ในสังคมมนุษย์เรานั้น มีการตั้งทฤษฎีว่ายิ่งกลุ่มใหญ่เท่าไร เวลาเกิดเรื่องน่าหวั่นวิตก การจะมีคนอาสาอยากจะช่วยเหลือดูจะเป็นเรื่องยาก หรือออกแนวเกี่ยงงอนกันไปมา เพราะมองว่าธุระไม่ใช่ จะเอาตัวเองไปเสี่ยงทำไม สิ่งนี้เลยเป็นพฤติกรรมที่น่าสนใจของนักวิจัยด้านพฤติกรรมมานานหลายสิบปีเมื่อเร็วๆ นี้ มีงานวิจัยลงในวารสารวิทยาศาสตร์ Proceedings of the Royal Society B ผลงานของ รีเบคกา แพดเจ็ต นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาจากศูนย์วิจัยพฤติกรรมสัตว์ แห่งมหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ ในอังกฤษ เผยถึงการศึกษาพฤติกรรมของปลาหางนกยูง (Trinidadian guppies) พบว่าเมื่อปลาชนิดนี้ต้องเผชิญกับผู้ล่า ปลามีการสร้างความสมดุลระหว่างความเสี่ยง โดยจะมีปลาบางตัวทำตัวเป็นอาสาสมัครเสี่ยงชีวิตของตนเพื่อช่วยเหลือปลาหางนกยูงกลุ่มใหญ่ นั่นคือปลาหางนกยูงอย่างน้อย 1 ตัวจะเข้าใกล้สถานการณ์ที่ไม่น่าไว้ใจ เช่นมีนักล่าอื่นเข้ามาใกล้ ปลาตัวนี้ก็จะไปดูว่ามีภัยคุกคามหรือไม่ แม้การทำเช่นนี้มันอาจถูกศัตรูจับกินได้ แต่หากไม่มีปลาหางนกยูงตัวใดกล้าเสี่ยงเลย ปลาทั้งฝูงก็จะตกอยู่ในอันตรายทีมวิจัยเผยว่าจากการใช้รูปจำลองดินเหนียวของปลาหมอไพค์ ที่เป็นศัตรูตัวฉกาจในธรรมชาติของปลาหางนกยูง ใส่ลงในถังน้ำที่มีปลาหางนกยูง 5 ตัว 10 ตัว และ 20 ตัว เป็นเวลา 7 นาทีต่อครั้ง ทีมพบว่ามีปลาหางนกยูงที่อยู่ในกลุ่มใหญ่ จะเข้าใกล้และตรวจสอบรูปจำลองดินเหนียวปลาหมอไพค์เฉลี่ย 14 ครั้ง ส่วนปลาหางนกยูงในกลุ่มขนาดกลางมีโอกาสเข้าใกล้น้อยที่สุด เฉลี่ย 7 ครั้ง โดยที่ปลาตัวอื่นๆซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้และกรวดในถังน้ำมากที่สุด.Trinidadian guppies. Credit : Rebecca Padget