใต้ถึงวันที่ 8 มี.ค.66 ลักลอบไปประกอบอาชีพเป็นช่างซ่อมบ้านโดยผิดกฎหมายที่เมืองโพซอน จังหวัดแชรอน ทางตอนบนเกือบถึงชายแดนเกาหลีเหนือ จึงขออนุมัติต่อองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศหรือตำรวจสากล (INTERPOL) เพื่อออกหมายแดงที่ A-270/1-2023 ลงวันที่ 10 ม.ค.66ต่อมา พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 ให้ข้อมูลไปยังตำรวจสากล ปรากฏว่าผู้ต้องหาไหวตัวทัน รีบย้ายที่อยู่โดยการช่วยเหลือของนายหน้าหางาน เปลี่ยนไปประกอบอาชีพทำสวนผักและเลี้ยงสุกร เปลี่ยนที่พักอาศัยไปเรื่อย ทำให้ตำรวจเกาหลีใต้ตามหาตัวไม่พบ แต่ตำรวจภูธรภาค 2 ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานงานกับตำรวจไทยที่ประจำการอยู่สำนักงานตำรวจแห่งชาติสาธารณรัฐเกาหลี และตำรวจสากลของประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกันสืบสวนจนพบที่อยู่ปัจจุบันของผู้ต้องหาที่ลักลอบรับจ้างทำสวนและทำโรงปลูกผักปลอดสารพิษที่ตำบลโซวอน อำเภอแทอัน จังหวัดชุงชองใต้ อยู่ทางตอนใต้ของประเทศเกาหลีใต้ เข้าจับกุมตัวไว้ได้เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมาจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ากระทำความผิดมาจากประเทศไทยและขอเดินทางกลับไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายด้วยความสมัครใจ ตำรวจเกาหลีใต้ควบคุมตัวไว้ในความผิดตามกฎหมายคนเข้าเมืองและผลักดันกลับประเทศไทย ก่อนที่ตำรวจไทยจะเดินทางไปรับตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีที่ไทยในวันที่ 18 ก.ย. ด้วยความร่วมมือของสถานทูตไทยในกรุงโซล สำนักงานตำรวจแห่งชาติสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ทำให้การเดินทางกลับของผู้ต้องหาเป็นไปได้ด้วยความรวดเร็ว ใช้เวลา ประสานงานและดำเนินการเพียงประมาณ 1 อาทิตย์