ประเพณีลอยกระทง ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าเริ่มขึ้นเมื่อใด แต่เชื่อว่าเป็นประเพณีที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ซึ่งเรียกว่า “พิธีจองเปรียง” หรือ “การลอยพระประทีป”มีหลักฐานจากศิลาจารึกหลักที่ 1 กล่าวถึงงานเผาเทียนเล่นไฟว่าเป็นงานรื่นเริงที่ใหญ่ที่สุดของกรุงสุโขทัย ทำให้เชื่อกันว่าพิธีดังกล่าวน่าจะเป็นงานลอยกระทงการนำกระทงไปลอยน้ำสืบทอดความเชื่อมาแต่ครั้งโบราณ เพื่อขอขมาพระแม่คงคา อธิษฐานขอให้เกิดแต่สิ่งดีในชีวิต เป็นมรดกทางวัฒนธรรมล้ำค่าที่ตกทอดมาจากกรุงสุโขทัย ดินแดนรุ่งอรุณแห่งความสุข เป็นปฐมราชธานีโดยช่วงเทศกาลลอยกระทงปีนี้ จ.สุโขทัย กำหนดจัดงานสืบสานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ อย่างยิ่งใหญ่อลังการ ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย ระหว่างวันที่ 29 ต.ค.-8 พ.ย.ในงานจะมีพิธีตักบาตรรับรุ่งอรุณแห่งความสุข ณ สะพานบุญ วัดตระพังทอง พิธีบวงสรวงบูรพกษัตริย์สุโขทัยทุกพระองค์ ณ พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช การประกวดกระทงเล็ก กระทงใหญ่ พนมหมาก พนมดอกไม้ การประกวดโคมชักโคมแขวน ขบวนแห่นางนพมาศขบวนอัญเชิญไฟพระฤกษ์และพระประทีปพระราชทานของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานมาลอยเป็นปฐมฤกษ์ในสระน้ำโบราณ หรือตระพังตระกวน ณ วัดสระศรีส่วนภาคกลางคืนจะมีกิจกรรมข้าวขวัญวันเล่นไฟ การแสดงประกอบแสงเสียง (Light &Sound) การแสดงตำนานท้าวศรีจุฬาลักษณ์ การแสดงพลุ ตะไล ไฟพะเนียง การจำลองตลาดโบราณสมัยกรุงสุโขทัย (ตลาดแลกเบี้ย) และการประกวดนางนพมาศนายสุชาติ ทีคะสุข รอง ผวจ.รักษาราชการแทน ผวจ.สุโขทัย กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาเกิดการะบาดของโควิด-19 ส่งผลให้มีข้อจำกัดในการจัดงานวิถีแห่งการท่องเที่ยว สำหรับปีนี้ถือเป็นปีพิเศษที่เราสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างเต็มที่ถึง 11 วัน 11 คืนขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกคนมาร่วมสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของเมืองสุโขทัย เพื่อสืบสานอนุรักษ์ประเพณีการลอยพระประทีปให้คงอยู่ตลอดไป.พิษณุ ล้อมวงษ์โสภณ