ข้อเขียนสมัยที่ท่านอาจารย์พุทธทาส ยังหนุ่มๆ (พ.ศ.2492) สำนักพิมพ์ธรรมสภา นำมารวบรวมพิมพ์เป็นเล่มไว้ในหนังสือปกแข็ง เล่มสวย “ชุมนุมความคิดอิสระ” ผู้พิมพ์ตั้งใจให้อ่านกันได้ร้อยปีผมเพิ่งได้มาวันสองวันนี้จากสำนักพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย หน้าวัดบวรฯท่านอาจารย์อ้างพระไตรปิฎกเล่ม 15 หน้า 66 ฉบับสยามรัฐ เป็นเรื่องเทวดา หรือถ้าเป็นคนอยู่ในจำพวก “โลกจัด” ถามพร้อมกันคราวเดียว 4 ข้อข้อ 1 อะไรเป็นใหญ่ในโลก ข้อ 2 อะไรเป็นสุดยอดของทรัพย์สมบัติในโลก ข้อ 3 อะไรในโลกที่จะเปรียบได้กับขี้สนิมของอาวุธ ข้อ 4 อะไรเป็นตัวเสนียดในโลกพระพุทธองค์ตรัสตอบว่าข้อ 1 อำนาจเป็นใหญ่ในโลก ข้อ 2 ผู้หญิงเป็นสุดยอดทรัพย์สินในโลก ข้อ 3 ความโกรธ เป็นของที่เปรียบได้กับขี้สนิมของอาวุธ ข้อ 4 พวกโจร เป็นเสนียดในโลกท่านอาจารย์พุทธทาสตั้งข้อสังเกตว่าเหล่านี้ผู้ถามทูลถามด้วยความรู้สึก หรือระดับจิตใจอย่างโลกๆ จึงทรงตรัสตอบไปในระดับต่ำๆอย่างโลกๆคำตอบจึงเป็นอย่างที่เห็น โดยเฉพาะข้อสอง ผู้หญิงเป็นสุดยอดทรัพย์สินในโลก ยิ่งจำกัดว่าเป็นคำตอบสำหรับผู้ชายด้วยซ้ำที่ว่าระดับความรู้สึกมีอยู่หลายระดับ คำถามคำตอบต้องตรงระดับนั้น เป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่เราใช้กันอยู่ปัญหาเดียวกัน เด็กเล็กถาม ก็ตอบอย่างหนึ่ง เด็กโตถามก็ตอบอย่างหนึ่ง คนโง่ถาม ก็ตอบอย่างหนึ่ง เพื่อนๆที่ฉลาดทันๆกันถาม ก็ต้องตอบอีกอย่างหนึ่งลูกเล็กๆถามพ่อ อะไรเป็นของดีนะพ่อ พ่อก็ตอบไปอย่างหนึ่ง และคำตอบนั้นคงเอาไปใช้ไม่ได้กับเพื่อนฝูงสำหรับที่เกี่ยวกับศาสนานั้น แบ่งชั้นออกเป็นสองชั้น คือชั้นแบบโลกๆ คือวิสัยความคิดนึกของคนธรรมดาสามัญอย่างหนึ่งและชั้นธรรม คือชั้นที่ตรงข้ามกับโลกอีกอย่างหนึ่งพวกที่เป็นชั้นโลก ต้องการเงิน แต่พวกชั้นธรรม ต้องการนิพพาน ซึ่งตรงข้ามกับเงินเมื่อถือตามหลักนี้ คำถามของเทวดา และคำตอบของพระพุทธเจ้าเป็นชั้นโลกๆ คือชั้นที่ยังถือสมมติตัวตนต่ำๆความหมายก็มีขึ้นว่า สำหรับโลกหรืออย่างชั้นโลกๆกันแล้วอำนาจย่อมเป็นใหญ่แต่สำหรับชั้นธรรม สิ่งซึ่งตรงข้ามกับอำนาจย่อมเป็นใหญ่ ได้แก่ การไม่ใช้อำนาจ แต่ปล่อยไปตามเหตุผล หรือความจริงซึ่งคลอดออกมาจากความรัก ความยุติธรรม ความดีงามถูกต้อง ที่ไม่ต้องใช้อำนาจอันเป็นทางนำไปสู่นิพพานโลกเรานี้ในบางคราวตกอยู่ใต้อำนาจอย่างโลกๆ บางคราวก็ตกอยู่ใต้อำนาจธรรมแต่อำนาจโลกกับอำนาจธรรมนั้นต่างกัน อำนาจโลกใช้อำนาจบังคับ แต่อำนาจธรรมใช้อำนาจในการปล่อยเขียนมาถึงตอนนี้ ท่านอาจารย์พุทธทาสจึงสรุปเป็นคำสอนมนุษย์ ผู้ที่ยังรู้สึกตัวว่ายังอยู่ในวิสัยโลก (ผมว่าน่าจะหมายถึงมนุษย์จำพวกนักการเมือง) จงเร่งรีบหาอำนาจที่ดีจริงและเด็ดขาดกล่าวคืออำนาจความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ที่จะใช้บังคับตัวเอง ซึ่งสูงกว่าอำนาจอื่นใด และให้ผลถาวรกว้างขวางกว่าอำนาจอื่นใด ไม่มีทางสะท้อนเป็นผลร้ายทีหลังเหมือนอำนาจเงินหรืออำนาจอาวุธ ซึ่งบางคราวก็มีอำนาจเหนือโลก แต่โยกโคลงเหลือเกิน.กิเลน ประลองเชิง