“โอมูอามูอา” (Oumuamua) เป็นวัตถุระหว่างดวงดาวดวงแรกที่พบว่าเข้ามาเยือนระบบสุริยะของเรา และได้รับความสนใจตั้งแต่ถูกค้นพบในปี 2560 โดยกล้องโทรทรรศน์แพน-สตารร์1 (Pan-STARRS1) ของมหาวิทยาลัยฮาวาย ส่วนชื่อ “โอมูอามูอา” นั้นก็มาจากภาษาฮาวายพื้นเมืองหมายถึงผู้ส่งสารที่มาจากแดนไกลวัตถุจากนอกระบบสุริยะดวงนี้ นักดาราศาสตร์ได้พิจารณาแล้วก็ไม่เหมือนกับดาวหางอื่นๆที่ปกติจะเดินทางเข้ามาจากขอบของระบบสุริยะ เพราะมันขาดทั้งหางและรัศมีคลุมที่เรียก “โคมา” ซึ่งเกิดจากฝุ่นและก๊าซที่อุ่นขึ้นขณะที่มันเคลื่อนผ่านแสงดวงอาทิตย์อันร้อนแรง แต่ที่น่าพิศวงคือ “โอมูอามูอา” มีรูปทรงยาวพิเศษ ที่ไม่เคยพบมาก่อนในดาวหางหรือดาวเคราะห์น้อย โดยเส้นผ่าศูนย์กลางของมันคือราว 100 เมตร เทียบเท่าขนาดสนามฟุตบอล บ้างก็ว่าทรงคล้ายแพนเค้กหรือซิการ์ ทว่าข้อมูลใหม่ที่วัดได้ใหม่ก็คือประมาณ 115 × 111 เมตร ความหนาราว 19 เมตรอย่างที่กล่าวว่ารูปทรงที่ประหลาดและเป็นแขกเยือนจากนอกระบบสุริยะ ก็ทำให้เกิดสมมติฐานมากมายเกี่ยวกับ “โอมูอามูอา” รวมถึงกังขาว่ามันอาจเป็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว แต่สิ่งที่นักดาราศาสตร์สงสัยก็คือ “โอมูอามูอา” มีความเร่งที่แปลกประหลาดเมื่อมันพุ่งออกไปจากดวงอาทิตย์อย่างรวดเร็ว ล่าสุดนักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์ เนีย เบิร์กลีย์ ในสหรัฐอเมริกาได้เสนอคำอธิบายที่น่าเป็นไปได้เกี่ยวกับความเร่งที่แปลกประหลาดของ “โอมูอามูอา” ว่า น่าจะเกิดจากการปล่อยก๊าซไฮโดรเจนเมื่อร่างกายของมันอุ่นขึ้นตอนที่เคลื่อนผ่านระบบสุริยะชั้นใน ให้โครงสร้างน้ำแข็งของ “โอมูอามูอา” จัดเรียงตัวใหม่และปล่อยก๊าซไฮโดรเจนที่ติดอยู่ในน้ำแข็งออกมาแม้จะยังไม่ทราบที่มาจริงๆของ “โอมูอามูอา” แต่คาดว่ามันเดินทางผ่านอวกาศระหว่างดวงดาวมาไม่ถึง 100 ล้านปี มันมีสีแดงที่สอดคล้องกับสีของวัตถุขนาดเล็กจำนวนมากในระบบสุริยะเรา แต่ตอนนี้มันพุ่งผ่านเลยดาวเนปจูนออกไปจากระบบสุริยะแล้ว นักวิจัยระบุว่าวัตถุระหว่างดวงดาว 1-2 ดวง อาจถูกค้นพบทุกปีในระบบสุริยะ เมื่อหอดูดาวแห่งใหม่ที่กำลังสร้างในชิลีเริ่มดำเนินการตามแผนในปีหน้า.ภัค เศารยะ