การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มี พรรคก้าวไกล เพื่อไทย เป็นแกนนำยังเดินหน้าไปอย่างช้าๆ ไม่สามารถจัดตั้งได้รวดเร็วตามที่ประชาชนและภาคธุรกิจคาดหวัง รัฐธรรมนูญ คสช. ที่ นายมีชัย ฤชุพันธ์ุ เป็น ประธานร่างฯ ได้สร้างกลไกทำให้การจัดตั้งรัฐบาลใหม่เป็นไปอย่างเชื่องช้า กว่าจะได้รัฐบาลใหม่เร็วที่สุดก็กลางเดือนสิงหาคม ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจคนไทยในภาพรวม ทำให้การทำงบประมาณใหม่ล่าช้า ต่างชาติขาดความมั่นใจ ประธานสภาอุตสาหกรรมฯ ประธานสภาหอการค้า ก็ออกมาเตือน นักลงทุนต่างชาติจะหนีไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านกันหมดทุกวันนี้ องค์กรธุรกิจเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า ต่างทยอยให้ข้อมูล คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกฯใหม่ เพื่อให้ทำงานได้ทันที หน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ ก็นัดหมาย ให้ข้อมูลว่าที่นายกฯใหม่ อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ นายกฯเก่า ไม่ค่อยพอใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯรักษาการ ตอบคำถามนักข่าวทำเนียบเรื่องที่พรรคก้าวไกลตั้งทีมงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล สามารถจะขอข้อมูลกับส่วนราชการได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “มันไม่ควร มันไม่สมควร ส่วนราชการเขายังอยู่กับรัฐบาลปัจจุบัน (ที่จริงเป็นรัฐบาลรักษาการ) วันหน้าเขาก็เตรียมข้อมูลต่างๆส่งมอบ ผมก็ยํ้าไปหลายครั้งแล้ว” ในเมื่อวันหน้าก็ต้องส่งมอบ ทำไมไม่ให้ข้อมูลตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้รัฐบาลใหม่เข้ามาแล้วทำงานได้เลย ไม่ต้องรอข้อมูลอีกเดือนสองเดือนกว่าจะได้ทำงานนักข่าวก็นำเรื่องนี้ไปถาม คุณพิธา ก่อนประชุม คณะกรรมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ที่พรรคประชาชาติว่า เป็นการละลาบละล้วงรัฐบาล รักษาการหรือไม่คุณพิธา ตอบว่า ไม่มีการละลาบละล้วง เราทำงานในลักษณะคณะทำงานเปลี่ยนผ่าน พูดคุยกับภาคเอกชน หากพี่น้องข้าราชการต้องการพูดคุยกับนักการเมือง ก็เป็นสิทธิของข้าราชการ แต่ยืนยันว่าไม่เคยเข้าไปละลาบละล้วงขอข้อมูลหรือขอดูงบประมาณแต่อย่างใด ทุกวันนี้ทางหน่วยราชการเป็นคนเชิญเรามาเอง เขามีความกังวลใจในหลายๆเรื่องที่ค้างคาอยู่ใน ครม.ชุดที่แล้ว ซึ่งยังไม่ได้มีการผลักดัน การไปพบกันแต่ละครั้ง เรามีกรอบการทำงานว่า ไม่ไปละลาบละล้วงหรือไปสั่งข้าราชการ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดความสับสนได้ เวลานี้มีหลายหน่วยงานต้องการพูดคุยกับผม และต้องการนำเสนอนโยบายหน่วยงานแต่ละส่วน ทุกอย่างเป็นไปตามหลักการสากลในระยะเปลี่ยนผ่าน เพื่อให้ประชาชนมีความหวัง และให้ข้าราชการมีภาระน้อยที่สุดด้วยบุคลิกที่เป็นมิตรของ ว่าที่นายกฯพิธา ผมเชื่อว่าข้าราชการอยากคุยกับ ว่าที่นายกฯใหม่ มากกว่า นายกฯเก่า รวมทั้งเอกชนด้วย โดยเฉพาะ เรื่องทุจริตคอร์รัปชัน แค่เรื่อง “ส่วยสติกเกอร์” ที่ประเดิม ก็เป็นครั้งแรกที่เอกชนกล้าเปิดโปง เพราะไว้ใจรัฐบาลใหม่วันนี้ คุณอภิชาต ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย หรือสหพันธ์รถบรรทุกทั่วประเทศ 10 องค์กร เปิดเผยว่า จะนำหลักฐานส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกไปมอบให้พรรคก้าวไกล ที่ผ่านมาสู้เรื่องนี้มาตลอด สิ่งหนึ่งที่จะช่วยพรรคก้าวไกลได้คือการให้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง อาทิ ที่มาของสติกเกอร์กว่า 50–60 แบบ คลิปเสียงและคลิปวิดีโอที่มีการแอบถ่ายเอาไว้ว่าเรื่องนี้มีจริง แต่เราไม่สามารถโพสต์ในสื่อโซเชียลได้ เกรงว่าจะผิด พ.ร.บ.คอมฯปัจจุบันมี รถบรรทุกที่จ่ายส่วยสติกเกอร์ราว 150,000–200,000 คัน เฉลี่ยต่อเดือนมูลค่านับพันล้านบาท เพื่อบรรทุกนํ้าหนักเกินและของผิดกฎหมาย ค่าส่วยเหล่านี้จะถูกบวกเป็นต้นทุนค่าขนส่งแล้วส่งต่อให้ประชาชนผู้บริโภครับภาระ ทำให้สินค้ามีราคาแพงถ้า พรรคก้าวไกล และ สหพันธ์รถบรรทุก จับมือกันปราบ ส่วยสติกเกอร์ สำเร็จ รัฐบาลเก่าคงมีหนาวแน่ อาจมี ข้าราชการ และ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ส่งหลักฐานการทุจริตในรัฐบาลเก่าให้รัฐบาลใหม่อีกมากมายแน่นอน.“ลม เปลี่ยนทิศ”