นายกรัฐมนตรีควรต้องมาจาก ส.ส.หรือไม่ ไม่น่าเชื่อว่าประเทศไทยที่เปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เกือบจะครบ 91 ปี ในอีกไม่กี่เดือน ไม่กี่วันนี่แล้วเรายังต้องมานั่งหาคำตอบวนลูปกันอยู่อีกลองไปดูกันบ้างว่าแต่ละพรรคการเมือง เขาให้ความสำคัญกับนายกฯที่มาจากการเลือกตั้งกันอย่างไรเริ่มที่พรรคแรก เพื่อไทย (พท.) ในฐานะว่าที่แชมป์ในศึกเลือกตั้งหนนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าจะไม่มีชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร และ “เศรษฐา ทวีสิน” อยู่ในบัญชี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพราะทั้งคู่ไปอยู่ใน บัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคแล้วที่สำคัญทั้งคู่ไม่ได้มีเป้าหมายที่ตำแหน่ง ส.ส.มาตั้งแต่แรก มุ่งไปที่เก้าอี้ฝ่ายบริหารเท่านั้นขณะที่คู่ท้าชิงจากพรรคเสียงปริ่มน้ำ รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ที่เซียนการเมืองจับตามองกันว่า เลือกตั้งรอบนี้จะสอยที่นั่ง ส.ส.ทะลุ 25 เสียง ซึ่งเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำในการเสนอชื่อนายกฯ ให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาโหวตได้หรือไม่ค่อนข้างชัดเหมือนกันว่า “บิ๊กตู่” ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่ยอมลงมาคลุกฝุ่นในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์เช่นกันขอลอยๆ อยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯ คู่กับ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรค รทสช. ที่จะเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ด้วยส่วนพรรคอื่นๆ ที่แบะท่าเปิดกว้าง พร้อมจับมือกับทุกขั้วจัดตั้งรัฐบาล อย่าง พลังประชารัฐ (พปชร.)“บิ๊กป้อม” ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. จองปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 ควบแคนดิเดตนายกฯพร้อมจะเป็นตัวสอดแทรก เสียบขึ้นนายกฯ คนที่ 30 ได้ตลอดเวลาเช่นเดียวกับ พรรคสายเขียวเซราะกราว ภูมิใจไทย (ภท.)“เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. ก็อยู่ในลิสต์ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ควบกับบัญชีแคนดิเดตนายกฯเพราะหวังว่าการถ่างขาแตะเอาไว้ทุกขั้วการเมือง จะผลักดันให้ถึงฝั่งฝันผู้นำฝ่ายบริหารได้อีกพรรคเก่าแก่ ประชาธิปัตย์ (ปชป.) “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรค ก็จองปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 ควบกับบัญชีแคนดิเดตนายกฯ เช่นกันสำหรับ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ขวัญใจชาวนิวเจน ไม่มีอะไรพิสดาร “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรค อยู่ในลำดับแรกปาร์ตี้ลิสต์ และบัญชีแคนดิเดตนายกฯเช่นเดียวกันนี่คือภาพรวมในการบ่งชี้ถึงที่มานายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทยที่ยกเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะเห็นว่าสังคมไทย เริ่มจะมึนๆ อึนๆ เบลอๆ หรือหลงลืมไปแล้วว่ายุคหนึ่งสมัยหนึ่ง เราเคยเรียกร้องให้นายกฯต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชนจนกระทั่งมาสำเร็จเอาหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬวันนี้เราตกอยู่ภายใต้การปกครองของ ระบอบอำนาจนิยม มาเกือบสิบปีหรือที่ถูกตั้งฉายาให้ว่า “ระบอบประยุทธ์”บางคนที่เคยร่วมต่อสู้เรียกร้องให้นายกฯ ต้องมาจากประชาชนวันนี้ก็ขายวิญญาณให้กับระบอบประยุทธ์ไปเรียบร้อยที่สำคัญคือ ผู้ที่อวดอ้างตัวว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ดันไร้จุดยืนมุ่งแต่ยุทธศาสตร์จะเอาชนะเลือกตั้ง เพื่อบรรลุความต้องการของตนเท่านั้นคนไทยนี่ก็แปลก โดนหักหลังมาไม่รู้กี่ครั้ง แต่ก็ไม่เคยจำ.เพลิงสุริยะ