ปัจจุบันโรคลิ้นหัวใจตีบส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับผู้ป่วยสูงอายุ ทำให้เกิดปัญหาการเสื่อมสภาพของลิ้นหัวใจ อายุยิ่งมากก็ยิ่งมีอาการของโรคสูงขณะที่การรักษาด้วยวิธีการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมผ่านสายสวนแบบไม่ต้องผ่าตัด นับเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ถูกนำมาใช้มากขึ้น เนื่องจากมีความเสี่ยงน้อยกว่าการผ่าตัดล่าสุด รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี นำมาใช้ในการรักษาให้กับผู้ป่วยหญิง สูงอายุวัย 93 ปีที่มีอาการลิ้นหัวใจตีบทำงานผิดปกติอย่างรุนแรง และมีอาการน้ำท่วมปอดได้ผลสำเร็จเป็นรายแรกของภาคตะวันออกนพ.ธันวา พิทักษ์สุธีพงศ์ รอง ผอ.ด้านการบริหารศูนย์ความเชี่ยวชาญระดับสูงและสาขาโรคหัวใจ เผยว่า เทคนิคการทำหัตถการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมด้วยการใช้สายสวนแบบไม่ต้องผ่าตัดเกิดขึ้นในหลายโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศไทย ต้องอาศัยศักยภาพทั้งบุคลากรทางการแพทย์และอุปกรณ์ที่ทันสมัยข้อดีของการรักษาด้วยวิธีนี้คือช่วยลดการพักฟื้นหลังการรักษา เพราะเป็นการทำหัตถการแบบสายสวนผ่านแผลบริเวณขาหนีบ 2 ข้าง ช่วยลดภาวะแทรกซ้อน ลดอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ เสี่ยงเสียชีวิตน้อยกว่าการผ่าตัดแต่ด้วยปัจจัยด้านค่ารักษาเฉพาะส่วนลิ้นหัวใจเทียมมีค่าใช้จ่ายลิ้นละ 1 ล้านบาท ยังไม่มีสิทธิ์สวัสดิการหน่วยงานไหนมารองรับค่าใช้จ่าย อีกทั้งหน่วยงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่เป็นสิทธิ์พื้นฐานของคนไทยยังไม่ครอบคลุม ทำให้ผู้ป่วยต้องจ่ายค่ารักษาเองด้าน นพ.ธีรพงศ์ ตุนาค ผอ.รพ.พระปกเกล้า กล่าวว่า การทำหัตถการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมด้วยเทคนิคการใช้สายสวนแบบไม่ต้องผ่าตัดเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสรอดและใช้ชีวิตต่อได้ถึงแม้สิทธิ์การเบิกจ่ายจะยังไม่เอื้ออำนวย แต่ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า รพ.พระปกเกล้า มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมผ่านกองทุนต่างๆที่เป็นจิตศรัทธาของพี่น้องชาวจันทบุรีอยากเชิญชวนประชาชนร่วมกันบริจาคเข้ากองทุนผู้ป่วยโรคหัวใจ เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน.ศุภชัย จุลละนันท์