คนกรุงและจังหวัดโดยรอบระทึกแต่เช้า ต่างรีบหนี ลงจากอาคารสูง หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวในทะเล บริเวณอ่าวเบงกอล ประเทศเมียนมา ขนาด 6.0 ส่งผลเกิดแรงสั่นสะเทือนไปไกลเกือบ 500 กม. คนบนตึกสูงต่างรับรู้ได้ถึงแรงสั่นโยก กรมอุตุนิยมวิทยาชี้เหตุเกิดจากการเลื่อนตัวตามแนวระนาบของรอยเลื่อนสะกาย พาดผ่านตอนกลางของประเทศเมียนมา ตามด้วยเกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 3.6-4.4 อีก 5 ครั้ง แต่ไม่ส่งผลกระทบกับไทย ขณะที่กรมทรัพยากรธรณีชี้เพราะ กทม.อยู่บนชั้นดินเหนียวอ่อน คนบนอาคารสูงรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนในครั้งนี้ได้ และไปไกลถึงรังสิต ปทุมธานี ด้านกรมชลประทาน-กฟผ.-ปตท.ยัน เขื่อน-โรงไฟฟ้า-ท่อก๊าซ ยังปกติ ไม่ได้รับผลกระทบใดๆคน กทม. และหลายจังหวัดโดยรอบแตกตื่นแต่เช้าเมื่อจู่ๆสิ่งของภายในอาคารสูงมีอาการสั่นไหว โดยเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. เวลาประมาณ 08.44 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้อยู่อาศัยใน กทม.โดยเฉพาะที่อยู่บนอาคารสูงต่างรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ทำให้แตกตื่นตกใจพากันวิ่งลงจากตึกจ้าละหวั่น ขณะที่ในโลกโซเชียลมีการแจ้งเหตุสั่นไหวบนตึกสูงในพื้นที่ต่างๆ อาทิ ย่านสีลม สุรวงศ์ สุขุมวิท ลาดพร้าว รัชดาภิเษก กรุงเทพกรีฑา บางพลัด หนองแขม เพชรเกษม บางคนมีอาการเวียนหัว ทั้งผู้พักอาศัยและพนักงานบริษัทได้พากันวิ่งลงจากตึกด้วยความตื่นตระหนก มารวมตัวอยู่ที่ริมถนน ขณะที่มีผู้ทำงานบนชั้น 16 อาคารย่านราชดำริ ถ่ายคลิปให้เห็นโคมไฟและสิ่งของที่แขวนในห้องมีการแกว่งไปมานอกจากนี้ แรงสั่นสะเทือนยังทำให้ครูโรงเรียนโยธินบูรณะ ย่านบางโพ ต้องอพยพนักเรียนลงจากอาคารเรียนมารวมตัวที่สนามกีฬา โดยนายดนุภัทร หงษา ผู้ช่วย รอง ผอ.กลุ่มบริหารทั่วไป โรงเรียนโยธินบูรณะ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุอาคารเรียนที่รับรู้ได้ชัดเจนคืออาคาร B ตั้งแต่ชั้น 8 ไปจนถึงชั้น 12 ที่เป็นชั้นสูงสุด โดยขณะที่นักเรียนกำลังเรียนหนังสือ ตึกมีอาการสั่นไหวแต่ไม่รุนแรง ประมาณ 1-2 นาที รีบตรวจสอบกับกรมอุตุนิยมวิทยา ทราบว่าเกิดแผ่นดินไหวที่พม่า รีบสั่งอพยพเด็กลงมาที่สนามฟุตบอลด้านล่าง ทุกอย่างเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และทุกคนปลอดภัย เนื่องจากเคยซ้อมแผนอพยพหนีไฟเป็นประจำ โดยนักเรียนทุกคนรอที่สนามฟุตบอลประมาณ 1 ชม. เมื่อทราบว่าปลอดภัยแล้ว ให้เด็กกลับขึ้นตึกเรียนตามปกติกองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศว่า เมื่อเวลา 08.40 น.ตามเวลาในไทย เกิดแผ่นดินไหวในทะเลขนาด 6.0 ที่ระดับความลึก 10 กม. จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวบริเวณอ่าวเบงกอล ประเทศเมียนมา ที่ละติจูด 15.266 องศาเหนือ ลองจิจูด 96.248 องศาตะวันออก ห่างไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.พบพระ จ.ตาก ประมาณ 289 กม. และห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 490 กม. เบื้องต้นประชาชนที่อาศัยอยู่บนตึกสูงของกรุงเทพฯ นนทบุรี และปทุมธานี รับรู้ถึงแรงสั่น สะเทือนแต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายต่อมา น.ส.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจาก กทม.ประมาณ 500 กิโลเมตร เป็นการเลื่อนตัวตามแนวระนาบของรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นหนึ่งในรอยเลื่อนมีพลังที่พาดผ่านตอนกลางของประเทศเมียนมา เช่น เมืองมัณฑะเลย์ ตองยี เนปิดอว์ พะโค ย่างกุ้ง และต่อยาวลงมาถึงทะเล อันดามัน ทำให้รู้สึกสั่นไหวบนอาคารที่สูงมากกว่า 10 ชั้นขึ้นไปในพื้นที่ กทม. นนทบุรี และสมุทรปราการ เนื่องจากลักษณะของดินอ่อนมีการขยายสัญญาณคลื่นแผ่นดินไหว หลังเกิดเหตุจนถึงเวลา 12.30 น. มีอาฟเตอร์ช็อกที่ตรวจวัดได้ขนาด 3.6-4.4 จำนวน 5 ครั้ง โดยการเกิดอาฟเตอร์ช็อกมีขนาดลดลงเรื่อยๆ ไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทย ทั้งนี้ แม้แผ่นดินไหวจะเป็นภัยพิบัติที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นมากนักในไทย แต่หากรู้สึกถึงการสั่นไหวรุนแรง ข้อควรปฏิบัติคือไม่ควรตื่นตระหนกควรก้มลงกับพื้น มุดใต้โต๊ะ หรือหาที่กำบังศีรษะ คอ หลังจากอาคารหยุดสั่นไหวจึงรีบออกจากอาคาร ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าพนักงานในการหนีภัย ตลอดจนต้องระวังการเกิดอาฟเตอร์ช็อกด้านนายสุวิทย์ โคสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่ปรึกษาทางการบริหารจัดการทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แถลงว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดจากการเคลื่อนตัวของแนวรอยเลื่อนสะกายในประเทศเมียนมา ตามแนวระนาบแบบเหลื่อมขวา ซึ่งมีอัตราการเคลื่อนตัวประมาณ 2 เซนติเมตรต่อปี ประเทศไทย พื้นที่ กทม.22 เขต ได้แก่ เขตดุสิต จตุจักร บางเขน สีลม ลาดพร้าว บางพลัด ราชเทวี ทุ่งครุ ปทุมวัน ห้วยขวาง หลักสี่ ดินแดง พญาไท คลองเตย ราษฎร์บูรณะ บางขุนเทียน หนองแขม คลองสาน สาทร บางรัก สวนหลวง คันนายาว พื้นที่ อ.ปากเกร็ด อ.เมืองนนทบุรี และเทศบาลนครรังสิต จ.ปทุมธานี รับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ เนื่องจากบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะ กทม. รองรับด้วยชั้นดินเหนียวอ่อน เมื่อมีแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว จากระยะไกล จะสามารถขยายคลื่นแผ่นดินไหวได้มากถึง 3 เท่า ส่งผลให้ประชาชนบนอาคารสูงในเขต กทม. นนทบุรี และปทุมธานี รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนในครั้งนี้ได้ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายทั้งนี้ จากสถิติการเกิดแผ่นดินไหวบริเวณอ่าวเบงกอลในรอบ 5 ปีย้อนหลัง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2561-2566 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.1-5.4 รวมจำนวนทั้งสิ้น 28 ครั้ง โดยมีขนาดมากกว่า 5.0 จำนวน 3 ครั้งเวลาต่อมา ที่ศาลาว่าการ กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. แถลงถึงสถานการณ์แผ่นดินไหวว่า ตามข่าวมีการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้จำนวน 22 เขต แต่จากการตรวจสอบ ผอ.เขตได้ประเมินแล้วมีทั้งหมด 10 เขต อาทิ เขตจตุจักร บางรัก คลองเตย ลาดพร้าว บางเขน หลักสี่ ห้วยขวาง บางขุนเทียน บางพลัด หนองแขม เป็นต้น เนื่องจากมีอาคารสูงที่อาจเคลื่อนไหว แต่ในพื้นที่ราบอาจไม่มีผลและยังไม่มีรายงานเรื่องความเสียหายส่วนความกังวลเกี่ยวกับเขื่อนที่อยู่ใกล้เคียงจุดเกิดแผ่นดินไหว วันเดียวกัน นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สำนักสำรวจด้านวิศวกรรมและธรณีวิทยาได้เข้าตรวจสอบค่าอัตราเร่งสูงสุดที่มีผลกระทบต่อเขื่อนแล้วพบว่าค่าอัตราเร่งสูงสุดของพื้นดินที่เกิดขึ้น มีค่าเพียง 0.0004519 g ซึ่งค่าอัตราเร่งสูงสุดที่กรมได้ออกแบบไว้สามารถรองรับแผ่นดินไหว มีค่าไม่น้อยกว่า 0.2 g ดังนั้น ค่าอัตราเร่งสูงสุดที่ตรวจวัดได้ในครั้งนี้จึงเป็นค่าที่น้อยมากและไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวเขื่อนทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทานในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่สอดตอนบน อ่างเก็บน้ำห้วยลึก อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ท้อ อ่างเก็บน้ำแม่ล้อหัก จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำแม่พริก จังหวัดลำปาง แต่อย่างใดเช่นเดียวกับนายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน โฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวยืนยันว่าเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อเขื่อนและโรงไฟฟ้าของ กฟผ.ทั้งเขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี และเขื่อนภูมิพล จ.ตาก โดยการตรวจสอบสภาพเขื่อนมีความมั่นคงแข็งแรงเป็นปกติขณะที่นายวุฒิกร สติฐิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บจม. ปตท. กล่าวว่า ได้ตรวจสอบระบบการรับส่งก๊าซธรรมชาติ พบว่ายังคงเป็นปกติและสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่กระทบต่อการส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่โรงไฟฟ้าและผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติในไทย