“ตูน-ปรินดา คุ้มธรรมพินิจ” ผู้ประกาศข่าวสาวคนดังโร่แจ้งตำรวจไซเบอร์โดนมิจฉาชีพแฮกบัตรเครดิตไปใช้สูญเกือบ 5 แสนบาท สุดงงหลังใช้บัตรจ่ายซื้อของจะมีข้อความแจ้งการตัดยอดอีกหลายครั้ง ล่าสุดมียอดถึง 24,000 ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ใช้ เอะใจไล่เช็กย้อนหลังพบตั้งแต่ 28 มิ.ย.ถึง 12 ก.ค. เจอไป 50 รายการ รวมแล้วเฉียดครึ่งล้าน ตำรวจประสานแบงก์แกะรอยล่าคนร้าย เผยเคสแบบนี้ไม่ค่อยพบบ่อยในคดีภัยออนไลน์ผู้ประกาศข่าวสาวแจ้งความตำรวจไซเบอร์ถูกมิจฉาชีพแฮกบัตรเครดิตนำไปรูดเงินสูญเกือบ 5 แสนบาท เปิดเผยเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 ก.ค. ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม. น.ส.ปรินดา หรือตูน คุ้มธรรมพินิจ ผู้ประกาศข่าวรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางทีวีช่อง 3 เข้าพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายแฮกบัตรเครดิตนำไปเกือบ 5 แสนบาทน.ส.ปรินดาเปิดเผยว่า ปกติเป็นคนใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าอาหารและซื้อสินค้าต่างๆ ตั้ง SMS เตือนเวลามียอดการใช้จ่ายในวงเงินตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ที่ผ่านมาเวลาใช้ทุกครั้งจะมี SMS เตือนตลอด ทำให้วางใจกับระบบการแจ้งเตือนการใช้จ่ายแต่ละครั้ง กระทั่งคืนวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา มีข้อความแจ้งเข้ามาว่ามียอดรายการการใช้จ่ายจำนวน 24,000 บาท พยายามจะตัดยอดในบัตรเครดิต แต่วงเงินเต็มทำให้ดำเนินการไม่สำเร็จ เริ่มเอะใจว่ามีอะไรผิดปกติ ตอนนั้นคิดว่าวงเงินไม่น่าจะเต็ม เพราะเราไม่น่าจะใช้เงินเยอะขนาดนั้นผู้ประกาศข่าวสาวกล่าวอีกว่า พอลิงก์เข้าในระบบแอปธนาคารพบว่ามีการตัดยอดบัตรเครดิตสลับกับยอดที่ใช้หลายรายการ เช่น เวลาไปใช้บัตรที่ไหนก็จะมียอดที่เราใช้แจ้งเตือน กลับมียอดที่ไม่ได้ใช้ถูกหักออกไปจากบัตรด้วย ไม่มีการแจ้งเตือน อย่างวันที่ 10 ก.ค.ใช้บัตรรูดจ่ายค่าอาหารจำนวน 1,800 บาท และเช็กดูข้อความส่งการตัดยอดบัตรตรงกับยอดที่เราจ่ายก็เซ็นชื่อ และทุกครั้งที่เราใช้บัตรจ่ายซื้อของจะทำแบบนี้ตลอดเพื่อความแน่ใจ“ปัญหาคือหลังยอดที่เราจ่ายไปก็จะมียอดตัดออกไปอีกหลายครั้ง และเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ไม่มีการแจ้งเตือน มีแต่ยอดที่มิจฉาชีพพยายามจะตัดบัตรในวงเงินเต็ม 5 แสน เท่าที่ทราบมีการตัดยอดตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.-วันที่ 12 ก.ค.66 กว่า 50 รายการ รวมเป็นเงินเกือบ 5 แสนบาท” น.ส.ปรินดากล่าวด้าน พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 กล่าวว่า เคสนี้เป็นเคสที่น่าสนใจคือขณะที่ผู้เสียหายใช้บัตรทำรายการจะมีข้อความแจ้งเตือน ขณะที่มิจฉาชีพใช้แฮกข้อมูลบัตรไปใช้จะไม่มีการส่งข้อความแจ้งเตือนการทำรายการแต่ละครั้งที่ใช้ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า แต่ละครั้งที่มิจฉาชีพแฮกการใช้บัตรเครดิตนำไปซื้อเกมออนไลน์ อย่างไรก็ตามสั่งให้ชุดสืบสวนนำเครื่องมือวิเคราะห์พิเศษมาใช้ตรวจสอบ เคสแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในคดีภัยออนไลน์ และมีข้อสังเกตว่าเพราะเหตุใดตอนผู้เสียหายใช้บัตรจะมีข้อความการใช้แจ้งให้ทราบ แต่เวลามิจฉาชีพใช้กลับไม่มีข้อความแจ้งให้ทราบ ทั้งนี้จะประสานข้อมูลจากธนาคารเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการติดตามคนร้าย เนื่องจากพฤติกรรมการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 และ ป.อาญา เรื่องการใช้บัตรเครดิตผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต