กติกาการเมือง แพ้ชนะ กำลังจะตัดสินกันด้วยตัวเลข...แต่หากจะเปลี่ยนกติกา นับกันด้วยความดีความเลว...ความดีความเลว เป็นนามธรรม นับไม่ได้ จับต้องไม่ได้ แต่ต้องวัดก้นด้วยใจของวิญญูชนผมอ่านหนังสือหลายเล่ม ตั้งใจหาเรื่องความดีความเลว แบบที่เปรียบเทียบได้ พอจับต้องได้ จนกระทั่งเจอเรื่อง คนขายสีกับคนขายวัว (สายธารแห่งปัญญา บุญศักดิ์ แสงระวี แปล สำนักพิมพ์ ก.ไก่ พ.ศ.2533)พ่อค้าใหญ่แคว้นเย่ ชื่อหยีฟู ร่ำรวยจากการปลูกต้นชิที่ให้น้ำมันยางบนภูเขา...ให้แคว้นอู๋ วันหนึ่งเขาพบวิธีลดต้นทุน...จึงนำใบชิมาเคี่ยวปนไปกับน้ำยาง ได้กำไรเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยแต่ก็ไม่นาน เมื่อลูกค้าแคว้นอู๋รู้ความจริง ก็เลิกซื้อ กิจการค้ายางของหยีฟู ก็จบลงไม่เพียงทุนหาย กำไรก็ไม่มี จะเปลี่ยนไปค้าขายอย่างอื่น แต่ชื่อเสียงที่เสียไปเอาคืนไม่ได้ ไม่มีใครยอมค้าขายด้วยสุดท้าย เจ้าสัวหยีฟูก็กลายเป็นขอทานสมัยราชวงศ์เหลียง มีชายยากจนคนหนึ่ง ชื่อหมิงชานปิน ในวันที่เขาอับจนสิ้นหนทาง ไม่มีอะไรจะกิน เขาตัดสินใจจูงวัวตัวสุดท้าย... ไปขายในตลาดต่อรองราคากันไม่กี่คำ ก็ตกลง จ่ายเงินกันเสร็จ ขณะลูกค้าจะจูงวัวจากไป หมิงชานปิน ทักท้วงผู้ซื้อว่า “ท่านตัดสินใจให้ดีอีกสักครั้งเถิด! วัวตัวนี้เพิ่งหายป่วยได้ไม่นาน”ผู้ซื้อได้ฟัง ก็บอกเลิกซื้อ ขอเงินคืนพ่อค้าแม่ขาย ผู้คนในตลาดที่รู้เห็นเหตุการณ์ เล่ากันไปก็หัวเราะกันไป หมิงชานปินคนนี้ ช่างโง่เขลานักแต่หมิงชานปิงไม่มีทีท่าเสียใจ เขายืนยันมั่นคง...“วัวขายได้ แต่ความซื่อสัตย์ของข้า ขายไม่ได้”ประโยคนี้ เล่าขานต่อๆกันมา จนเป็นตำนาน ถึงวันนี้ยังรู้จักชื่อ หมิงชานปินหวนซูเต้าหยิน ผู้เล่าเรื่องนี้...มีคำอธิบายเพิ่ม...ถูกทีเดียว คนมีคุณธรรม ก็คือคนเช่นเดียวกับเจ้าของคำพูด วัวขายได้แต่ความซื่อสัตย์ขายไม่ได้ เขาซื่อสัตย์ทั้งต่อตัวเอง และต่อผู้อื่นสิ่งที่อยู่ในใจ มิได้เป็นอันใดที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม จะสว่างไสวดังเช่นแสงตะวันอันเจิดจ้า และฟ้าสีครามอันสดใส ผู้คนทั่วไปเมื่อเห็นเข้า ก็เข้าใจได้ทันทีคนดีมีคุณธรรม เป็นดังหนึ่งหยกงาม ที่เปี่ยนเหอค้นพบในสมัยชุนชิว (2,700 ปีก่อน) คนธรรมดาสามัญเห็นว่าเป็นเพียงหินก้อนหนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญที่มีสายตาจึงจะมองออกว่า เป็นหยกวิเศษสดใสบริสุทธิ์อันประมาณค่ามิได้ถ้าหาก่ไข่มุกสวยงามแวววาวติดอยู่บนเปลือกนอกของหอย แสงประกายที่เปล่งออกไปทั้งสี่ทิศ ก็เท่ากับล่อเรียกผู้คนทั้งหลายรุมกันเข้าไปหยิบฉวยคนเราก็มักเป็นเช่นนั้น คนที่มีความรู้ความสามารถไม่มาก มักจะสร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้อื่นได้ง่ายๆ แต่คนที่มีความสามารถและคุณธรรมจริงๆ จะไม่เป็นเช่นนั้นความปราดเปรื่องของเขาแม้จะแวววาวดังหนึ่งไข่มุก แต่เขาก็รู้ว่าควรจะใช้ความนอบน้อมถ่อมตนอย่างไรปกปิดไว้ เหมือนฟ้าสร้างไข่มุกที่สวยงามที่สุดในครั้งแรก ก็ได้ซ่อนมันไว้ในเปลือกหอยอันมีภายนอกขรุขระน่าเกลียดหวนซูเต้าหยิน สรุปเรื่องคนขายสีกับคนขายวัวว่า...จิตใจสุภาพชน ดังหนึ่งฟ้าใสตะวันเจิด ไม่จำต้องปิดบังแก่ผู้ใด ความปราดเปรื่องของสุภาพชน ดังหนึ่งไข่มุกหยกงามไม่อาจเปิดเผยแก่ผู้ใดโดยง่ายผมตั้งใจค้นเรื่องนี้มาเล่า เพื่อจะเอาไปต่อด้วยประโยคทองของ...ใครสักคน...ที่เปรียบเปรย ในนาทีที่คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เจอเสียงส่วนใหญ่ ตัดสิทธิการเป็นนายกฯ“ตำแหน่งนั้น มีให้ใครได้ง่ายๆ แต่ตำนานนั้นเกิดขึ้นได้ยาก”ผมสะใจที่ได้รู้ว่า มีคนมากมาย สุมหัวกันสร้างตำนาน...ให้นักการเมืองหนุ่มคนหนึ่ง ยิ่งใหญ่ต่อไปในวันหน้า.กิเลน ประลองเชิง