ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) แถลงผลการประชุมเพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำประจำสัปดาห์ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบของสภาวะเอลนีโญ มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นยาวไปถึงปีหน้าคาดว่าสถานการณ์น้ำในปี 66-67 จะคล้ายกับสถานการณ์น้ำเมื่อปี 62 ที่เกิดสภาวะเอลนีโญต่อเนื่องจนถึงปี 63ที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมในการบริหารจัดการน้ำเขื่อนต่างๆ รวมถึงแหล่งน้ำสำรองในการให้ความช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยใช้ข้อมูลในปี 63 เพื่อประเมินปริมาณน้ำต้นทุน ณ วันที่ 1 พ.ย.67 สำหรับใช้ในการบริหารจัดการน้ำระยะยาว 2 ปี โดยมุ่งกักเก็บน้ำต้นทุนส่งต่อไปยังปี 67 ให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดภัยแล้งหากยังคงมีปริมาณฝนน้อยต่อเนื่องถึงปีหน้าเนื่องจากปัจจุบันคาดว่าเมื่อสิ้นสุดฤดูฝนปีนี้ ปริมาณน้ำต้นทุน ณ วันที่ 1 พ.ย.66 จะมีปริมาณเพียง 60-70% เท่านั้นด้วยมีปริมาณฝนน้อยส่งผลให้ขณะนี้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำต่างๆ น้อยมาก เช่น เขื่อนสิริกิติ์ ขณะนี้มีปริมาณน้ำน้อย ปัจจุบันจึงต้องใช้น้ำจากเขื่อนภูมิพลช่วยหล่อเลี้ยงเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาเนื่องจากไม่มีน้ำไหลเข้าเพิ่ม ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลจึงพร่องลงไปเรื่อยๆ ในปีนี้จึงต้องเน้นย้ำรณรงค์ช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด สร้างความรู้ความเข้าใจให้เกษตรกรได้เข้าใจสถานการณ์น้ำทั้งในปีนี้และปีหน้า โดยส่งเสริมให้มีการเพาะปลูกเพียงหนึ่งรอบเท่านั้น เพื่อสงวนน้ำไว้สำหรับกิจกรรมต่างๆในฤดูแล้งที่จะมาถึงโดยให้ความสำคัญกับน้ำอุปโภคบริโภคเป็นอันดับแรก รวมถึงป้องกันการยืนต้นตายของไม้ผล ไปจนถึงการใช้น้ำในภาคอุตสาหกรรมและรักษาระบบนิเวศ โดยขอให้เกษตรกรติดตามข่าวสารจากภาครัฐอย่างใกล้ชิดเพื่อลดความเสี่ยงของการเพาะปลูกจากฝนทิ้งช่วง และส่งเสริมให้ประชาชนพัฒนาแหล่งน้ำของตนเองเพื่อรองรับหากเกิดสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงทั้งนี้ การบริหารจัดการน้ำจะต้องคำนึงถึงผลกระทบระยะยาวเพื่อสำรองน้ำไว้จนถึงปี 67 ให้ได้มากที่สุด เพื่อบริหารความเสี่ยงหากสภาวะเอลนีโญเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี 68.สะ-เล-เต