นับแต่อดีตจนปัจจุบัน “ประเทศไทย” มีผู้กระทำผิดจากการต่อสู้ทางการเมืองถูกดำเนินคดีพิพากษาถึงที่สุดก้าวสู่การใช้ชีวิตในเรือนจำอันมีกำแพงสี่เหลี่ยมล้อมรอบออกจากโลกภายนอกอยู่บ่อยครั้งท่ามกลางกระแสข่าวลือว่า “เหล่าบรรดานักการเมือง หรือคนรวย” มีอภิสิทธิ์ชนเหนือผู้ต้องขังคนอื่นที่เรียกว่า “คุกวีไอพี” เนรมิตให้อยู่อย่างสะดวกสบายสามารถนอนห้องแอร์มีคนคุมดูแลอย่างใกล้ชิดได้จริงหรือไม่ ในเรื่องนี้ “ทีมสกู๊ปหน้า 1” มีโอกาสพูดคุยกับ จตุพร พรหมพันธุ์ อดีตนักการเมืองที่เคยผ่านเรือนจำมา 5 ครั้ง เล่าว่าทันทีที่เปิดประตูเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รถลำเลียงผู้ต้องขังใหม่จะวิ่งผ่านประตูนอกแล้วจอดให้ผู้ต้องขังเข้าช่องประตูชั้นใน “เดินผ่านเครื่องสแกนร่างกาย” เพื่อตรวจวัตถุสิ่งแปลกปลอมอาจซุกซ่อนนำเข้าไปด้วย ก่อนเข้าสู่ห้องทำประวัติ ทำเอกสารแสดงตัว ทำบันทึกลายนิ้วมือ ตรวจสอบว่าผู้ต้องขังใหม่ถูกต้องตรงตามหมายศาลเมื่อเสร็จแล้วจะถูกนำตัวเข้าสู่ “แดนแรกรับในพื้นที่แดน 2” เพื่อให้ผู้ต้องขังใหม่มีโอกาสปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมอันจะมีเจ้าหน้าที่เรือนจำคอยจัดการปฐมนิเทศ อบรม แนะนำ กฎ ระเบียบ วินัยข้อปฏิบัติต่างๆประมาณ 15 วัน แล้วเจ้าหน้าที่ตั้งแต่แดน 1-แดน 8 จะเข้ามาจำแนกรับตัวผู้ต้องขังใหม่กระจายไปอยู่ในแดนต่างๆ ยึดหลักเกณฑ์จำแนกตามประเภทของการกระทำความผิดอย่างเช่น “แดน 7” ที่มีเนื้อ 1 ไร่เศษ รองรับผู้ต้องขัง 500 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ต้องขังในความผิดเสมือนจะโทษร้ายแรงแต่จำคุกไม่เกิน 15 ปีแต่มักมีคำถามเสมอว่า “นักโทษทางการเมืองมีอภิสิทธิ์ชนกว่าคนอื่นหรือไม่...?” ในเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคนหากวางตัวดี “ย่อมได้รับการเคารพมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นเป็นธรรมดา” แต่ก็ต้องไม่เกินกว่ากฎ ระเบียบของกรมราชทัณฑ์อย่างสมัยอยู่ในเรือนจำ “มักใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย” ก็ถูกสั่งไปประจำป้อมรักษาการณ์อันเป็นลักษณะการเคารพเอื้อเฟื้อช่วยเหลือซึ่งกันและกันมากกว่าการได้รับอภิสิทธิ์เหมือนคนอื่นอย่าลืมว่า “เรือนจำมีกล้องวงจรปิดพันๆตัวจับผิดความเคลื่อนไหว 24 ชม.” แม้ตอนกลางคืนยังต้องเปิดไฟให้มีแสงสว่างทุกมุมฉะนั้นการกระทำสิ่งใดอันนอกเหนือไปจากกฎระเบียบย่อมไม่หลุดรอดจากกล้องไปได้ส่วนกระแสข่าว “เรือนจำมีห้องวีไอพีกินหรูนอนห้องแอร์” ส่วนตัวไม่เคยเห็นห้องประเภทนี้เพราะโรงนอนทุกห้องจะติดพัดลม “อดีตนักการเมือง คนมีชื่อเสียง คนรวย” ล้วนต้องมานอนรวมกันบนพื้นที่เฉลี่ยคนละ 3 แผ่นกระเบื้องประมาณ 45 ซม. แล้วแต่ละคนจะมีผ้าห่ม 3 ผืน ใช้ปูนอน 1 ผืน หนุนหัว 1 ผืน และห่ม 1 ผืนสำหรับตัวเองใช้หนุนหัว 2 ผืน ห่ม 1 ผืน ไม่ต้องปูก็นอนหลับได้จากความเคยชิน เช่นนั้นกรณีมีกระแสข่าวว่า “เรือนจำมีห้องวีไอพี” คงเป็นเรื่องเข้าใจผิดที่อาจหมายถึงบางคนมีโอกาสอยู่ในห้องนอนคนไม่แน่นอย่างสมัยอยู่แดน 7 มีผู้ต้องขัง 500 คน ทำให้อยู่กันสบายๆ แบบหลวมไม่แออัดมากประเด็นถัดมา “คนดูแลนักโทษการเมืองใกล้ชิด” น่าจะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์กัน ด้วยนักโทษมีโอกาสกินนอนร่วมกันเป็นเวลานานๆ ย่อมผูกพันนำมาซึ่งความเห็นอกเห็นใจไม่ว่าคนนั้นจะเข้ามาจากโทษใดก็ตาม อย่างกรณี “นักโทษสูงอายุ 70 กว่าปีช่วยเหลือตัวเองไม่ได้” ที่มีเพียงนักโทษคดีอุกฉกรรจ์คอยทำหน้าที่ดูแลมาเป็นสิบปี แล้วนักโทษอุกฉกรรจ์คนนี้ก็กำลังจะได้พักโทษในอีก 3 เดือน แต่ก็ตัดสินใจยอมสละสิทธิ์ขอดูแลนักโทษชราคนนั้น ทำให้เห็นว่าในสิ่งที่เลวร้ายๆ ก็ยังมีความงดงามของความมีน้ำใจต่อกันอยู่เช่นเดียวกับตัวเองบางครั้ง “มักมีน้องๆนักโทษคนอื่นเข้ามาช่วยซักผ้า” อันเป็นการดูแลซึ่งกันและกัน ทำให้คนไม่มีรายได้อยากมาดูแลเราแล้วแต่ละคนคดีอุกฉกรรจ์ทั้งนั้น เพราะทุกคนรู้ดีในเรือนจำนี้ต้องหลีกเลี่ยงมีเรื่องมีราวต่อกันให้มากที่สุด เพราะมีผลต่อการพิจารณาชั้น และลดโทษ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ต้องมีแต่มิตรไมตรีสำหรับกิจวัตรประจำวันเริ่มตื่นนอนเวลา 05.00 น.สวดมนต์ออกกำลังกาย อาบน้ำ รับประทานอาหารเวลา 08.00 น. เข้าแถวเช็กยอด เคารพธงชาติ แยกย้ายเข้ากองงาน แล้วความใฝ่ฝันของนักโทษคือ “ทำงานขุดลอกท่อ” ที่คัดเลือกเฉพาะคนใกล้พ้นโทษเท่านั้น เพราะงานสาธารณะจะได้เบี้ยเลี้ยงค่าจ้าง และลดโทษวันต่อวันเวลา 14.30 น.เลิกงานอาบน้ำกินข้าวเย็น เวลา 16.00 น. เช็กยอดขึ้นเรือนนอน เวลา 21.00 น.เข้านอนในส่วน “อาหารการกินมีเลี้ยงฟรี 3 มื้อ” เพียงแต่บางคนไม่อยากกินข้าวหลวงก็สั่งอาหารของกรมราชทัณฑ์ด้วยการสั่งวันนี้ได้กินวันรุ่งขึ้น โดยมีการ์ดรูดบัตรให้ใช้ได้วันละ 300 บาท เดือนละ 9,000 บาท นอกจากนี้ยังมีอาหารญาติมาเยี่ยมทำให้ไม่ค่อยลำบากมีกินจนเหลือต้องแจกให้นักโทษคนอื่นเป็นการถ้อยทีถ้อยอาศัยกันเพราะด้วยในเรือนจำทุกคนล้วนมีฐานะเท่าเทียมคือ “นักโทษ” ต้องลืมอดีตที่เคยเป็นใครแล้วคิดอยู่กับโลกปัจจุบันให้ได้ “อย่ายึดติด” เพื่อให้ความคิดหลุดพ้นให้เวลาแต่ละวันผ่านไปได้ ถ้าติดคุกแล้วไม่ปล่อยวางจะทำให้นอนไม่หลับส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย เหตุนี้อย่าคิดว่าอดีตเป็นใคร และอนาคตออกไปแล้วจะทำอะไร สิ่งนี้ล้วนทำให้เกิดทุกข์วนเวียนอยู่เหมือนเดิม แต่ถ้ามองรอบๆห้องก็ยังมีเศรษฐี นักธุรกิจบริษัทหมื่นล้าน และคนฐานะร่ำรวย ต้องกลายมาเป็นนักโทษนอนกระเบื้อง 3 แผ่นเหมือนเราแล้วแบบนี้จะทุกข์กันไปทำไมประการถัดมา “การเลื่อนชั้นลดโทษ” ผู้ต้องขังเด็ดขาดเข้ามาในเรือนจำต้องเริ่มจาก “ชั้นกลาง” ถ้าต้องการเลื่อนชั้นต้องแสดงให้เห็นถึงความประพฤติดี มีอุตสาหะ ความก้าวหน้าในการศึกษา ทำการงานเกิดผลดี หรือทำความชอบแก่ทางราชการเป็นพิเศษ ทำให้ได้รับประโยชน์เลื่อนนักโทษชั้นดี ชั้นดีมาก และชั้นเยี่ยม ตามลำดับอันมีการพิจารณาในวันที่ 30 มิ.ย. และวันที่ 31 ธ.ค.ของทุกปี แต่หากทำผิดวินัยฝ่าฝืนระเบียบจะต้องถูกลงโทษอย่างเช่น งดเลื่อนชั้น ลดชั้น ตัดการเยี่ยมเยียนเว้นแต่เป็นกรณีติดต่อกับทนาย งดประโยชน์รางวัล ขังเดี่ยว และตัดวันลดโทษ กลายเป็นนักโทษชั้นปรับปรุง และชั้นปรับปรุงมากที่มักไม่ค่อยได้ลดโทษตามมาทว่าหากในช่วงนั้น “ประกาศพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ” ผู้ต้องขังชั้นดีจะได้ลดโทษ 1 ใน 5 ชั้นดีมากจะได้ลด 1 ใน 3 และชั้นเยี่ยม 1 ใน 2 เว้นแต่เป็นคดีการทุจริต ป.อาญา ม.157 มักถูกตัดสิทธิ์เหลือลดกึ่งหนึ่ง เช่น นักโทษชั้นเยี่ยมปกติลดโทษครึ่งหนึ่งของโทษก็เหลือเพียง 1 ใน 3 แทนนอกจากนี้การเลื่อนชั้นนั้นยังได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกรายเดือนอันเป็นไปตามชั้นด้วย เช่น “ชั้นเยี่ยม” ได้ลดโทษเดือนละ 5 วัน “ชั้นดีมาก” ได้ลดโทษเดือนละ 4 วัน “ชั้นดี” ได้ลดโทษเดือนละ 3 วันถัดมากรณีนักโทษป่วย “สถานพยาบาลของเรือนจำ” โดยเจ้าหน้าที่พยาบาลจะคอยดูแลเป็นหลัก “แพทย์” มักหมุนเวียนมาสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หากสถานพยาบาลรักษาไม่ได้ต้องนำตัวไป รพ.ราชทัณฑ์เท่านั้น แต่กรณีนักโทษป่วยหนักกลางดึกกระบวนการค่อนข้างหลายขั้นตอนใช้เวลานานทำให้นักโทษเสียชีวิตในเรือนจำเกิดขึ้นบ่อยๆ “แตกต่างจากนักโทษผู้มีชื่อเสียงมักได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เมื่อเจ็บป่วยต้องถูกส่ง รพ.ราชทัณฑ์ แล้วถ้าเกินศักยภาพจะถูกส่งต่อไปรักษาในโรงพยาบาลภายนอกเรือนจำ อย่างกรณีล่าสุดอดีตนักการเมืองชื่อดังถูกส่งไป รพ.ตำรวจกลางดึกด้วยโรคกล้ามเนื้อขาดเลือด ปอด ความดัน กระดูกสันหลังเสื่อมอย่างกะทันหันนั้น” จตุพร ว่าความจริงแล้ว “ผู้ต้องขัง” ที่ต้องโทษเข้ามาในเรือนจำมักเผชิญการนอนไม่หลับ กินไม่ได้ และมีปัญหาการขับถ่ายเป็นเรื่องปกติ บางคนนอนหลับวันนึงอีกวันนึงนอนไม่หลับทำให้รุ่งเช้าร่างกายอ่อนเพลีย แต่กรณีอดีตนักการเมืองชื่อดังถูกส่ง รพ.ตำรวจได้รับอภิสิทธิ์ชนหรือไม่ เรื่องมีข้อเท็จจริงอยู่ในกล้องวงจรปิดในเรือนจำตามปกติแล้วนักโทษป่วยมักถูกส่งไป รพ.ราชทัณฑ์เท่านั้น แต่ด้วยอดีตนักการเมืองชื่อดังเป็นคนสำคัญทำให้ถูกส่งไป รพ.ตำรวจ เรื่องนี้ความจริงต้องดูกล้องวงจรปิดจะบ่งบอกได้ว่าใครเป็นอะไรยังไง แต่สิ่งนี้ทำให้โรคกล้ามเนื้อขาดเลือด ปอด ความดัน กระดูกสันหลังเสื่อมเป็นโรคใหม่ของเรือนจำส่งไปรักษาโรงพยาบาลภายนอกได้สุดท้ายฝากไว้ว่า “ชีวิตการติดคุกควรทำตัวเหมือนอยู่ในสุสานคนเป็น” อย่ายึดติดเพื่อให้ความคิดหลุดพ้นจากการคิดมากให้ใช้ชีวิตอยู่กับการเป็นนักโทษปล่อยเวลาแต่ละวันผ่านไปให้ได้ก็พอ...คลิกอ่านคอลัมน์ "สกู๊ปหน้า 1" เพิ่มเติม