หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) เป็นชื่อย่อของแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมและเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 เป็นข้อริเริ่มของนายสีจิ้นผิงเมื่อคราวเยือนเอเชียกลางในเดือนกันยายน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเดือนตุลาคม 2013 ตอนนั้นนายสีพูดว่าจะใช้ BRI ประสานนโยบายเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน การค้าคล่องสะดวก การหมุนเวียนทางการเงินและการเชื่อมใจประชาชน เป็นสาระสำคัญ “ร่วมหารือ ร่วมสร้าง ร่วมแบ่งปันเป็นหลักการในการสร้างประโยชน์สุขให้แก่ประเทศและเส้นทางอย่างแท้จริง”BRI ครอบคลุมประเทศและพื้นที่ในเอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ เอเชียตะวันตก เอเชียกลาง และยุโรปตะวันออก พอถึง ค.ศ.2018 จีนลงนามในข้อตกลงความร่วมมือกับประเทศต่างๆ มากถึง 106 ประเทศ องค์การระหว่างประเทศ 29 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ดินแดนยูเรเซียไป แอฟริกา ไปถึงละตินอเมริกาและดินแดนแคริบเบียน แปซิฟิกใต้การร่วมสร้าง BRI ได้รับการบรรจุเป็นวาระการประชุมของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้รับมติเห็นชอบเมื่อคราวประชุมครั้งที่ 2344 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีการประกาศให้ประชาคมโลกร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจระดับเขตพื้นที่ให้เข้มแข็งขึ้นด้วยการใช้ความร่วมมือและข้อตกลงภายใต้ BRIBRI สร้างอิทธิพลให้จีนอย่างคาดไม่ถึง นำความตระหนกตกใจมาสู่สหรัฐฯและตะวันตก ปลาย ค.ศ.2019 เกิดโควิด-19 ในจีน และระบาดอย่างรุนแรงใน ค.ศ.2020 หลายคนคิดว่า BRI ต้องเดี้ยงตามโควิด ทว่าผิดคาดครับ ศูนย์การพัฒนาและการเงินเพื่อความยั่งยืนมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นแห่งมหานครเซี่ยงไฮ้เปิดเผยว่า จีนลงทุนในประเทศตาม BRI เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่ ค.ศ.2019 ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนการตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่เพื่อป้อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าค.ศ.2022 การลงทุนของจีนใน 147 ประเทศตามแนวเส้นทาง BRI เพิ่มขึ้นร้อยละ 63 (เมื่อเทียบกับ ค.ศ.2021) คิดเป็นมูลค่ารวม 3.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โครงการใหญ่ๆ ก็เช่นโครงการของบริษัทจีนที่ร่วมมือกับเมอร์เซเดสเบนซ์ กรุ๊ป (จีนลงทุนกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่ฮังการี) จีนลงทุนด้านน้ำมัน ก๊าซ และพลังงานสะอาดตามเส้นทาง BRI กว่า 9,000 ล้านดอลลาร์ การก่อสร้างในภาคพลังงาน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนโครงสร้างพื้นฐานพวกท่าเรือ ถนน และทางรถไฟลงทุนไปแล้ว 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ประเทศที่จีนไปลงทุนมากที่สุดคือฮังการี ซาอุดีอาระเบีย และสิงคโปร์ ที่ยังไม่มีการลงนามทำข้อตกลงการลงทุนใหม่คือรัสเซีย แองโกลา ศรีลังกา เนปาล และเปรู ที่ลดลงก็คือปากีสถาน กลุ่มประเทศแอฟริกาตอนใต้ของทะเลทรายสะฮารา หลายท่านถามว่าช่วงที่เกิดโควิด-19 ระบาดหนัก ค.ศ.2020–2021 กระทบ BRI บ้างไหม เรียนตามตรงว่ากระทบครับ เพราะทำให้การปล่อยกู้ตามประเทศรายทาง BRI ชะลอตัว และบางประเทศในทวีปแอฟริกาหรือในเอเชียอย่างปากีสถานและศรีลังกาต้องผิดนัดชำระหนี้หรือขอเจรจาปรับโครงสร้างหนี้จีนพุ่งพรวดจากประเทศที่ผู้คนอดอยาก กลายเป็นประเทศแถวหน้าสุดของโลกประเทศหนึ่งเพราะความขยันของรัฐบาลที่สร้างสิ่งต่างๆ มารองรับโครงการที่จีนนำเสนอแก่โลก เช่น ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) การสร้างประชาคมขึ้นมาบานเบอะเยอะแยะ เช่น ประชาคมแห่งผลประโยชน์ร่วมกัน ประชาคมแห่งความรับผิดชอบร่วมกัน ประชาคมแห่งโชคชะตาร่วมกัน หรือการสร้างเส้นทางสายไหมต่างๆ เช่น เส้นทางสายไหมสีเขียว เส้นทางสายไหมแห่งสุขภาพ เส้นทางสายไหมแห่งสติปัญญา และเส้นทางสายไหมแห่งสันติภาพ จีนขยันสร้างระเบียงเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นระเบียงเศรษฐกิจจีน-มองโกเลีย-รัสเซีย, จีน-เอเชียกลาง-เอเชียตะวันตก, จีน-คาบสมุทรอินโดจีน, จีน-ปากีสถาน และบังกลาเทศ-จีน-อินเดีย-พม่า กลไกความร่วมมือนับสิบแห่งถูกสร้างขึ้นมา ตามด้วยข้อริเริ่มในประเทศหรือองค์การอื่นๆ และยังมีองค์การความร่วมมืออีกบานเบอะเยอะแยะ เราต้องยอมรับว่า BRI คือโครงการที่ใหญ่ที่สุดและที่ประสบความสำเร็จระดับโลกในคริสต์ศตวรรษที่ 21 หากโครงการนี้ไม่สะดุดหรือถูกทำลายจากประเทศที่ไม่หวังดีเสียก่อน โลกจะเชื่อมโยงกันด้วยเศรษฐกิจ สมประโยชน์กันทุกฝ่าย.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com