“ทำไมไม่เป็นอย่างนั้น...ทำไมไม่เป็นอย่างนี้” นี่คือวลีติดเทรนด์ที่ถูกเอ่ยถึงในสื่อโซเชียลมากที่สุด!!ความรู้สึกส่วนตัวนำหน้าเหตุผล ตรรกะ พยาน ไม่ว่าจะพยานบุคคลหรือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ผู้พิพากษาอุปโลกน์ทางสื่อออนไลน์ ขึ้นนั่งบัลลังก์หน้าคีย์บอร์ด ตัดสินอรรถคดีด้วยอารมณ์รัก เกลียด กลัว หลง เต็มไปด้วยอคติล้วนๆจำเลยทางสื่อออนไลน์อย่าหาญสู้!!ต่อให้มีเหตุมีผลอธิบายได้แค่ไหน แต่ถ้าผู้พิพากษาอุปโลกน์เหล่านั้นได้พิพากษาแล้ว อย่าริต่อปากต่อคำ จะถูกหาว่าแถ มีทัวร์ลง มี “กระบวนการล่าแม่มด” เกิดขึ้นในบันดล!!ยิ่งถ้าไม่อยากต่อปากต่อคำ หรือเปลี่ยนชื่อเฟซ ชื่อไลน์ ก็โดนหาว่าปิดโปรไฟล์หนี จำนนต่อคำกล่าวหาซะงั้นเราเดินทางมาถึง “ขบวนการอยุติธรรม” แบบนี้บนสื่อออนไลน์ตั้งแต่เมื่อไหร่?? และจะทนอยู่กันแบบนี้ไปอีกนานเท่าใด??ตุลาการอุปโลกน์เยี่ยงนี้ มิใช่มีแค่ในสื่อออนไลน์ หากแต่เชื้อร้ายได้กลายพันธุ์เข้าสู่พิธีกรหลักในรายการดังทางทีวี หลายต่อหลายรายการทั้งชี้นำ ทั้งชี้แนะ ทั้งสรุปสำนวน ทั้งสั่งฟ้อง ทั้งพิพากษา ตัดสินเองแบบเบ็ดเสร็จ บางรายการจึงกลายเป็นมาเฟียไปแล้วสมคำร่ำลือ!!เราจะอยู่แบบนี้กันไปอีกนานไหมครับ ไม่มีใครหรือองค์กรใดควบคุมได้เลยหรือ??ขอถามสังคมอีกครั้ง!!“สันติพงษ์ นาคประดา”‘‘แจ๋วริมจอ’’jaewrimjor@gmail.com