ตั้งแต่ปลายปี จนจะหมดเดือนนี้ ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะว่างหรือไม่ วันเพ็ญ ธนธรรมสิริ ตัวหมุนติ้ว เพราะต้องไปส่งท้ายปีเก่าสวัสดีปีใหม่บรรดาพันธมิตร เพื่อนฝูงที่มีเต็มเมือง ซึ่งปีใหม่ไทยยังไปไม่ทันครบ ก็มีปีใหม่จีนมาอีก ทำให้ชีวิตเดือนนี้อลหม่านงานเข้าที่สุด เพราะไหนจะปาร์ตี้กับเพื่อนที่มีทุกวงการ ล่าสุด มีเพื่อนมาจากฝรั่งเศส 6 คน--เพื่อความสะดวกไม่ต้องรับส่ง นัดแนะกันไปมา คุณเพ็ญ จึงให้ทุกคนพักที่บ้านซึ่งเหมือนโรงแรม 5 ดาว และจัดโปรแกรมเต็มเอี้ยด พาไปส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยทุกภาค กินอยู่จัดเต็มทุกมื้อ จนน้ำหนักขึ้น ขาลากไปตามกัน ทั้งเจ้าบ้านและแขก คือ คุณอ๊อด-คุณเฮี่ยน คุณวีระ-คุณรัตน์ คนลาว-ฝรั่งเศส และ Dominique-Reno เพราะพอลงเครื่องมา ก็พาไปภูเก็ต ลงเรือไปบาบีคิวที่หาดส่วนตัวบนที่ดินแปลงสวยติดทะเล 80 กว่าไร่ โดยสั่งเรือประมงจัดซีฟู้ดเป็นๆ ตัวยักษ์ๆ มาเผากินกันบนหาด กลับจากภูเก็ต ก็พาล่องเจ้าพระยา โดยมีเพื่อนๆมาช่วยกันเป็นเจ้าของบ้านที่ดี อาทิ พล.ร.อ.ชัยโรจน์ กับคุณนายคนสวย ชนัญญารักษ์ เพ็ชรรัตน์ ผศ.ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ ดร.เสรี นนทสูติ ซึ่ง ดร.ไก่-เสรี พาลงเรือชมวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา อาสาเป็นไกด์ บรรยายประวัติศาสตร์ไทยอย่างลึก จนน่าสงสัยว่ากลับชาติมาเกิด แต่หลังจบทริปชมวัด แล้วไปดินเนอร์อาหารไทยมิชลิน ดร.ไก่ ก็ไม่ต้องบรรยายต่อ เพราะกลายเป็น คุณเฮี่ยน คุณอ๊อด สองสามีภรรยาชาวลาว ที่ได้สัญชาติฝรั่งเศสหลายสิบปีแล้ว เล่าประสบการณ์จริงตอนเวียงจันทน์แตก เมื่อ ค.ศ.1975 ให้ทุกคนตาโต เพราะตอนนั้น คุณเฮี่ยน อายุเพิ่ง 20 ปี ต้องอยู่แบบบ้านแตกสาแหรกขาด จะไปไหนก็มีคนตามดู แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้โชคชะตา ก็ตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า หาช่องหนีออกมาเมืองไทยได้ในปี 1977 โดยมีเงินเพียง 20 ดอลลาร์ยูเอส เพราะต้องจ่ายค่าคนพาหนีไป 300 ดอลลาร์ ซึ่ง 47 ปีก่อนถือว่ามาก ระหว่างเดินทางทางเรือ ต้องหลบซ่อนตามเกาะแก่งไปตลอด เพราะต้องเดินทางตีสองตีสาม ไม่งั้นลาวแดงเห็นจะถูกยิงทิ้ง พอถึงฝั่งไทย ก็เจอขโมยของที่แทบไม่มีติดตัวไปอีก ต้องอ้อนวอนเจ้าของบ้าน ขอเข้าไปในบ้าน แต่เจ้าของบ้านบอกไม่มีที่ ก็ขอเข้าไปยืน ก็ยังดีกว่าอยู่ข้างนอก หลบซ่อนกันไปอย่างนี้ ทั้งกลัวและลำบากเลือดตากระเด็น จนถึงค่ายผู้อพยพที่หนองคาย และอยู่ที่นั่นนาน 6 เดือนในห้องขนาดแมวดิ้นตายแต่อัดกัน 3 ครอบครัว เช้าก็ไปรับปันน้ำ คิวเป็นหมื่นคน จนในที่สุดได้ลี้ภัยไปฝรั่งเศส ส่วน คุณอ๊อด ดีกว่า เพราะเป็นลูกชายนายตำรวจสันติบาลระดับสูง ซึ่งรู้ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น จึงรีบทำเอกสารให้ลูกชายได้ออกจากประเทศอย่างถูกต้อง--แต่ตัวคุณพ่อเอง ถูกจับกุมและนำตัวไป “สัมมนา” (ควบคุมตัวในเรือนจำ) นานถึง 11 ปี ก่อนจะได้อิสระ และ คุณอ๊อด ซึ่งพบรัก คุณเฮี่ยน ก็รับไปอยู่ที่ฝรั่งเศส แต่เพราะอายุมากอยู่สบายได้ไม่นาน ก็ป่วยติดเตียง จนจากไป ที่ทุกคนทึ่งมากคือเรื่องราว คุณเฮี่ยน ซึ่งเป็นหญิงนักสู้ชีวิต ซึ่งแม้จะผ่านไป 40 ปีแล้ว แต่น้ำตายังซึมๆเมื่อเล่าถึงชีวิตที่ตกยากลำเค็ญแสนเข็ญที่สุดเมื่อเมืองแตก ครอบครัวสาแหรกขาด ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ จนได้ไปฝรั่งเศสแล้วก็ต้องทำงานลำบากมากอยู่นาน เพราะเป็นพลเมืองชั้นสาม แต่ด้วยความอดทน คุณเฮี่ยน คุณอ๊อด ซึ่งช่วยกันทำมาหากิน ทำเปาะเปี๊ยะแช่แข็งขาย จึงมีฐานะเศรษฐี เพราะเป็นโรงงานใหญ่ที่สุดและรายเดียวในฝรั่งเศส ซึ่งหน้าเทศกาล จะต้องระดมคนงาน 200 คน ทำงานกันทั้งกะกลางวันและกลางคืน จนก่อนโควิดทั้งคู่ซึ่งเห็นว่าชีวิตเหนื่อยสาหัสมาจนอายุ 70 แล้ว จึงตัดสินใจขายกิจการไป และใช้ชีวิตพักผ่อนท่องเที่ยวทั่วโลก และได้เป็นบุคคลตัวอย่างของเมือง ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นต่างชาติที่ขยันอดทน ต่อสู้ และกตัญญูเพราะหาทางไปรับแม่และพี่สาวมาอยู่ด้วยจนได้--ที่คนไทยฟังและนิ่งไปตามกันกับเรื่องราวของ คุณเฮี่ยน ที่บอกว่า ไปมาทั่วโลกแล้ว เมืองไทยเป็นประเทศหนึ่งที่น่าอยู่ที่สุด ถ้าประชาชนรัก สามัคคีกัน ก็ไม่ต้องมีสภาพเหมือนตอนเวียงจันทน์แตก ซึ่ง คุณเฮี่ยน บอกว่าไม่รู้จะพูดบรรยายยังไง ถึงชีวิตที่แสนทุกข์เหนื่อยยาก จนบอกได้ว่า น้ำตาที่ไหลออกมาไม่ใช่น้ำ แต่เป็นเลือด.โสมชบาแนะนำกิจกรรมน่าสนใจใน "กรุงเทพ"Klook.com (function (d, sc, u) { var s = d.createElement(sc), p = d.getElementsByTagName(sc)[0]; s.type = "text/javascript"; s.async = true; s.src = u; p.parentNode.insertBefore(s, p); })( document, "script", "https://affiliate.klook.com/widget/fetch-iframe-init.js" );