ระหว่างบรรยากาศช้างสารชนกัน และกลัวกันว่าหญ้าแพรกจะแหลกลาญอีกแล้วหรือไม่? คนระดับเจ้าสัวไม่กี่คน ก็มีเรื่องให้ต้องกังวล..จะจ่าย เอ๊ย! หนุนมหาอำนาจซีกไหนอำนาจใหม่ใช้กลยุทธ์ “ฝ่ายรุก” ผู้คนที่รักเป็นห่วง..หากฝ่ายรับ ได้โอกาสตีโต้กลับ อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิดหวนซูเต้าหยิน ขุนนางเก่าสมัยราชวงศ์หมิง..เขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่ง “ว่าด้วยรากผัก” “บุญศักดิ์ แสงระวี” แปลเป็นภาษาไทย สำนักพิมพ์ก.ไก่ พิมพ์ขายปี2536 ตั้งชื่อหนังสือ สายธารแห่งปัญญาในหลายๆเรื่อง มีสองเรื่องเล่าตาเฒ่าหมู่บ้านเผิง และ ตั๊กแตนอหังการ์ ผมอ่านแล้วจี๊ดเข้าหัวใจเรื่องแรก..ทางภาคเหนือของจีนในหมู่บ้านตระกูลเผิง มีตาเฒ่าร่ำรวย แกพยายามทำตัวให้จนแสนจน หน้าหนาวอากาศเย็นจัด แกกัดฟันสวมเสื้อบางๆทั้งขาดทั้งเก่าเสบียงกรังที่มีมากมาย แกก็พยายามไม่กิน ไม่ดื่ม จนผอมโซเวลาใครมาออกปากขอยืม..ตาเฒ่าจึงปฏิเสธได้เต็มปาก “ข้าผอมเหลือแต่กระดูกอยู่แล้ว ไหนเลยจะมีเสบียงอาหารให้เจ้ายืม”โชคร้ายปีนั้นหนาวมาก ตาเฒ่าเล่นบทคนจนใส่เสื้อบางกินข้าวน้อย...ได้ไม่ทันสิ้นฤดูหนาว แกก็หนาวตายทิ้งทองไว้หีบใหญ่ ให้ชาวบ้านนินทาตามหลังภาษิตรากผัก สรุปเป็นบทเรียนสอนคนรวย “คนมีเงินควรใจกว้าง และมีเมตตา”แล้วถ้าเช่นนั้น คนรวยอีกพวก รวยปัญญา คนรุ่นใหม่ที่คิดว่า ฉลาดล้ำลึกกว่าผู้อื่น ควรจะทำอย่างไร?จีนสมัยโบราณ เนิ่นนานกว่าสมัยหมิง ของหวนซูเต้าหยิน...มีเรื่องเล่าเลื่องลือ ของจวงจื๊อ อยู่อีกเรื่องตัวเอกของนิทานเป็นตั๊กแตนตำข้าว ท่านคงเคยเห็นตั๊กแตนตำข้าวมาบ้าง มันมีขาหน้าใหญ่ รูปร่างคล้ายเคียว เมื่อมันจับหนอนใส่ปาก ก็นับว่ามันมีอิทธิฤทธิ์ร้ายกาจเกินตัวถ้ามันแค่ใช้ความเหนือกว่าหนอน จับหนอนกินไปเรื่อยๆตามธรรมชาติ สัตว์ใหญ่ไล่กินสัตว์เล็กมันก็คงอยู่อย่างตั๊กแตนผู้ยิ่งใหญ่ไปเรื่อยๆมนุษย์เองก็ดูจะรู้ดี มันช่วยจับหนอนที่เป็นภัยต่อพืชผล มันมีคุณ จึงมองมันอย่างเอ็นดู มันมีมิตรจิต มนุษย์ก็มีมิตรใจ ไม่เคยมีมนุษย์คนไหนไปทำร้าย นอกจากอดอยากจริงๆ นานๆครั้งจึงจะตัดใจจับมันกินแต่ก็มีตั๊กแตนตัวหนึ่ง ไม่เพียงสงบเสงี่ยมเจียมตัวอยู่ตามประสา วันหนึ่งมันเผลอแสดงความโอหัง...ไปยืนจังก้ากลางถนนใหญ่ ชูเคียวขาหน้าด้วยท่าทีกำแหงกับรถราที่สัญจรผ่านมา มันเผลอคิดว่า ขาหน้าของมันสามารถหยุดยั้งรถได้แน่นอน...รางวัลของความโอหัง ตั๊กแตนตัวนั้น บี้แบนอยู่ใต้ท้องรถคันแรกที่วิ่งผ่านทั้งเรื่องตาเฒ่าหมู่บ้านเผิง และเรื่องตั๊กแตนโอหัง..มีบทสรุปเป็นคำสอนต่อท้าย “ลาภยศ และความฉลาด ไหนเลยจะพึ่งพาอาศัยได้?”สิ่งที่จะช่วยพึ่งพาได้ สิ่งแรก จิตใจที่งดงาม และสิ่งที่สอง ความนอบน้อมถ่อมตนเจ้าสัวที่มีลาภยศสุขสรรเสริญ มักมีชีวิตในเงามืด แห่งความริษยาเอาเปรียบ ที่ไหนจะสามารถหาความสงบสุขจากทรัพย์สินเงินทองประดามีคนฉลาดที่แสดงตัวว่าฉลาดเหนือกว่าใคร ไม่แน่ว่าจะต้องมีชะตากรรมเหมือนตั๊กแตนตำข้าวสุดท้ายก็จะถูกมองว่าเป็นคนโฉดเขลาเบาปัญญา ไหนเลยจะสามารถสร้างคุณงามความดียิ่งใหญ่ให้บ้านเมืองกิเลน ประลองเชิง