การจากไปของตำนานมือปราบคนดังเสมือนเสียปูชนียบุคคลอันทรงคุณค่าที่สร้างคุณูปการประดับวงการตำรวจไว้มากมายประวัติ พล.ต.ท.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล หลังถูกพิษมรสุมเด้งเข้ากรุเมืองสงขลาไม่นาน เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ระอุขึ้นมาอีกระลอก เจ้าตัวได้รับโอกาสกลับเข้าไปทำงาน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ก่อนรับผิดชอบ สภ.อ.บาเจาะ จ.นราธิวาสอาศัยตำราต่อต้านการก่อการร้ายหลายเล่มจากทั่วโลก ขึ้นยุทธการทลายรังใหญ่ของผู้ก่อความไม่สงบในชายแดนใต้แก้ปัญหาเพียงปีเศษบนเทือกเขาบูโด โจรผู้ร้ายไม่มีเหลือ เมื่อนำทัพบุกโจมตีค่ายแตกยับเยินอาศัยการหาข่าวความเคลื่อนไหวจากคนในพื้นที่“ถ้าไม่เป็นคนประชาชน ไม่มีทางได้อยู่ในหัวใจพวกเขา” พล.ต.ท.สรรเพชญยึดหลักการทำงานแต่เขายอมรับว่า ไม่สามารถทำให้ปลายด้ามขวานสงบลงได้ เนื่องจากเป็นแหล่งหากินของพวกข้าราชการทั้งหลาย “เราเหนื่อยยากลำบากเกือบตายขนาดไหนไปปราบปรามพวกเหล่านี้ แต่ในที่สุดก็ส่งคนจัญไรมาหากินหาผลประโยชน์ให้ผู้ใหญ่อีก”ทำให้พวกโจรกลับเข้ามาทุกยุคทุกสมัยไม่สิ้นสุด นี่คือ ปัญหาใหญ่หลวงของชาติ“มีข้าราชการเฮงซวย ทำตัวเป็นขุนนางเรียกเงินเรียกทองจากคนในพื้นที่ เป็นเรื่องน่าอนาถใจที่สุด” อดีตนายตำรวจมือปราบชี้ปมคาราคาซังที่หมักหมมมาถึงปัจจุบันกระนั้นก็ตาม เจ้าของฉายา “จังโก้เมืองไทย” ไม่เคยละทิ้งอุดมการณ์ เมื่อย้ายไปอยู่ จ.นครศรีธรรมราช ทำผลงานปราบปรามผู้ร้ายกันอย่างดุเดือดจนพากันหัวหดหนีตายเผาศพกันไม่ทันเป็นตำรวจคนเดียวที่กล้าเขียนประกาศไว้ว่า “เป็นคนต้องอยู่ใต้กฎหมาย เป็นสัตว์ร้ายกูจะล่า”ด้วยเจตนารมณ์ต้องการความสงบสุขมอบให้ประชาชน.สหบาท