“บิ๊กตู่” ไม่ถาม สปน.คู่สัญญาไอทีวี โบ้ยไม่ใช่ศัตรูใคร “ทักษิณ” จะกลับบ้านว่าไปตามกฎหมาย “วิษณุ” เตือน ประธานรัฐสภาทูลเกล้าฯชื่อมีปัญหาต้องรับผิดชอบ ชี้คน ถูกร้องมีลักษณะต้องห้ามเป็น ส.ส.และแคนดิเดตนายกฯ ถ้าถูกศาลฯสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จะนำรายชื่อไปโหวตชิงนายกฯไม่ได้ “พิธา” โต้รู้ทันเจอดาบเล่มเก่าที่เคยฟัน “ธนาธร” เล่นงาน สวน “เนติบริกร” จ้อคลาดเคลื่อน ยัน ม.151 ไม่เป็นอุปสรรคเลือกนายกฯ “ณัฐวุฒิ” ยันไร้ผลกระทบ มั่นใจสำนวนจบชั้น กกต. เตรียมสู้ทุกเม็ด แม้ ส.ส.เข้าชื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย “สมชัย” ตอก “วิษณุ” อย่ามั่ว แจง ส.ส.-ส.ว.ต้องแยกกันร้องตาม ม.82 ยกตัวอย่าง “ธนาธร” ถึงถูกสั่งพักงาน ส.ส. ไม่เสียสิทธิแคนดิเดตนายกฯ “เรืองไกร” ท้า “พิธา” โชว์บัญชีทรัพย์สิน ไม่ต้องรอ ป.ป.ช.เปิด กกต.ปล่อยผี ลอตแรก 100 ส.ส. “อิทธิพร” คาดสัปดาห์หน้ารับรองครบ 400 เขตคดีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และแคนดิเดตนายกฯของพรรค ก.ก.ถือหุ้นไอทีวี ยังเป็นประเด็นที่ถูกจับตาว่าเป็นความพยายามสกัดกั้นไม่ให้พรรค ก.ก.จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จและขัดขวางไม่ให้นายพิธาได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ระบุไม่ได้มีการสอบถามสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน).คู่สัญญากับไอทีวีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการกันไป “บิ๊กตู่” ถก ครม.ปัดตอบปมหุ้นไอทีวีเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 มิ.ย. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีรัฐมนตรีลาประชุม 3 คน ได้แก่ 1.นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน 2.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช. มหาดไทย และ 3.นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ ก่อนประชุม ที่ห้องโถงกลาง ตึกสันติไมตรี นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นำคณะเข้าพบนายกฯประชาสัมพันธ์และรายงานความก้าวหน้าเกี่ยวกับเครื่องโทคาแมค TT-1 (Thailand Tokamak I : TT-1) เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชันเครื่องแรกของไทย โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับสื่อมวลชนว่า “ดูอนาคตของประเทศไทยอยู่ตรงนี้” ต่อมาผู้สื่อข่าวถามนายกฯถึงปัญหาหุ้นไอทีวี นายกฯโบกมือปฏิเสธ ตัดบทให้ไปดูนิทรรศการดวงอาทิตย์ประดิษฐ์ ส่วนเรื่องไม่เป็นสาระ ไม่พูด อย่ามาถาม ให้ไปดูเรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ ที่มีประโยชน์ให้ไปดูโน่น อะไรที่ไม่มีประโยชน์อย่ามาถามฉันย้ำ ครม.อดทน ยังไม่ได้คุยกับ สปน.ต่อมาเวลา 12.25 น. ภายหลังประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า บอกใน ครม.ว่าต้องอดทน การทำงานปัญหาต่างๆต้องมีเข้ามาตลอดเวลา โดยเฉพาะการบริหาร รัฐบาลยังมีหน้าที่ในการใช้อำนาจบริหารให้ถูกต้องในการแก้ปัญหาให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ที่ประชุมได้หารือหลายเรื่องทั้งพลังงาน ประปา ต้องหามาตรการเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับประชาชนมากเกินไป ทุกคนทราบดีว่าเรายังมีปัญหาเรื่องพลังงานอยู่ ต้องเตรียมมาตรการรองรับ สุดแท้แต่ว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเราเป็นรัฐบาลรักษาการ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงคดีหุ้นไอทีวีว่า ไม่ได้พูดคุยกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอยู่แล้ว อย่าลืมว่าที่ยืนอยู่นี้เป็นอำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ ตุลาการเป็นคนละอำนาจ ใครถึงตรงไหนทำตรงนั้นไปแล้วกัน อย่างนั้นดีกว่า ถ้าไปก้าวล่วงซึ่งกันและกันจะยุ่งไปหมด เพราะวันนี้ยุ่งพออยู่แล้ว ต้องให้เขาทำงานไป“ทักษิณ” กลับบ้านว่าไปตาม ก.ม.พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มาเข้าพบเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ว่า ไม่ได้พูดคุยถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯประกาศจะเดินทางกลับประเทศไทยก่อนวันเกิดเดือน ก.ค. จะไปคุยเรื่องอะไรล่ะ ควรจะไปยุ่งกับเขาไหมล่ะ เป็นอำนาจใคร ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เป็นเรื่องของกฎหมาย จะไปประสาน จะไปรับปากได้อย่างไร ไม่ต้องประกาศอะไร ถ้ากลับมาก็ดำเนินคดีจบ ขั้นตอนกฎหมายมีอยู่แล้ว ไม่ไปเกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น และไม่ใช่ศัตรูของใครทั้งสิ้น มีประเด็นทางกฎหมายไปแก้กันทางกฎหมาย ถ้าเราเอาความขัดแย้งเข้ามามากๆ ประเทศชาติจะเดินไม่ได้ อย่าลืมว่าเราอยู่ในสายตาของโลกด้วย ทำอะไรต้องคิดไปให้ไกล อย่าคิดใกล้ๆ ไม่พ้นสักทีติดหล่มอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ขัดแย้งกับใคร ยินดีด้วยซ้ำถ้าจะมีรัฐบาลใหม่ได้ตามกรอบเวลาที่กำหนด มันดีใช่ไหมล่ะ เพราะต่าง ประเทศรอดูตรงนี้อยู่ เมื่อถามว่านายกฯคิดว่าถึงเวลาที่ต้องสลายขั้วชินวัตรกับขั้วอื่นๆหรือไม่ นายกฯ เดินออกจากโพเดียมพร้อมกล่าวว่า ไม่มีขั้วอะไรทั้งนั้น เราไปสร้างขั้วกันเอง ชี้ทูลเกล้าฯชื่อมีปัญหาต้องรับผิดชอบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนักการเมืองถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะนำรายชื่อดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯได้หรือไม่ว่า ปกติการแต่งตั้งตำแหน่งใดเป็นพระราชอำนาจ กรณีแต่งตั้งข้าราชการประจำ ผู้พิพากษา อัยการ อธิบดี หรือการขอเครื่องราช อิสริยาภรณ์ มีข้อตกลงกับสำนักพระราชวังมา 2-3 ปี แล้วให้ตรวจเข้มงวดกวดขัน ถ้ามีให้กราบบังคมทูลขึ้นไปว่ามีเหตุอย่างนี้อยู่ ส่วนจะโปรดเกล้าฯอย่างไรแล้วแต่ คำตอบนี้เป็นคำตอบเดียวกัน การทูลเกล้าฯชื่อนายกฯก็ใช้หลักการนี้ ผู้รับผิดชอบหากมีอะไรเกิดขึ้นคือผู้รับสนองพระราชโองการ กรณีเสนอชื่อนายกฯคือประธานรัฐสภา การรับสนองคือการรับผิดชอบแทน เพราะสิ่งที่ทูลเกล้าฯไปต้องเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วต้องรับผิดชอบอย่างนั้น เหมือนสมัยก่อนโหวต พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์ เป็นนายกฯ แต่นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ ประธานรัฐสภาสมัยนั้นไปเสนอชื่อนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกฯ นายอาทิตย์รับผิดชอบไป ประธานรัฐสภาต้องดูแลให้ถูกต้องให้ดี ถ้าจะเบรกอะไรเบรกในชั้นประธานรัฐสภาถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชิงนายกฯไม่ได้เมื่อถามว่าหากแคนดิเดตนายกฯคนใดถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีที่มีการร้องว่ามีลักษณะต้องห้ามการเป็น ส.ส.และแคนดิเดตนายกฯ จะนำรายชื่อนั้นไปโหวตนายกฯได้หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า “ไม่ได้” เมื่อถามย้ำว่าแม้คดีจะยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ยังไม่มีคำตัดสินออกมา จะไปโหวตได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวย้ำว่า ไม่ได้ เพราะเมื่อถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว เข้าไปทำหน้าที่ไม่ได้ แล้วไปตั้งทำไม และชื่อนั้นไม่เสนอเข้ามา แต่ปกติศาลจะไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เร็วเกินไป ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรส.ส.ยื่น ม.82 รอหลังปฏิญาณตนเมื่อถามว่าการจะไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าบุคคลใดมีลักษณะต้องห้ามจะใช้กฎหมายใด นายวิษณุกล่าวว่า ใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 82 ผู้ที่ร้องได้คือ ส.ส.จำนวน 1 ใน 10 หรือ 50 คน จะยื่นได้ หลังปฏิญาณตนเรียบร้อยแล้ว หรือ ส.ว.1 ใน 10 หรือ 25 คน ลงชื่อเพื่อตรวจสอบ ส.ส. ส.ว. รัฐมนตรีได้ โดยยื่นผ่านประธานรัฐสภา เมื่อเลือกกันแล้ว และอีกช่องทางหนึ่งคือ กกต.เป็นผู้ยื่น ส่วน กกต.จะฟ้องใครด้วยความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 151 ต้องไปช่องทางศาลอาญา และไม่มีขั้นตอนการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่มาตรา 151 เป็นที่มาของทุกเรื่อง ถูกต้องแล้วที่ไม่รับเรื่องอื่น เพราะเมื่อมาตรา 151 ออกมาแล้วคุมหมดทุกอย่าง แต่กระบวนการนี้ใช้เวลานาน เพราะใช้กระบวนการยุติธรรมปกติ “เสี่ยหนู” ปัด พรรคภูมิใจไทยไม่ชกใต้เข็มขัดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายนิกม์ แสงศิรินาวิน อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม พรรค ภท. ไหว้ขอโทษที่ทำให้พรรคเสื่อมเสียชื่อเสียงจากประเด็นรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวีว่า เป็นเรื่องส่วนตัว ยังไม่ได้เจอกัน เขาเพิ่งมาเป็นสมาชิกก่อนเลือกตั้งนิดเดียว และทำในฐานะประชาชน ไม่ได้ทำในฐานะ ภท. พรรคไม่ทำเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ยืนยัน ภท.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องนี้เลยทั้งสิ้น มีคนพยายามไปเขียนข่าวโยงอะไร ไม่เกี่ยว ตนยิ่งไม่เกี่ยว นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้ร้อง ยิ่งไม่เกี่ยวอะไรใหญ่เลย ยืนยันนั่งยันนอนยันว่าไม่เคยเสียเวลามาทำอะไรเรื่องพวกนี้ เราไม่ชกใต้เข็มขัดอยู่แล้วรับเป็นเพื่อน “สารัชถ์” มา 40 ปีเมื่อถามว่ามีการเปิดชื่อบริษัทที่ถือหุ้นใหญ่ไอทีวี ยังมีชื่อบริษัทซิโนไทยถืออยู่อันดับที่ 5 คนอาจไปโยงกัน นายอนุทินกล่าวว่า ไปโยงกันเอง อย่าพยายามไปโยงอะไรที่มันไม่เกี่ยวข้อง ที่เอารูปตนไปโยงว่าเกี่ยวข้องกับนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัทกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นเพื่อนกันมา 40 ปี และความเป็นเพื่อนไม่มีวันหมดอายุ แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลหรืองานการเมือง แต่ถ้าคนจะหาเรื่องคงเอาไปโยงได้หมด“วราวุธ” เชื่อปลาย มิ.ย. รับรอง ส.ส.จบนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เริ่มประกาศรับรองผล ส.ส.บางส่วนเมื่อ 13 มิ.ย. ว่า ชทพ.หวังว่าเป็นหนึ่งในลอตแรกๆที่ กกต.จะรับรอง ส.ส.ถือเป็นสิ่งที่ดี เชื่อว่า กกต.ทำงานเต็มที่ พยายามตรวจสอบเรื่องที่ร้องเรียนเข้ามาก่อนจะรับรองให้เรียบร้อยในเวลาที่กำหนด ผ่านมายังไม่ถึงเดือนเชื่อว่าจะเสร็จก่อนเวลาที่กำหนดภายใน 60 วัน กกต.ต้องรับรองให้ได้ 95% แต่ดูจากการเลือกตั้ง ครั้งที่ผ่านมา เรื่องร้องเรียนไม่ได้มากเหมือนครั้งก่อนๆ คาดว่าน่าจะทำได้รวดเร็วกว่ากำหนด ดีไม่ดีปลายเดือน มิ.ย.อาจเรียบร้อยแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้“วิโรจน์” เย้ยสมุน-ผู้บงการหักกันเองวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่า หลังจากนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก. แถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ตอกย้ำกระบวนการพยายามฟื้นสถานะความเป็นสื่อให้บริษัทไอทีวี สร้างหลักฐานเท็จแก้ไขเอกสารการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ไม่ตรงกับคลิปบันทึกการประชุมที่มีสื่อมวลชนนำมาเผยแพร่ ล่าสุดนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวหลายครั้งระบุว่า มันจบแล้วครับนาย ณ วินาทีนี้ ทั้งสมุนและผู้บงการ ไม่ได้กลัวฝ่ายตรงข้ามเลย ต่างคนต่างกลัวว่าจะหักหลังกันเองมากกว่า ดูการให้สัมภาษณ์ช่วงหลังๆสิ เขาไม่ได้ต้องการจะสื่อสารกับฝ่ายตรงข้ามหรอกเขาพยายามที่ส่งสัญญาณขู่ เตือนถึงกันและกันมากกว่า “พิธา” ออกงานหารือสมาพันธ์ SME ไทยเมื่อเวลา 13.30 น. ที่สมาพันธ์ SME บริเวณชั้น 2 สมาคมนักเรียนเก่าอำนวยศิลป์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. พร้อมคณะ เดินทางเข้าร่วมหารือกับนายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์ SME ไทย และคณะ โดยก่อนเริ่มการประชุมนายแสงชัยกล่าวว่า เป็นเกียรติที่พรรค ก.ก.มาร่วมประชุมในวันนี้กับสมาพันธ์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย วันนี้เป็นวันสำคัญอย่างยิ่ง ที่พรรค ก.ก.ได้ชงนโยบาย SME แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ ที่ไม่ได้เป็นปัญหาปลีกย่อย แต่เป็นปัญหาใหญ่ เป็นการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ในเรื่องของมาตรการต่างๆจะต้องพูดคุยกันโดยจะมีการชี้แจงในรายละเอียดต่อไป นายพิธากล่าวว่า ครั้งก่อนสมาพันธ์ฯมีโอกาสไปเยี่ยมพรรค ก.ก. พรรคสัญญาจะกลับมาเยี่ยมที่สมาพันธ์ฯ คงได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนพูดคุยกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมุดปกขาว (รายงานผลการดำเนินงานประจำปี) กับสมาพันธ์ฯเพื่อให้รัฐบาลเป็นปากเป็นเสียง ช่วยสนับสนุนให้พี่น้อง SME และยังมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนในสถานการณ์เศรษฐกิจไทยหลังวิกฤติโควิด-19 ได้ทำการบ้านต่อ เปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนอย่างมาเลเซียเพื่อจะดู 3-4 ปีที่ผ่านมาในช่วงเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจโลก ช่วงเปลี่ยนผ่านของเอเชีย ภาพ SME ไทยอยู่ตรงไหน จึงใช้โอกาสนี้ในการเพิ่มเติมความเห็นจากคราวที่แล้วในการทำงานร่วมกันเล็งอัปเกรดเป็นสภาเอสเอ็มอีไทยจากนั้นเวลา 16.45 น. นายพิธาแถลงหลังการหารือว่า ได้พูดคุยถึงทิศทางการบริหารเศรษฐกิจแบบมหภาค สถานการณ์เศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะหลังวิกฤติโควิด-19 ถึงปัจจุบัน เปรียบเทียบสถานการณ์ที่ไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ชี้แจงนโยบายหวยใบเสร็จเพิ่มรายได้ ลดต้นทุนพลังงาน ขยายโอกาสผ่านกฎหมายเปลี่ยนเป็นสภาเอสเอ็มอีไทยให้มีโอกาสต่อรอง หากตั้งรัฐบาลสำเร็จเมื่อไหร่จะเร่งผลักดันทันที ส่วนตำแหน่งด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ มีคณะทำงานทางเศรษฐกิจ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เริ่มประชุมกันไปและดูว่าใครเหมาะสม สิ่งที่ทำทันทีคือเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส ตามกรอบเวลาตามที่เคยหาเสียงรู้ทันเจอดาบเล่มเดิมเคยฟัน “ธนาธร”จากนั้นนายพิธาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคลิปบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวีว่า ตามที่เคยได้โพสต์ไปว่ามีขบวนการจะฟื้นไอทีวีขึ้นมา ก่อนที่ น.ส.ฐาปนีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวสามมิติ เสนอกับประชาชน ตอบสั้นๆว่ารู้อยู่แล้ว มีคนส่งข้อมูลมาให้เรื่อยๆ เคยได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อไปแล้ว เราคำนึงถึงฉากทัศน์ที่จะเกิดขึ้น มาตรา 151 ไม่ได้เลยไปจากที่คิด เพราะเคยเกิดขึ้นกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรค อนาคตใหม่มาก่อน และใช้วิธีให้ ส.ส.เข้าชื่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลฎีกาหรือศาลอาญา ยืนยันว่าหลักกฎหมาย หลักฐานพร้อมจะสู้เมื่อเข้าสู่กระบวนการจริงๆ แต่ถึงขณะนี้ กกต.ยังไม่ได้ติดต่อมา เมื่อถามว่า แม้มีการเปิดบันทึกวิดีโอการประชุม แต่ทางกฎหมาย อาจไม่มีน้ำหนักพอจะลบล้างกรณีนายพิธามีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นไอทีวีได้ จะต่อสู้คดีอย่างไร นายพิธากล่าวว่า จะต่อสู้ทุกรายละเอียด ทุกกระบวนความ ยังมั่นใจในหลักฐานและหลักกฎหมาย โดยเฉพาะเมื่อเห็นความไม่ชอบมาพากลที่พยายามสร้างหลักฐาน ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้มั่นใจว่าจะต่อสู้คดีนี้ได้ทุกรูปแบบโต้ ม.151 ไม่เป็นอุปสรรคเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อถามถึงกรณีมาตรา 151 ของนายธนาธร ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดก่อนจะดำเนินคดี แต่ของนายพิธาตั้งเรื่องก่อนศาลจะวินิจฉัย มองว่ามีกระบวนการจะให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนโหวตเลือกนายกฯ นายพิธาตอบว่า ตรงนั้นไม่ได้เป็นประเด็นอะไรในการ โหวตเลือกนายกฯ วันนี้เห็นข่าวที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯพูดออกมา ข้อมูลข้อเท็จจริงน่าจะคลาดเคลื่อน “ผมจำได้ว่า ตอนที่นายธนาธรโดนหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาฯ แต่ตอนที่โหวตเลือกนายกฯเป็นคุณชวน หลีกภัยไปแล้ว ฉะนั้นวันที่ 23 พ.ค. กับวันที่ 5 มิ.ย. หรืออะไรประมาณนี้ เดี๋ยวคุณต้องเช็กข้อมูลให้ผมว่าพูดถูกหรือเปล่า แต่สองวันนี้ถึงแม้ว่าจะโดนสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ยังเข้าไปเลือกนายกฯได้อยู่ดี เท่าที่ผมอ่านข่าวไม่ได้เป็นตามที่นายวิษณุบอกว่าไม่ได้ ผมว่าคลาดเคลื่อน ฉะนั้นไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นอะไรกับ 151 คิดว่ามันไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเข้าสู่กระบวนการเลือกผมเป็นนายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย”เสียงแข็งสกัดกั้นยังไงไม่มีทางขวางได้เมื่อถามว่าหากมี ส.ส.เข้าชื่อกัน ทำให้การโหวตเลือกนายกฯต้องเลื่อนออกไปจะเกิดผลกระทบอย่างไร นายพิธายอมรับว่า เพิ่งเคยได้ยินแนวคิดแบบนี้ จึงขอไปดูข้อบังคับก่อนว่าทำได้มากน้อยแค่ไหนหรือต้องใช้ ส.ส.กี่คนเข้าชื่อ เมื่อถามถึงกรณีส่วนความคืบหน้าในการยื่นบัญชีทรัพย์สิน นายพิธากล่าวว่า ต้องทำตามที่กฎหมายอนุญาต คือวันสุดท้ายคือวันที่ 18 มิ.ย. ด้วยวิธีออนไลน์หรือส่งไปรษณีย์ เพราะหากยื่นด้วยตัวเองในวันที่ 16 มิ.ย. จะตรงกับวันเสาร์อาทิตย์ยืนยันว่าจะทำให้รัดกุมมากที่สุด เมื่อถามว่าในที่ประชุมกรรมาธิการวุฒิสภา มีการพูดถึงมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ หากมีการรับรอง ส.ส.แล้ว จะเปิดช่องให้ ส.ส.หรือ ส.ว. เข้าชื่อกัน 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกแต่ละสภาส่งให้ประธานของสภานั้นๆ ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพนายพิธาได้ นายพิธากล่าวว่า เป็นสิ่งที่เราคิดไว้แล้วว่าจะเกิดขึ้น ที่คิดไว้อยู่ว่าจะเป็นการสกัดกั้น ไม่ให้ตนเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่ว่าจะสกัดกั้นอย่างไร ไม่ทำให้การเป็นแคนดิเดตนายกฯหมดไปยันคดีหุ้นไร้ผลกระทบชงชื่อชิงนายกฯนายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรค ในฐานะฝ่ายกฎหมายของพรรค ก.ก.ให้สัมภาษณ์ว่า ขั้นตอนกรอบกฎหมาย หากคดีนายพิธาถือหุ้นไอทีวีไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ แล้วหากศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราวก่อนโหวตนายกฯในรัฐสภา จะไม่กระทบต่อการเสนอชื่อนายพิธา ชิงเก้าอี้นายกฯคนที่ 30 แต่หากนายพิธาได้รับการโหวตนายกฯแล้ว จากนั้นมีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นอีกกรณีหนึ่ง แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น เชื่อว่าจะไม่เกิดกรณีดังกล่าวขึ้น เชื่อมั่นว่าสำนวนคดีอาจจบในชั้น กกต. หากพิสูจน์ได้ว่าบริษัทไอทีวี ไม่ได้ประกอบธุรกิจสื่อแล้ว และมีคำสั่งต่างๆที่ชัดเจนตั้งแต่ปี 2550 ขณะนี้เรื่องยังไปไม่ถึงศาลฯยังอยู่ในชั้น กกต. รวบรวมข้อเท็จจริง กกต.ยังไม่ได้เชิญนายพิธาเข้าไปชี้แจง พรรคพร้อมชี้แจงทุกประเด็น หรือหาก กกต.มีพยานหลักฐานนำไปสู่กระบวนการของศาลอาจมีการฟ้องคดีต่อศาล กระบวนการอาจไม่ได้แล้วเสร็จก่อนเลือกนายกฯในรัฐสภาเตรียมสู้ขั้นตอน ส.ส.เข้าชื่อชงศาล รธน.นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า นอกจากนี้หากมีการเข้าชื่อกันของ ส.ส.หลังมีการรับรอง ส.ส.แล้ว เพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ พรรคเตรียมความพร้อมในแง่ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน และสิ่งที่พิสูจน์หลายวันที่ผ่านมา ยืนยันได้ว่านายพิธาและพรรค ก.ก.แสดงความบริสุทธิ์ใจเรื่องนี้ จึงไม่กังวลการถือหุ้นไอทีวี ที่ไม่ใช่สื่อมานานแล้ว หลักฐานคลิปวิดีโอการประชุมผู้ถือหุ้น พรรครับทราบมาระดับหนึ่งว่ามีการบันทึกข้อมูลไว้ แต่ขอบคุณที่มีการเปิดเผยรายละเอียด ที่ทำให้เห็นข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มขึ้น จากนี้จะมาดูว่าคลิปมีที่มาที่ไปอย่างไร จะเป็นประโยชน์นำเข้ามาประกอบการพิจารณาหรือไม่ “สมชัย” โพสต์ “วิษณุเทพ อย่ามั่ว”ช่วงค่ำนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ “ดูกร วิษณุเทพ อย่ามั่ว” 1.การร้อง ส.ส.ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตาม ม.82 ของรัฐธรรมนูญนั้น ส.ส.ร้อง ส.ส. ส่วน ส.ว.ก็ร้อง ส.ว. ไม่ใช่ ส.ว.25 คนมาร้อง ส.ส.ขาดคุณสมบัติเพราะ ม.82 มีคำว่า “แห่งสภานั้น” 2.ส.ส. ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ ไม่ทำให้สิทธิในการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหายไป ยังสามารถเสนอชื่อโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ตัวอย่างเช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติปฏิบัติหน้าที่เมื่อ 23 พ.ค.62 การโหวตนายกรัฐมนตรี ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ และนายธนาธร ก็ยังทำได้เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.62 3.การเป็นเทพมิได้หมายความถึงความเป็นอมตะ เมื่ออายุมากอาจจำถูกจำผิด เป็นเรื่องที่เข้าใจได้“เรืองไกร” ชงอีก 4 ประเด็นสอบ “พิธา”เมื่อเวลา 10.20 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้ายื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อ กกต.กรณีการถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก.ก.และแคนดิเดตนายกฯพรรค ก.ก. ประเด็นที่ กกต.ตั้งคณะสืบสวนสอบสวนและไต่สวนตามมาตรา 151 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 โดยนายเรืองไกรกล่าวว่า มีข้อมูล 4 ประเด็นมามอบให้ดังนี้ 1.กรณีนายพิธาโพสต์ในเฟซบุ๊กของตนเอง 2.การโอนหุ้นของนายพิธาที่โอนในวันที่ 25 พ.ค.66 3.รายงานการประชุมวาระท้ายเกี่ยวกับการซักถามของการประชุมผู้ถือหุ้น itv ณ วันที่ 26 เม.ย.66 ที่ถามคำถามเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของ itv รวมถึงไม่ตรงกันกับคลิปภาพที่ออกมา 4.วัตถุประสงค์บริษัท itv หลังถูกบอกเลิกสัญญาจาก สปน. วัตถุประสงค์หลักยังอยู่คือการดำเนินธุรกิจสื่อ แต่งบการเงินในไตรมาสที่ 1 ปี 66 ระบุไว้ว่า มีการทำธุรกิจสื่อตั้งแต่เดือน ก.พ.66 และจะรับรู้รายได้จากการทำสื่อดังกล่าวในไตรมาสที่ 2 พร้อมแนบหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นบริษัท itv บางส่วน ปี 61 และ 62 โดยมีแผนธุรกิจอย่างละเอียดท้าเปิดบัญชีทรัพย์ไม่ต้องรอ ป.ป.ช.“ที่พรรค ก.ก.ยอมรับว่านายพิธาถือหุ้นสื่อจริง แต่เหตุใดไม่แจ้งการถือหุ้น 42,000 หุ้นของ itv ตั้งแต่ เข้ารับตำแหน่ง ส.ส.และมีการยื่นเพิ่มเติมภายหลัง ต้องการจะปกปิดหรือไม่ และยังเลื่อนการยื่นบัญชีทรัพย์สินหลังพ้น ส.ส.อีก จึงขอเรียกร้องให้นายพิธา เปิดบัญชีทรัพย์สินทันทีหลังยื่น ป.ป.ช.หมดแล้วไม่ต้องรอให้ ป.ป.ช.เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ไม่เชื่อว่าทรัพย์มรดกจะมีแค่หุ้นนี้เท่านั้น ยืนยันยื่นตรวจสอบการถือครองหุ้นสื่อนายพิธา ไม่ใช่กระบวนการปลุกผี ผมไม่ใช่พ่อมดหรือหมอผี ทำคนเดียวไม่คิดอะไรเกินเลย มีหน้าที่ร้องก็ร้อง ตรงไหนเห็นว่าเป็นประโยชน์กับผู้ถูกร้องส่งให้ จะไม่ชี้นำสังคมก่อนกระบวนการและเจ้าหน้าที่พิจารณาตัดสิน ทุกวันกระบวนการสังคมมีการชี้นำกัน แล้วจะมีเจ้าหน้าที่มีซ้ำไว้ทำไม ไม่กังวลที่ถูกยื่นร้องใช้เอกสารเท็จ ทันทีที่ กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง จะมายื่นร้องเอาผิดนายพิธาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 อีกครั้ง เรามาตามระบบควรสู้ตามระบบ ท่านมาจากการเลือกตั้งควรสู้ตามระบบ เราเลือกตัวแทน ส.ส.เขตและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ขอให้เข้าใจข้อกฎหมายให้ชัดด้วย” นายเรืองไกรกล่าว“ทนายรัชพล” แจ้งจับ “คิมห์–เรืองไกร”เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.อนุชิต ชาติชูเหลี่ยม สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง ให้ดำเนินคดีกับนายคิมห์ สิริทวีชัย ประธานคณะกรรมการบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พปชร.กรณีบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวีไม่ตรงกับคลิปวิดีโอการประชุมฯ เข้าข่ายเรื่องแจ้งความเท็จ ปลอมเอกสาร นายรัชพลกล่าวว่า พบพิรุธอยู่ 3 ประการ คือคลิปกับเอกสารมีข้อความบางส่วนไม่ตรงกัน เพจนายจตุรงค์ สุขเอียด ระบุมีการลบไฟล์คลิปดังกล่าวทิ้ง และนายคิมห์ ได้ออกหนังสือให้ไอทีวีตรวจสอบ ที่จริงนายคิมห์ต้องชี้แจง เพราะเป็นประธานที่ประชุม ลงลายมือชื่อรับรองเอกสารบันทึกการประชุม หลังจากนี้นายคิมห์ นายเรืองไกรจะฟ้องกลับไม่กลัว ที่ไม่ไปยื่นให้ กกต.ตรวจสอบเพราะล่าช้า หาก กกต.ตรวจสอบพบความผิดต้องมาแจ้งความที่ สน.เช่นกันป.ป.ช.โต้ดองคดีรถเบนซ์นักร้องนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน โพสต์เฟซบุ๊กทวงถาม ป.ป.ช.ถึงความคืบหน้าคำร้องให้ตรวจสอบนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พปชร.รับแคชเชียร์ 25 ล้านบาท รวมถึงรถเบนซ์ รุ่น S560 จากผู้ใหญ่ใจดีว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาของเงิน เบื้องต้นการตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยได้เสนอเข้าสู่คณะอนุกรรมการกลั่นกรอง แต่ยังมีข้อสงสัยที่อนุกรรมการกลั่นกรองต้องสอบเพิ่มเติมในส่วนที่มาของเงินที่เป็นประเด็นสำคัญ ส่วนที่ต้องใช้เวลานานถึง 2 ปีนั้น เพราะต้องขอข้อมูลจากหน่วยงานอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องที่มาของเงิน รถเบนซ์ซื้อจากไหนนำเข้าอย่างไร ป.ป.ช.ตรวจสอบตามขั้นตอน ไม่ได้เพิกเฉย บางเรื่องอาจต้องรอพยานหลักฐานไปเร่งรัดไม่ได้ โดยเฉพาะธนาคาร ที่มีการคุ้มครองข้อมูลลูกค้าต้องใช้เวลาประสานขอรายละเอียด ผู้ร้องและสังคมที่ติดตามต้องใจเย็น เรื่องนี้ใกล้เสร็จแล้ว ผลออกมาอย่างไรจะแถลงให้ทราบกกต.ทยอยรับรอง ส.ส.เขต 100 คนผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ช่วงบ่ายวันที่ 13 มิ.ย. ที่ประชุม กกต.ทยอยรับรอง ส.ส.แบบแบ่งเขต ในกรณีที่ไม่มี เรื่องร้องเรียนใดๆแล้วประมาณ 100 คน และในวันที่ 14 มิ.ย. ได้นัดประชุมกันอีกครั้งเพื่อพิจารณารับรอง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เพื่อให้มี ส.ส.ครบร้อยละ 95 จากนั้นในสัปดาห์หน้าจะเป็นการลงนามรับรองและประกาศรายชื่อ ส.ส.อย่างเป็นทางการ เพื่อให้ ส.ส.มารับเอกสารไปยื่นรายงานตัวต่อสภา ผู้แทนราษฎร ทั้งนี้การประชุมของ กกต.เพื่อพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนั้นจะทำในกลุ่มผู้ชนะเลือกตั้งที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนประมาณ 70% ของจำนวนผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งก่อน หลังจากนั้นจะเริ่มทยอยพิจารณาผู้ที่มีเรื่องร้องเรียนที่มีอยู่ประมาณ 20-30 คน ต่อไป โดยสำนักงาน กกต.ได้วางแผนรับรอง ส.ส.ให้แล้วเสร็จ ก่อนที่นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี จะพ้นจากตำแหน่ง กกต.เนื่องจากอายุครบ 70 ปี ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ปธ.กกต.เผยถกต่อสัปดาห์หน้าครบ 400นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.กล่าวว่า ที่ประชุม กกต.มีวาระการพิจารณาผลการเลือกตั้ง ที่สำนักงาน กกต.เสนอรายชื่อผู้ที่ได้รับการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตครบทั้ง 400 คน ขึ้นมาให้ที่ประชุมพิจารณารับรองหรือไม่ โดยที่ประชุมพิจารณาแล้วยังไม่สามารถประกาศรับรองได้ เนื่องจากการพิจารณาในภาพรวมผู้ที่มีการร้องเรียนและไม่มีการร้องเรียน แต่ยังต้องดูความเห็นผู้ตรวจการเลือกตั้งด้วย ตรงส่วนนี้ยังไม่มีข้อสรุป จึงยังไม่สามารถรับรองได้ ได้มอบหมายให้สำนักงาน กกต.ไปพิจารณาประมวลความเห็น และส่งเรื่องกลับมาให้คณะกรรม การ กกต.ในสัปดาห์หน้า พร้อมกับยื่นรายชื่อผู้ชนะการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเข้ามาให้ที่ประชุม กกต.พิจารณาพร้อมกัน เมื่อถามว่าสัปดาห์หน้ารับรองได้หรือไม่ นายอิทธิพรตอบว่า ขอยังไม่ตอบแบบฟังธง ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่สำนักงาน กกต.นำเสนอมา ถ้าอยู่ในหลักเกณฑ์ที่ประชุม กกต.ทั้ง 6 คนเห็นว่าครบถ้วน ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมก็ประกาศรับรองได้สภาฯจัดพื้นที่รับรายงานตัว ส.ส.ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า สำนักงานเลขาธิการสภาฯ จัดเตรียมสถานที่รับรายงานตัว ส.ส. ใช้ห้องสัมมนาบี 1 เป็นสถานที่รับรายงานตัว ส.ส. ได้ติดตั้งฉากติดป้ายข้อความแสดงความยินดีต้อนรับสมาชิกสภาฯ ชุดที่ 26 ตกแต่งห้องรายงานตัว ส.ส.ที่คาดว่าจะตกแต่งเสร็จเรียบร้อยใน 1-2 วัน และวางระบบสารสนเทศ ทดสอบระบบให้บริการเสร็จแล้ว เตรียม พร้อมรับการรายงานตัว ส.ส. ทันทีที่ กกต.ประกาศรับรอง ส.ส. เอกสารที่ใช้ประกอบการรายงานตัวได้แก่ 1.หนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้ง 2.สำเนาบัตรประชาชน 3.สำเนาทะเบียนบ้าน 4.สำเนาใบสำคัญการสมรส 5.สำเนาบัตรประชาชนคู่สมรส 6.สำเนาหลักฐานวุฒิการศึกษา 7.รูปถ่ายหน้าตรง 1 นิ้ว ที่ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน 3 รูป และรูปถ่าย 2 นิ้ว 6 รูป นอกจากนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาฯจัดโซนรับรอง ส.ส.รอรายงานตัวในห้องสัมมนา โซนถ่ายภาพทำบัตรประจำตัว ส.ส.และพื้นที่รองรับผู้ติดตาม ส.ส.บริเวณโถงด้านหน้าห้องสัมมนา พท.บี้ กกต.สั่งเลือกตั้งใหม่ 3 เขตเมื่อเวลา 13.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายชุมสาย ศรียาภัย รองเลขาธิการพรรค พท. พร้อมด้วยนายกฤษ สีฟ้า ผู้สมัคร ส.ส.พังงา เขต 2 นายพนธกร ใคร่ครวญ ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 10 นายพรรณธนู วรรณกางซ้าย ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 7 ร่วมกันแถลงถึงกรณีพบทุจริตการเลือกตั้ง โดยนายชุมสายกล่าวว่า ได้ร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งต่อ กกต.จังหวัดและ กกต.กลาง ในพื้นที่พังงา เขต 2 ชลบุรี เขต 10 และบุรีรัมย์ เขต 7 เพราะพบการกระทำผิดทุจริตเลือกตั้ง มีพยานหลักฐาน พยานบุคคลชัดเจน แต่ไม่มีความคืบหน้า ไม่สั่งนับคะแนนหรือเลือกตั้งใหม่ กกต.ควรเร่งรัดให้เลือกตั้งใหม่หรือแขวนไว้ก่อน กกต.ต้องไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆเร่งดำเนินคดีคนผิด ส่วนเขตที่มีปัญหาทุจริตส่งเรื่องมาให้พรรค พท. ดำเนินการแล้ว 19 เขต ถ้า กกต.ตรวจสอบตรงไปตรงมา พรรค พท.จะได้ ส.ส.เพิ่ม 10 ที่โวยเกิดปัญหาไม่โปร่งใสสารพัดนายกฤษกล่าวว่า เขต 2 พังงา มีเหตุการณ์ไม่สุจริตจากการนับคะแนนไม่ถูกต้อง ห้ามผู้มีสิทธิถ่ายรูป ไม่มีการวินิจฉัยบัตรดีบัตรเสีย ได้ไปยื่นเรื่องร้อง กกต.จังหวัดไว้เมื่อวันที่ 19 พ.ค.แต่กลับสั่งนับคะแนนใหม่เฉพาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้านนายพนธกรกล่าวว่า เขต 10 ชลบุรี มีความผิดปกติ การลงคะแนนบางหน่วยบัตรเลือกตั้งไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่เอาบัตรไปนอกหน่วย มีหลักฐานเป็นคลิปตอนที่เจ้าหน้าที่ขนบัตร หลังนับคะแนนมีบัตรเขย่งเกินมา 4,000 กว่าใบ แต่ประกาศให้นับใหม่ 47 หน่วย กลับไม่มีเขต 10 ชลบุรีเลย นายพรรณธนูกล่าวว่า ปัญหาในเขต 7 บุรีรัมย์ ได้ร้องเรียนกรณีคะแนนที่ขึ้นกระดานที่มีการแก้ไขถึง 3 ครั้ง และหีบบัตรเลือกตั้งมาส่งช้า ทั้งที่นับเสร็จตั้งแต่เวลา 21.00 น.แต่ส่งหีบบัตรเวลา 02.00 น. รวมถึงมีกรณีเอกสารผู้สมัคร ส.ส.ที่ติดหน้าหน่วยไม่ตรงกับที่ กกต.ประกาศโยน รบ.ใหม่สางปมรถไฟฟ้าสายเขียวที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ กทม.เตรียมจ่ายหนี้ให้บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส จำนวน 2 หมื่นล้านบาทว่า ให้เป็นเรื่องของหน่วยงานแก้ปัญหา ถามเราได้อย่างไรเล่า เมื่อถามว่า จะแก้ปัญหาทันรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ให้ไปดูเรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ ที่มีประโยชน์ให้ไปดูโน่น อะไรที่ไม่มีประโยชน์อย่ามาถามฉัน ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า กทม.ยังไม่ส่งรายละเอียดมาให้พิจารณา เมื่อถามว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.บอกว่าเรื่องนี้ค้างอยู่ใน ครม.นายวิษณุตอบว่า ไม่มี คืนกลับไปหมดแล้ว เรื่องนี้อาจจะต้องให้ ครม.ให้ความเห็น ทุกอย่างอยู่ที่ กทม.ตอนนี้ยังไม่รู้ว่า กทม.ตัดสินใจอย่างไร หากตัดสินใจแล้วให้แจ้งมาที่ ครม.ว่าจะเอาเงินหรือจะเอาอย่างไร ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เรื่องนี้หากมาถึง ครม. ตามระเบียบ กกต.แล้ว ครม. คงพิจารณาไม่ได้ คงจะต้องรอรัฐบาลใหม่ผวาคนด่าขึ้นค่าน้ำประปาผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้หยิบยกเรื่องที่การประปานครหลวง (กปน.) เสนอขึ้นค่าน้ำประปาให้กระทรวงมหาดไทย พิจารณานำเข้าที่ประชุม ครม.เนื่องจากกปน.ขาดทุนมาตลอด และไม่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาล โดย พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงกับที่ประชุมว่า หากขึ้นค่าน้ำตอนนี้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่ที่กปน.มาขอช่วงนี้เพราะเกรงว่า หากไปขอรัฐบาลใหม่จะไม่ได้รับการตอบสนอง แต่ถ้าไม่ดำเนินการอะไรรัฐบาลนี้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอยู่ในหน้าที่ไม่ทำอะไร นายกฯเลยมอบหมายให้กระทรวงการคลังไปหาทางออก โดยอาจจะลดต้นทุนของ กปน. เช่น ขอลดราคาค่าไฟที่ใช้ในการผลิตน้ำประปา หรือลดกำไรที่ส่งให้กระทรวงการคลัง“บิ๊กตู่” ย้ำตัดไฟต้นลมแยกปัตตานีแน่อีกเรื่อง เมื่อเวลา 12.25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ เคลื่อนไหวจัดทำประชามติเพื่อขอแยกให้ จ.ปัตตานีเป็นรัฐเอกราชว่า ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายกฎหมาย เข้าตรวจสอบและดำเนินการอยู่แล้ว ในความคิดของสื่อมันถูกไหม ทำได้ไหม ผู้สื่อข่าวถามว่าตัดไฟต้นลมได้อย่างไรเพราะมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เดี๋ยวกฎหมายดำเนินการเอง ฝ่ายความมั่นคงติดตามอยู่แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดไม่อยากให้สถานการณ์กลับไปที่เดิมมีความรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ และต้องรักษาสถานการณ์ไว้ไห้ได้ เช่น พูดคุยสันติสุข ที่ผ่านมาหลายปีเราทำให้ทุกอย่างไปสู่ความสงบเรียบร้อยมากขึ้น และการพูดคุยเป็นการพูดคุยสันติสุขไม่ใช่การเจรจาสันติภาพ เราไม่ได้รบกัน ใช้คำให้มันถูกต้องมทภ.4 ยันดำเนินคดีอย่างรัดกุมก่อนหน้านั้นเวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 (มทภ.4) ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 เป็นประธานประชุมพิจารณาดำเนินคดีกับการจัดกิจกรรมเปิดตัวขบวนนักศึกษาแห่งชาติ โดย มทภ.4 เปิดเผยหลังการหารือว่า ที่ประชุมเห็นตรงกันว่า กิจกรรมดังกล่าวมีแนวโน้มหมิ่นเหม่กระทำผิดกฎหมาย ได้มอบหมายให้ส่วนที่เกี่ยวข้องไปเร่งหาพยานหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างรัดกุมรอบคอบ ตรงไปตรงมา ภายใต้หลักของความยุติธรรม ขอให้ประชาชนในพื้นที่และในประเทศไทยได้รับทราบว่า ส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมยึดกฎกติกาของบ้านเมืองเป็นสำคัญครม.ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินใต้อีก 3 เดือนนายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.รับทราบตามมติของคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งที่ 2/2566 เห็นชอบแผนปฏิบัติการปรับลดพื้นที่การประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยกเว้น อ.ศรีสาคร สุไหงโก-ลก แว้ง สุคิริน จ.นราธิวาส อ.ยะหริ่ง มายอ ไม้แก่น และ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี และ อ.เบตง กาบัง จ.ยะลา) ไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. สิ้นสุดวันที่ 19 ก.ย. นับเป็นครั้งที่ 72