ชื่อเรื่องที่ 41 ในหนังสือ เรื่องง่ายๆความหมายดีๆ (สุริยเทพ ไชยมงคล สำนักพิมพ์อินสไปร์ พ.ศ.2553) น้ำหอมของชายล้างท่อ... สะดุดใจ ไม่อ่านไม่ได้ชายคนนั้นมีงานประจำ ทำความสะอาดท่อระบายน้ำในชุมชนแห่งหนึ่ง ชาวบ้านคุ้นตา เช้าเขาก้มๆเงยๆเก็บสิ่งปฏิกูลจากท่อน้ำ บ่ายก็ขึ้นรถแล้วนำออกไปทิ้งที่ที่นานอกเมืองเด็กๆเคยชวนกันเฉียดเข้าไปใกล้ ได้กลิ่นน้ำเน่า ก็แปลกใจ ไม่เห็นเขาใช้หน้ากากปิดจมูก ทำงานได้ทุกวัน ต่อเนื่องนานปีแล้ววันหนึ่ง ชายล้างท่อเดินเข้าไปซื้อของในตลาด เขาเดินผ่านแผงลอยขายน้ำหอมกลิ่นกุหลาบ คนขายตั้งใจเรียกลูกค้าเข้าคิว ชายล้างท่อสนใจ ถึงคิวเขาก็ลองดมพอได้กลิ่น เขาก็คลื่นไส้วิงเวียนรุนแรง เป็นลมล้มพับพ่อค้าตกใจ ลูกค้าในแถวก็ตะลึง ตั้งสติได้ก็ช่วยกันเยียวยา ยาหม่อง ยาหอม ยาดม ยาอม หลายยี่ห้อ ที่พอหาได้ แต่ชายล้างท่อ ก็ยังแน่นิ่งขณะนั้น ผู้พิพากษาก็เดินผ่านมา เขาเห็นเครื่องแต่งกาย ก็รู้เป็นชายล้างท่อ จึงเดินไปหยิบโคลนเละๆจากท่อน้ำเน่า มาจ่อๆ ที่ชายจมูก ครู่เดียวเท่านั้น ชายล้างท่อก็ฟื้นคนในบริเวณซุบซิบประหลาดใจ ผู้พิพากษาอธิบาย “เขาเคยชินกับกลิ่นน้ำเน่าในท่อ จึงทนกลิ่นกุหลาบของน้ำหอมไม่ได้” เรื่องง่ายๆ จบแค่นี้...มีคำอธิบายความหมายดีๆ...น้ำหอมสำหรับชายล้างท่อ ย่อมจะไม่เหมือนคนทั่วไปคนแต่ละคนมีไม้บรรทัดของตัวเองในใจ และมักนำไปวัดกับเหตุการณ์ต่างๆรอบตัว เรื่องไหนผิด เรื่องไหนเขาชอบ และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ชอบ นานๆไปสิ่งเหล่านั้นก็กลายเป็นความเคยชินเมื่อเจอเรื่องที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานในใจ พวกเขาย่อมปฏิเสธ นี่คือเรื่องปกติของคนส่วนใหญ่ชายล้างท่อเคยชินกับกลิ่นเหม็น สำหรับเขากลิ่นน้ำหอมเป็นกลิ่นน่ารังเกียจ กลิ่นน้ำเน่าในท่อเย้ายวนใจมากกว่าเรื่องเล่าเรื่องนี้ ฟังดูเป็นเรื่องตลกน่าหัวเราะ แต่ก็ตลกน่าหัวเราะ พอๆกับเรื่องการเมืองบ้านเราตอนนี้ประชาธิปไตย ในความหมายของแปดพรรคการเมือง...เสียงส่วนใหญ่ กลิ่นอายเป็นอย่างหนึ่งประชาธิปไตย ในความหมายของอีกหลายพรรคการเมือง รวม ส.ว. กลิ่นอายอีกอย่างหนึ่งแม้รสนิยมในการดมกลิ่น สองกลุ่มการเมืองจะตรงกันข้าม...แต่สำหรับผม เห็นข้อดี...ที่สองกลุ่มยังอ้างคำว่า “ประชาธิปไตย” เล่นเชิงการเมืองกันอยู่ในสภายังไม่ลากปืนใหญ่ ไม่ขับรถถังตึงตังบนถนน เหมือนทหารไทยทำบ้าง หยุดบ้าง ขณะที่ทหารพม่าทำมานาน และยังทำต่อไป ล่าสุดแพ้เลือกตั้งอองซาน ซูจี ก็ยึดอำนาจ เปิดสงครามกับคนต่างเผ่า วันนี้ยังรบกันไม่หยุดผมคิดมาไกล ได้ถึงตรงนี้...หากสถานการณ์การเมืองพลิกด้าน แบบสุดขั้ว พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกฯ...ก็ถือเสียว่า ยังดีที่ทหารเขาใช้ตัวแทน...มาคุมอำนาจรักไม่รัก โดยนิสัยคนไทยก็ยอม เพราะดูจะอึดอัดคับข้องน้อยกว่าให้ทหารมาแต่งเพลงหลอกชาวบ้าน ขอเวลาๆ แล้วก็ขอต่อๆมา...นี่ก็กว่าแปดปีเข้าไปหลายเดือนผมเคยชอบเพลง “รู้ว่าเขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก” แต่ตอนนี้ตั้งสติได้ หวังว่าคงไม่ถูกหลอกอีกต่อไป เอ! หรือว่า จมูกผมด้าน กลายเป็นชายล้างท่อไปเสียแล้ว.กิเลน ประลองเชิง