กรณีที่มีผู้ร้องทุกข์ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ขอให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต. กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จ.ชลบุรี กับพวก 10 คน ซึ่งเป็นนายตำรวจ 8 นาย อยู่ในสังกัด บช.ภ. 2 และ บช.สอท. ร่วมกับพลเรือน 2 คน อุ้มตัวมากักขังและรีดไถเงินจำนวน 140 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายแจ้งความอ้างว่าเป็นเรื่องเกี่ยวข้องการพนันออนไลน์แลกกับปล่อยให้เปิดเล่นพนันออนไลน์เหตุเกิดท้องที่ สภ.ภูคต ก่อนถูกกลุ่มตำรวจนำตัวผู้เสียหายตระเวนอุ้มรีดเงินหลายพื้นที่จังหวัดชลบุรีสั่นสะเทือนวงการตำรวจ เป็นคำถามว่าเหตุใดทำให้ผู้เสียหายที่เกี่ยวข้องการพนันออนไลน์เข้าข่ายผิดกฎหมาย กล้าเปิดหน้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายตำรวจระดับนายพล ชื่อชั้นไม่ธรรมดา มีเส้นสาย มีที่มาทั้งที่คดีนี้ผู้ร้องประกอบธุรกิจ “สีเทา” ต้องถูกดำเนินคดี แต่กล้าท้าชนแจ้งความเอาผิดนายตำรวจแถมตัวละครนายตำรวจที่ถูกแจ้งความ แต่ละคนไม่ธรรมดา มีชื่อชั้น มีเส้นสาย มีที่มาเป็นเรื่องที่ไม่ปกติตามข่าวระบุว่า ผู้ร้องที่เกี่ยวข้องการพนันออนไลน์ได้ทำการถ่ายคลิปพฤติกรรมของตำรวจกลุ่มนี้มาตั้งแต่ต้น แม้ช่วงเข้าแจ้งความ กลุ่มตำรวจยังโทร.ข่มขู่ให้โอนเงินต่อหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งไม่รู้เท็จจริงแค่ไหน และตามข่าวระบุอีกว่า ตำรวจชุดนี้มีการข่มขู่บังคับให้เจ้าของเว็บพนันออนไลน์จ่ายเงินมาแล้วหลายครั้งจนรับไม่ไหวพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ สั่งด่วนให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลงกำกับดูแลการสืบสวนสอบสวนคดี ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนที่มีทั้งของ บช.ภ.2 บช.ภ.1 และ บช.สอท.เนื่องจากคำร้องทุกข์ของผู้เสียหายยืนยันว่า มีนายตำรวจ 2 หน่วยหลักเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีผบ.ตร.มีคำสั่งให้เรียกตัวนายตำรวจทั้ง 8 นายไปช่วยราชการ ศปก.ตร.สั่งเน้นย้ำดำเนินการตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริง เร่งหาพยานหลักฐาน ทำความจริงให้ปรากฏหากเป็นความผิดจริงตามที่ถูกแจ้งความให้ดำเนินการเด็ดขาดทั้งอาญา วินัยและปกครองกับตำรวจทุกนาย ขยายผลผู้เกี่ยวข้องทุกราย ตามนโยบาย “ปัดกวาดบ้าน” ของ ผบ.ตร. ที่กำชับ ผบช.และ ผบก.ทุกหน่วยงานนี้เป็นหนังภาคยาว ฉากใหญ่อีกฉากของวงการสีกากี อยู่ที่ว่าจะออกมาแนวไหนพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่รับผิดชอบคดี บอกคดีมีมูลความจริง ออกหมายเรียกตัวนายตำรวจ 8 นายรับทราบข้อกล่าวหา ส่วนพลเรือน 2 นายหลบหนีออกนอกประเทศ เตือนตำรวจทั่วประเทศให้เรียนรู้ว่า การที่เข้ามาเป็นตำรวจมีเส้นแบ่งบางๆ ตำรวจกับโจร หากทำไม่ดี เห็นผลประโยชน์ ก้าวข้ามเส้นแบ่งเป็นโจร สุดท้ายต้องถูกดำเนินคดีน่าจะเป็นคติเตือนใจและอุทาหรณ์สอนตำรวจทุกนาย ในการทำงานและทำคดีโลกเปลี่ยนไป ตำรวจต้องปรับตัว.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th